คิดอย่างผู้มีบารมีแก่กล้า


ผู้ที่มีบารมีแก่กล้ามากๆ เขาจะคิดกันว่า เกิดมาทั้งทีต้องทำความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ ให้เกิดกับตัวเองให้ได้มากที่สุด ในเมื่อลงทุนเข้าวัดปฏิบัติธรรมแล้ว ก็ต้องเอาแก่นไปให้ได้ คือ ทำพระนิพพานให้แจ้ง เพราะประโยชน์ของการเข้าวัดที่แท้จริงอยู่ตรงที่ต้องเข้าถึงธรรมะภายใน เข้าถึงพระในตัว  แม้เราจะดูเป็นฆราวาสภายนอก แต่ภายในเราต้องเป็นองค์พระ ซึ่งถ้าเราทำได้อย่างนี้ จะได้อานิสงส์อันยิ่งใหญ่ไพศาลเป็นอสงไขยอัปปมาณัง และการจะเข้าถึงอย่างนีได้ ใจต้องเกลี้ยงๆ ไม่มีพันธนาการของชีวิต ไม่ไปเกาะไปเกี่ยวไปเหนี่ยวไปรั้งในเรื่องราวที่ทำให้เราสูญเสียความบริสุทธิ์ของใจ จนจิตไปปรุงแต่งแล้วเกิดเป็นความยินดียินร้าย แต่หากเราทำหยุดทำนิ่งโดยทำใจเฉยๆ ได้ สิ่งต่างๆ ที่มากระทบก็เข้าไปปรุงแต่งใจเราไม่ได้ เมื่อเป็นดังนี้..ใจเราก็จะเกลี้ยงๆ ซึ่งใจที่เกลี้ยงนี่แหละ..จะนิ่งอย่างนุ่มนวล จนเกิดความสว่างภายใน ซึ่งความสว่างภายในนี้ ก็คือ ความบริสุทธิ์เบื้องต้นที่มาพร้อมกับความสุขนั่นเอง..

ในเมื่อเราเสียเวลาเข้าวัดแล้ว..ก็ต้องรู้จักกับความสุขและความบริสุทธิ์ให้ได้ว่าเป็นอย่างไร และที่สำคัญ..พรรษานี้เรามีเวลาจำกัด ไม่ช้าก็สิ้นสุดลงแล้ว ดังนั้นเราต้องทำความบริสุทธิ์ให้เพิ่มพูนขึ้นทุกวัน พรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ บริสุทธิ์กว่าวันนี้ สะอาดกว่าวันนี้ ซึ่งผู้มีบารมีแก่กล้า..เขาจะทำให้พรรษานี้แตกต่างจากทุกพรรษาที่ผ่านมา...

Cr. ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์ สำนักสื่อธรรมะ
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๓๐ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
คิดอย่างผู้มีบารมีแก่กล้า คิดอย่างผู้มีบารมีแก่กล้า Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 23:48 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.