กัลยาณมิตรกับความเป็นพระโพธิสัตว์
พระบรมโพธิสัตว์แต่ละพระองค์กว่าจะได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
ท่านต้องสร้างบารมีชนิดเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้แก่ตนเองและคนอื่นเรื่อยมาด้วยปณิธานอันยิ่งใหญ่และมุ่งมั่นนั้น
ท่านจึงยอมสละได้ทุกอย่าง ทั้งทรัพย์สินภายนอกและทรัพย์ภายใน คือ อวัยวะ เลือด
เนื้อแม้กระทั่งชีวิต เพื่อให้ได้มาซึ่งสัพพัญญุตญาณอันประเสริฐ คือ
ญาณหยั่งรู้ในสรรพศาสตร์ที่เป็นเหตุให้รู้แจ้งโลกทั้งปวง
ถึงกับมีการอุปมาในการสร้างบารมีของท่านไว้ว่า ในเส้นทางการสร้างบารมี
แม้จะมีถ่านเพลิงร้อนระอุตลอดเส้นทางมาขวางกั้น
หรือจะมีทะเลเพลิงลุกโพลงโชติช่วงจนมองไม่เห็นฝั่ง
แต่หากรู้ว่าจุดหมายปลายทางข้างหน้า คือ ฝั่งแห่งพระนิพพานอันเป็นบรมสุข
ท่านก็จะอดทนฝ่าฟันข้ามไปเพื่อแลกกับการตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
การที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งปรารถนาพุทธภูมิ
อยากรื้อสัตว์ขนสัตว์ไปสู่พระนิพพานนั้น เพียงแค่คิดก็ยากแล้ว
แต่การลงมือทำตามมโนปณิธานที่ตั้งไว้ยากยิ่งกว่า เพราะจะต้องทำโดยไม่คำนึงถึงเวลาว่าจะอีกกี่เดือน
กี่ปี กี่ภพกี่ชาติ จึงจะสมปรารถนา จะต้องสร้างบารมีอย่างไร้กาลเวลา
บารมีแก่รอบเมื่อไรจึงจะสมปรารถนา และต้องสร้างบารมีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
เมื่อจะทำทานก็ทำแบบทุ่มเทสุดหัวใจ ชาวโลกส่วนใหญ่นั้นอยากได้
แต่พระโพธิสัตว์มีแต่อยากให้ ให้ได้กระทั่งเลือดเนื้อ และชีวิต
จนกระทั่งเกิดอุปมาว่า ท่านได้สละเลือดมากกว่าน้ำในท้องทะเลมหาสมุทร
สละเนื้อเป็นทานมากกว่าแผ่นดินบนชมพูทวีปที่ควักลูกนัยน์ตาก็มากกว่าดวงดาวบนท้องฟ้าและตัดศีรษะบูชาธรรมมากยิ่งกว่าผลมะพร้าวในชมพูทวีป
และเมื่อจะรักษาศีลหรือเจริญภาวนา ก็ทุ่มเททำจนตลอดชีวิต
เพียรพยายามนับภพนับชาติไม่ถ้วน แม้รู้ว่าหนทางสู่ความเป็นพระพุทธเจ้ายังอีกยาวไกล
พระโพธิสัตว์จึงเป็นบุคคลที่มีใจเหนือกว่ามนุษย์ทั้งหลาย
อย่างไรก็ตาม
ขณะที่พระโพธิสัตว์สร้างบารมีอยู่นั้น มีจำนวนไม่น้อยที่ท้อถอยในระหว่างทาง
เพราะยังเป็นประเภทอนิยตโพธิสัตว์
(พระโพธิสัตว์ที่ยังไม่ได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า)
เห็นว่าการรื้อสัตว์ขนสัตว์ช่างยากเย็นแสนเข็ญ จึงปรารถนาเป็นเพียงพระอัครสาวกบ้าง
พระอริยสาวกบ้าง ซึ่งมีระยะเวลาการสร้างบารมีไม่ยาวนานมากนัก
โดยพระอสีติมหาสาวกใช้เวลาอย่างน้อย ๑๐๐,๐๐๐ มหากัป พระอัครสาวกก็ใช้เวลา ๑
อสงไขย กับ ๑๐๐,๐๐๐ มหากัป
ในขณะที่เมื่อปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองและสอนผู้อื่นให้รู้ตามได้
จะต้องสร้างบารมียาวนานถึง ๒๐ อสงไขย กับอีก ๑๐๐,๐๐๐
มหากัป สำหรับผู้ที่เป็นพระปัญญาธิกพุทธเจ้า, ๔๐
อสงไขย กับ ๑๐๐,๐๐๐ มหากัป สำหรับพระสัทธาธิกพุทธเจ้า และ ๘๐
อสงไขยกับ ๑๐๐,๐๐๐ มหากัป สำหรับพระวิริยาธิกพุทธเจ้า
ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมากจนนับภพนับชาติไม่ถ้วน
ดังตัวอย่างของพระสมณโคดมพุทธเจ้า
ต้องสั่งสมบารมีถึง ๒๐ อสงไขย กับ ๑๐๐,๐๐๐ มหากัป
ก็เพื่อจะสั่งสมวิชาครูในการเป็นกัลยาณมิตรให้แก่ชาวโลก โดย ๗
อสงไขยแรกเพียงคิดอยากเป็นพระพุทธเจ้าเท่านั้น ยังไม่กล้าบอกใคร
เมื่อความคิดดีติดแน่นอยู่ที่ศูนย์กลางกายมากขึ้น ก็เปล่งวาจาบอกคนรอบข้าง
เมื่อพบพระพุทธเจ้าพระองค์ใด ท่านจะเข้าไปกราบนมัสการ
ทำบุญกับพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น แล้วกราบทูลถึงความปรารถนาดีของตัวท่านเองว่าอยากจะเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต
พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นก็จะทรงชื่นชมอนุโมทนาและทรงอวยพรให้ท่านสมหวังดังใจปรารถนาเรื่อยมา
ในช่วง ๙ อสงไขยต่อมา ซึ่งท่านได้พบพระพุทธเจ้ามามากมายหลายพระองค์แล้ว
แต่ยังไม่ได้รับคำยืนยันหรือคำพยากรณ์ใด ๆ
อย่างไรก็ตามท่านก็ยังสร้างบารมีอย่างไม่ย่อท้อ ครั้นครบ ๑๖ อสงไขย
ในสมัยที่ท่านเป็นสุเมธดาบส ท่านได้นอนทอดร่างเป็นสะพานเพื่อให้พระทีปังกรพุทธเจ้าและเหล่าพระอรหันต์เดินข้ามโคลนตมไป ท่านจึงได้รับคำพยากรณ์จากพระทีปังกรพุทธเจ้าว่า
อีก ๔ อสงไขยกับ ๑๐๐,๐๐๐ มหากัป
สุเมธดาบสจะได้เป็นพระพุทธเจ้าพระนามว่า “สมณโคดม” และหลังจากนั้นมาอีก
๔ อสงไขย กับ ๑๐๐,๐๐๐ มหากัป
เมื่อบารมีของท่านเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ก็สมปรารถนา
ได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายอดกัลยาณมิตรของโลก สมดังพุทธพยากรณ์ทุกประการ
อาจกล่าวได้ว่า
ผู้ที่ปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์จะต้องมีใจรักในการทำหน้าที่กัลยาณมิตรเป็นชีวิตจิตใจ
และต้องมีใจที่ประกอบด้วยมหากรุณา
จึงจะสามารถยอมเสียสละประโยชน์ตนและใช้ช่วงระยะเวลายาวนาน
ท่ามกลางบททดสอบนานัปการเพื่อสั่งสมบารมีให้แก่รอบ เพื่อจะเป็นพระพุทธเจ้า
ในยามนี้ที่โลกกำลังวุ่นวายด้วยกระแสกิเลสในใจของมวลมนุษย์ จนปรากฏเป็นปัญหาทั้งในระดับครอบครัว สังคม
จนถึงระดับโลก ชาวโลกกำลังต้องการและโหยหาธรรมะเพื่อมาบรรเทาทุกข์ ผู้ที่มีอัธยาศัยชอบช่วยเหลือผู้อื่นคอยทำหน้าที่แนะนำมหาชนให้เดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง
ชักชวนให้ละบาปอกุศล ทำความดีทุกอย่าง
และชักชวนให้ประพฤติปฏิบัติธรรมด้วยการนั่งสมาธิเจริญภาวนา
ถือได้ว่ากำลังดำเนินตามปฏิปทาของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายในกาลก่อน
เป็นบุคคลที่หาได้ยากในโลกใบนี้ถือว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้ “เป็นยอดกัลยาณมิตรผู้มีหัวใจของพระโพธิสัตว์”
ที่นำประโยชน์ใหญ่ให้เกิดขึ้นแก่โลกใบนี้
จากวิชา DF 101
การทำหน้าที่กัลยาณมิตรเบื้องต้น
Cr. พระมหาวุฒิชัย วุฑฺฒิชโย ป.ธ.๙
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๗๙ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐
กัลยาณมิตรกับความเป็นพระโพธิสัตว์
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
22:26
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: