ลังกาทวีป ประทีปพุทธธรรม (ตอนที่ ๒)
การเดินทางของพระมหินทเถระสู่เกาะลังกา |
บทความเรื่องลังกาทวีป ประทีปพุทธธรรม
ตอนที่ ๑
ได้กล่าวถึงลังกาซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่พระพุทธศาสนามีความเจริญรุ่งเรืองมาแต่ครั้งอดีตกาลจวบจนปัจจุบัน
ตำนานว่าด้วยการประดิษฐานพระพุทธศาสนาในลังกาทวีปได้รับการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ในพระคัมภีร์ทีปวงศ์และพระคัมภีร์มหาวงศ์
ซึ่งในบทความตอนที่ผ่านมาได้กล่าวถึงเหตุการณ์เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จเยือนเกาะลังกาถึง
๓ ครั้งด้วยกัน ดังนี้ ครั้งที่ ๑ คือ เดือนที่ ๙ หลังพระบรมศาสดาตรัสรู้ธรรม
ครั้งที่ ๒ คือ ปีที่ ๕ หลังพระองค์ทรงขับไล่อมนุษย์ออกจากเกาะลังกา และครั้งที่ ๓
คือ พรรษาที่ ๘ แห่งการตรัสรู้ธรรมของพระพุทธองค์ สำหรับในตอนที่ ๒ นี้จะกล่าวถึง
เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น ณ เกาะลังกาหลังพุทธปรินิพพานที่มีบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ทั้ง
๒ ฉบับ
สำหรับเนื้อหาตั้งแต่ภาณวาร
(วาระแห่งการสวด) ที่ ๗
แห่งพระคัมภีร์มหาวงศ์ฉบับภาษาไทยของกรมศิลปากรระบุถึงเหตุการณ์สำคัญในชมพูทวีป
ที่เป็นจุดเริ่มต้นของแสงสว่างแห่งพุทธธรรมที่จะไปเจิดจ้า ณ ลังกาทวีป
คือเมื่อพระเจ้าอโศกทรงเฉลิมฉลองพระวิหาร ๘๔,๐๐๐
แห่ง และทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ในการสังคายนาครั้งที่ ๓
ก็ทรงเชื่อมั่นว่ามหาทานที่ทรงทำได้โดยยากดังกล่าว
ทำให้พระองค์ทรงเป็นศาสนทายาทแล้ว แต่พระโมคคัลลีบุตร ติสสเถระ กลับถวายพระพรว่า
มหาบพิตรยังหาชื่อว่าเป็นทายาทในพระศาสนาไม่ เพราะทรงเป็นแต่เพียงผู้ถวายปัจจัยเท่านั้น
ทว่าการจะได้ชื่อว่าเป็นศาสนทายาทนั้น
พระองค์จะต้องทรงอนุญาตให้พระราชโอรสหรือพระราชธิดาออกบรรพชา
นี้เป็นเหตุให้พระมหินทกุมารราชโอรสและพระนางสังฆมิตตาพระราชธิดาทรงออกบรรพชาในบวรพระพุทธศาสนา
เพื่อให้พระราชบิดาสมพระราชหฤทัย ทั้ง ๒ พระองค์ทรงเป็นผู้มีบทบาทสำคัญต่อความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาของลังกาทวีปในกาลต่อมา
ที่มา : พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต)., กาลานุกรม พระพุทธศาสนาในอารยธรรมโลก, พิมพ์ครั้งที่ ๓. บริษัท มหพันธ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ จำกัด (มหาชน). |
พระมหินทเจ้าได้บรรพชาและศึกษาพระไตรปิฎก
ในสำนักพระโมคคัลลีบุตรจนจบ พระสูตร ๕ นิกาย พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ พระวินัย ๒
วิภังค์ คัมภีร์ขันธกะและปริวารทั้งยังสำเร็จวิชชา ๓ และปฏิสัมภิทาญาณ ๔
สำเร็จเป็นพระอรหันต์ และต่อมาทรงเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
เมื่อพระราชบิดามีกระแสรับสั่งให้ส่งพระสมณทูต ๙
สายออกเผยแผ่พระพุทธศาสนายังดินแดนต่าง ๆ ภายหลังการสังคายนาครั้งที่ ๓ ณ เมือง
ปาฏลีบุตรเสร็จสิ้น
พระสมณทูตสายที่ ๙ มีพระมหินทเถระพร้อมคณะอีก ๕ รูป คือ พระอิฏฏิยเถระ
พระอุตติยเถระ พระภัททสาลเถระ พระสัมพลเถระ และสุมนสามเณร
ออกเดินทางจากอโศการามไปประดิษฐานพระพุทธศาสนา ณ ลังกาทวีป
ซึ่งขณะนั้นตรงกับสมัยของพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะซึ่งเป็นพระสหายของพระเจ้าอโศกมหาราช
ครั้นเมื่อพระมหินทเถระได้แสดงพระธรรมเทศนา
บุคคลเป็นอันมากได้เข้าถึงอมฤตธรรมและยังความเลื่อมใสให้เกิดขึ้นในพระราชหฤทัยแห่งพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะเป็นล้นพ้น
จึงทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธศาสนูปถัมภกและทรงถวายมหาเมฆวัน
อุทยานอันเป็นที่สัปปายะ มีความสงัดร่มรื่นแด่เหล่าบรรพชิต เพื่อสถาปนาเป็นอารามสงฆ์แห่งแรกของลังกาทวีป
ชื่อว่า “วัดมหาวิหาร”
ในคัมภีร์ทีปวงศ์กล่าวว่า
เมื่อพระมหินทเถระได้ฟังพระราชดำรัสถวายอารามแห่งกษัตริย์ลังกาแล้ว
ได้เกิดแผ่นดินไหวขึ้น ทำให้พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะและไพร่ฟ้าประชาชน ณ
