ธัมมัสสวนมัย จิตผ่องใสได้ฟังธรรม


ภิกษุทั้งหลาย เวลาที่ทรงคุณค่าที่บุคคลให้เป็นไปโดยชอบแล้ว

ย่อมทำให้ถึงความสิ้นอาสวะโดยลำดับ เวลาที่ทรงคุณค่า ๔ อย่าง คือ

เวลาฟังธรรมตามกาล เวลาสนทนาธรรมตามกาล เวลาทำความสงบของใจ

และเวลาพิจารณาธรรมให้เกิดความรู้แจ้ง”  (ทุติยกาลสูตร)
----------------------------------------

การฟังธรรมตามกาลเป็นมงคลอันสูงสุดเป็นช่วงเวลาที่ทรงคุณค่ายิ่ง  ที่จะทำให้เกิดปัญญาบริสุทธิ์นำไปสู่ความหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะทั้งมวล ทำให้ได้ยินได้ฟังในสิ่งที่ยังไม่เคยได้ฟัง ได้ทบทวนความรู้ที่เคยได้ยินได้ฟังมาแล้ว ทำให้คลายความสงสัยที่มีอยู่ในใจ และผู้ฟังธรรมเป็นประจำก็จะมีจิตใจผ่องใส เป็นการเพิ่มพูนสัมมาทิฐิให้มีความเห็นถูกต้อง  เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรมว่า  ทำดีได้ดี  ทำชั่วได้ชั่ว  เชื่อเรื่องบาปบุญ  มีความตระหนักว่านรกสวรรค์มีจริง  เป็นภพภูมิที่รองรับผู้ก่อบาปหรือทำความดีเอาไว้  ทำให้อยากจะทำแต่ความดี  ละเว้นจากบาปอกุศลทั้งหลาย  การฟังธรรมจึงเป็นบุญใหญ่บุญละเอียด  ที่พระพุทธองค์ทรงให้ความสำคัญเป็นพิเศษ

นอกจากนี้  ผู้รู้ยังได้กล่าวถึงอานิสงส์การฟังธรรมว่า  บุคคลใดได้ฟังพระสัทธรรมในพระศาสนาของพระชินเจ้า จะทำให้ไม่ตกไปสู่ทุคติตลอดแสนกัป เพราะถ้าหากฟังด้วยจิตที่เลื่อมใสแล้วนำกลับไปพิจารณาไตร่ตรอง จากนั้นก็ลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง ชีวิตหลังความตายก็จะมีแตสุ่คติเป็นที่ไป เป็นการปิดประตูอบายภูมิให้แก่ตัวเองโดยปริยาย



ฟังธรรม : วิชาชีวิตที่ต้องศึกษา

การฟังธรรมเป็นวิชาชีวิตที่ต้องฟังบ่อย ๆ ไม่ใช่นาน ๆ ฟังที หรือบางท่านฟังแล้วไม่เข้าใจก็ไม่อยากฟัง  ที่เราไม่เข้าใจเพราะส่วนใหญ่มัวแต่ศึกษาวิชาทำมาหากิน เรียนวิชารวย จึงไม่คุ้นกับวิชาชีวิตว่าทำอย่างไรจึงจะดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องปลอดภัยทั้งในโลกนี้และในสังสารวัฏ ถึงแม้ชาตินี้จะยังไม่แตกฉานในธรรม แต่จะเป็นอุปนิสัยติดตัวไปในภพชาติเบื้องหน้า และเป็นเหตุให้บรรลุธรรมาภิสมัยได้ในที่สุด

ในสมัยพุทธกาล พระอรหันต์องค์หนึ่งชื่อเอกธรรม ท่านได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ตั้งแต่อายุเพียง ๗ ขวบ เมื่อบรรลุแล้วก็ระลึกชาติในอดีตว่าเคยทำบุญอะไรมา ถึงสามารถบรรลุธรรมตั้งแต่เยาว์วัย ประเภทสุขาปฏิปทา  ขิปปาภิญญา  คือปฏิบัติสะดวก  บรรลุธรรมได้อย่างรวดเร็ว  ไม่ต้องลำบากทำความเพียรเหมือนกับภิกษุรูปอื่น ๆ

พระอรหันต์องค์นี้ได้เล่าเรื่องราวในอดีตชาติของท่านไว้ว่า...

ในสมัยของพระปทุมุตตรพุทธเจ้า  ท่านเกิดเป็นฤๅษีผู้มีตบะกล้า  สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้เหมือนนกบิน มีฤทธิ์ มีเดช มีอานุภาพมาก เพราะบำเพ็ญตบะอยู่ในป่าหิมพานต์เป็นเวลายาวนาน วันหนึ่งท่านเหาะไปที่ป่ามะเดื่อ เพื่อจะหาผลไม้มาขบฉัน บังเอิญว่าในขณะที่เหาะไปนั้น  เหมือนมีกำแพงหมอกมาขวางกั้นเอาไว้  หนทางเบื้องหน้าก็แลดูมืดมิดไปหมด  อุปมาเหมือนนกที่บินเข้าไปใกลภูเขาสูงมหึมา  จะบินข้ามภูเขาก็ไม่ได้ ต้องบินอ้อมอย่างเดียว

มหาฤๅษีสงสัยว่า  บริเวณนี้คงจะมีผู้วิเศษกว่าตนอาศัยอยู่  จึงได้มาขัดขวางหนทางไม่ให้เหาะข้ามไป  ท่านก็เลยอยากประลองฤทธิ์ดูว่าผู้วิเศษท่านนั้นจะสามารถหยุดยั้งท่านได้จริงไหม ท่านจึงแปลงร่างเป็นไอน้ำกลืนเข้ากับบรรยากาศล่องลอยไปเรื่อย ๆ แต่ก็เคลื่อนผ่านบรรยากาศบริเวณนั้นไปไม่ได้ ท่านพยายามพิจารณาหาสาเหตุว่า  ผู้มีอานุภาพที่ไหนมาขัดขวางเราเอาไว้ ไม่ยอมให้ผ่านไปได้

เมื่อเล็งแลดูด้วยทิพยจักษุก็พบว่า  มีสมณะรูปหนึ่งกำลังนั่งแสดงธรรมให้มหาชนฟัง  มหาฤๅษีเห็นฉัพพรรณรังสีของผู้มีอานุภาพท่านนั้นสว่างไสวไปทั่วทั้งอาณาบริเวณ ทันทีที่เห็นก็รู้ว่า บุคคลผู้นี้คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ผู้รู้แจ้งโลกทั้งปวง เป็นผู้มีอานุภาพมากที่สุดในภพทั้งสาม ท่านเห็นแล้วเกิดความศรัทธาเลื่อมใส จึงเหาะเข้าไปใกล้พระพุทธองค์แล้วตั้งใจฟังพระสุรเสียงที่พระพุทธองค์กำลังแสดงธรรมเรื่อง  อนิจจลักขณะ ว่า อนิจจา วต สังขาราสังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ  แม้ได้ยินธรรมะเพียงบทเดียว ก็รู้สึกปลื้มใจ ชื่นอกชื่นใจ เกิดมหาปีติท่วมท้นเพราะอมตธรรมเพียงบทเดียวมีรสเลิศกว่ารสทั้งปวงอีกทั้งพระสุรเสียงของพระพุทธองค์ก็ไพเราะเสนาะโสต  ชัดเจน  แจ่มใส  ไม่แหบ  ไม่พร่า  เสียงก้องกังวาน

ท่านจดจำพระดำรัสเรื่องสังขารไม่เที่ยงแล้วเหาะอ้อมบริเวณนั้นไปด้วยความเคารพ มีจิตเบิกบานผ่องใส  จากนั้นท่านก็หมั่นพิจารณา พร้อมกับบำเพ็ญตบะอยู่ในป่าเป็นเวลานาน ครั้นละโลกแล้วได้ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์



อานุภาพแห่งการตั้งใจฟังธรรม

ด้วยอานิสงส์ที่ฟังธรรมเพียงบทเดียวนั้นทำให้ท่านเสวยสุขในทิพยสมบัติเป็นเวลายาวนานถึง ๓๐,๐๐๐ กัป ท่านเวียนว่ายตายเกิดอยู่ใน ๒ ภพภูมิเท่านั้น คือ เมื่อจุติจากสวรรค์ก็ได้มาเป็นพระเจ้าจักรพรรดิถึง ๓๑ ครั้ง จากนั้นกลับไปเสวยสุขในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อีก ๕๑ ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งใช้เวลานานมาก แล้วกลับมาเกิดเป็นพระราชาประเทศราชอีกหลายหมื่นชาติ ที่พิเศษสำหรับท่านอย่างหนึ่งก็คือ แม้จะไปเกิดในเทวโลกหรือเป็นมนุษย์ ท่านก็สามารถทรงจำบทธรรมบทเดียวนั้นไม่เคยลืมเลือนไปจากใจเลยว่า อนิจจา วต สังขารา สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ ทำให้ท่านเป็นผู้ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต

ในภพชาติสุดท้าย ท่านได้เกิดเป็นลูกของมหาเศรษฐี อายุได้เพียง ๗ ขวบ  บิดานิมนต์พระมาเทศน์ที่บ้าน ลูกชายก็มานั่งฟังธรรมด้วย  ครั้นพระเทศน์ถึงบทว่า  อนิจจา วต สังขารา เท่านั้นธรรมสัญญาเก่าของท่านก็เกิดขึ้น ทำให้เข้าใจแจ่มแจ้งในพระธรรมเทศนาว่า สังขารนี้มีความเกิดขึ้นตั้งอยู่ ดับไปเป็นธรรมดา การเข้าไปสงบสังขารเหล่านั้นทำให้เกิดสุข ในที่สุดท่านก็สามารถทำใจหยุดนิ่งได้สมบูรณ์ ทันทีที่พระเทศน์จบ  ท่านก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์



การฟังธรรมแม้จะเป็นบทเดิม ๆ แต่ทุกบทสามารถขัดเกลาจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใสได้ และจะเป็นพลวปัจจัยให้ได้บรรลุมรรค  ผล  นิพพานในเบื้องต้น  สิ่งที่จะได้จากการฟังธรรมซึ่งเป็นวิชาชีวิต  คือ  อริยทรัพย์  ซึ่งเป็นสมบัติอันล้ำค่ายิ่งกว่าทรัพย์ใด ๆ  ในโลก  เพราะว่าเราจะได้เพิ่มพูนทรัพย์คือศรัทธา  ทำให้มีความเห็นถูกต้อง เมื่อเห็นถูกก็นำไปสู่การพูดถูกและทำถูก ไม่ทำผิด ไม่ทำบาป ทำแต่บุญุกุศล อย่างเดียว เป็นผมูี้ศีลที่สะอาดบริสุทธิ์ มีหิริโอตตัปปะ เกรงกลัวต่อบาปอกุศล จะได้เป็นพหูสูต คือ ได้ยินได้ฟังแต่เรื่องดี ๆ ส่วนเรื่องไม่ดีแม้จะได้ยินได้ฟังมากหรือศึกษามามากก็ไม่ชื่อว่าเป็นพหูสูต เรื่องใดที่ฟังแล้วยกใจให้สูงขึ้นจากบาปอกุศล และสั่งสมไว้ในใจมากเท่าใด ก็ยิ่งชื่อว่าเป็นพหูสูต คนฟังธรรมจะสละอารมณ์ขุ่นข้องหมองใจได้เร็ว เหลือไว้แต่อารมณ์ดี อารมณ์สบาย พร้อมที่จะเป็นภาชนะรองรับการเข้าถึงธรรมภายใน และมีดวงปัญญาพิจารณาเห็นโลกและชีวิตไปตามความเป็นจริง

ส่วนสมบัติภายนอกใช้ได้ก็ตอนที่เรามีชีวิตอยู่  หลังจากนั้นก็นำไปไมได้เลย  การหาโอกาสเข้าไปฟังธรรมหรือสนทนาธรรมกับนักปราชญ์บัณฑิตผู้รู้ทั้งหลาย เป็นสิ่งที่ทุกท่านควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ  จะได้เป็นผู้สมบูรณ์ทั้งโลกิยทรัพย์และอริยทรัพย์ซึ่งเปรียบเสมือนกุญแจดอกสำคัญที่จะไขไปสู่สุคติโลกสวรรค์  เป็นบันไดก้าวไปสู่การบรรลุมรรค ผล นิพพาน

กระจกเงาสามารถสะท้อนให้เห็นความสวยงามหรือขี้ริ้วของร่างกายเราได้ ฉันใด
การฟังธรรมตามกาลก็สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความดีงาม หรือความบกพร่องในตัวเราได้ ฉันนั้น..

Cr. พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ. ๙ / พระมหาวิริยะ ธมฺมสารี ป.ธ. ๙ / ภาพประกอบ : กองพุทธศิลป์
ธัมมัสสวนมัย จิตผ่องใสได้ฟังธรรม ธัมมัสสวนมัย จิตผ่องใสได้ฟังธรรม Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 19:39 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.