ที่แห่งนั้นขนลุกขนพอง พระมหินทเถระได้กล่าวว่าเหตุอัศจรรย์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อบอกถึงเหตุการณ์ในภายภาคหน้า
ว่าพระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองในลังกาทวีปต่อไป
พระราชาสดับถ้อยคำเช่นนั้นก็เกิดความปีติปราโมทย์ มหาชนต่างโบกสะบัดธง และเปล่งเสียงโห่ร้องอื้ออึงด้วยความปลื้มปีติเป็นทับทวี
พระมหินทเถระจึงกล่าวต่อไปว่าในกาลภายหน้าพระภิกษุทั้งหลายจะได้รวมตัวกันทำสังฆกรรม ณ ดินแดนแห่งนี้ ครั้นแล้วปฐพีก็สั่นไหวอีกเป็นครั้งที่ ๒
จากนั้นแผ่นดินก็สั่นสะเทือนขึ้นอีกหลายครั้งอย่างต่อเนื่อง
นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
พระพุทธศาสนาแบบเถรวาทได้ประดิษฐานตั้งมั่นในลังกาทวีป
นอกจากนี้พระมหินทเถระได้นำเอาพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ที่สืบทอดทรงจำกันมาในพระไตรปิฎกและอรรถกถามาสู่ใจของชาวลังกา
ทำให้มีกุลบุตรเป็นจำนวนมากสละชีวิตทางโลกออกบวชเป็นพระภิกษุใต้ร่มเงาบวรพระพุทธศาสนา
ไม่เพียงเท่านั้น พระนางอนุฬาเทวี พระชายาของพระกนิษฐภาดาแห่งพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ
ก็มีพระประสงค์จะออกบวช พร้อมด้วยสตรีบริวารจำนวนนับพัน
พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะจึงทรงส่งคณะทูตไปสู่ราชสำนักของพระเจ้าอโศกมหาราช
เพื่อส่งพระราชสาสน์ทูลขอพระสังฆมิตตาเถรีผู้เป็นพระราชธิดา
และกิ่งพระศรีมหาโพธิ์ด้านทักษิณมาสู่ลังกาทวีป
อรรถกถา มหาวิภังค์ ปฐมภาคกล่าวไว้ว่า
พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ โปรดเกล้าฯ ให้เตรียมการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่อลังการ
เมื่อพระนางสังฆมิตตาเถรีเดินทางมาถึงพร้อมด้วยกิ่งพระศรีมหาโพธิ์
พระองค์เสด็จลุยน้ำไปประมาณเพียงพระศอเพื่อรับต้นพระศรีมหาโพธิ์ด้วยพระองค์เอง ทรงยกต้นพระศรีมหาโพธิ์ขึ้นวางลงบนพระเศียร
แล้วทรงอัญเชิญขึ้นสู่ฝั่งด้วยพระหฤทัยที่เลื่อมใส
และทรงทำสักการบูชาอย่างยิ่งใหญ่อลังการ
จากนั้นมีรับสั่งให้แห่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ไปท่ามกลางพระนคร แล้วทรงให้ประดิษฐานไว้
ณ ราชอุทยานมหาเมฆวัน
ในส่วนของพระสังฆมิตตาเถรีได้เป็นอุปัชฌาย์
บรรพชาอุปสมบทแก่สตรีทั้งหลายที่มีจิตตั้งมั่นในพระรัตนตรัย
และได้ตั้งคณะภิกษุณีขึ้นในลังกา
ต่อมาภิกษุณีจำนวนมากบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในกาลไม่นาน
ดังนั้นในรัชสมัยพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ
พระพุทธศาสนาในเกาะลังกามีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างยิ่ง มีภิกษุและภิกษุณีจำนวนหลายหมื่นบรรลุธรรม
ทั้งนี้ก็ด้วยพระราชหฤทัยที่เลื่อมใสของพระราชาผู้ปกครองประเทศ
ที่ทรงมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและมีพระราชศรัทธาอย่างแรงกล้า
พระองค์ไม่เพียงแต่จะทรงทำให้พระพุทธศาสนาตั้งมั่นเท่านั้น
แต่มีพระประสงค์อันแน่วแน่ที่จะทำให้รากเหง้าแห่งพระพุทธศาสนาหยั่งรากลึกในอาณาจักรของพระองค์
ดังที่พระมหาเถระกล่าวกับพระองค์ว่า “พระศาสนาตั้งมั่นแล้ว
แต่ว่ารากเหง้าแห่งพระศาสนานั้นยังไม่หยั่งลงก่อนในกาลใด
ที่มีผู้ออกบวชศึกษาพระธรรมวินัย
เมื่อนั้นได้ชื่อว่ารากเหง้าแห่งพระศาสนาเป็นอันหยั่งลงแล้ว”
สำหรับความรุ่งเรืองแห่งพระพุทธศาสนาในเกาะลังกาตอนต่อไป จะกล่าวถึงการเปลี่ยนรูปแบบการสืบทอดพระธรรมคำสอน
หลังรัชสมัยพระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ จากแบบมุขปาฐะมาเป็นการจารจารึก
พระไตรปิฎกลงบนแผ่นใบลาน ซึ่งเป็นแม่แบบธรรมเนียมการสืบทอดพระสัทธรรมที่ประเทศที่นับถือพุทธศาสนาแบบเถรวาท
ใช้เพื่อสืบทอดมรดกธรรมต่อมาอีกหลายพันปี
Cr. Tipitaka (DTP)
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๗๗ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๖๐
ลังกาทวีป ประทีปพุทธธรรม (ตอนที่ ๒)
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
17:17
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: