โครงการอบรมธรรมทายาทนานาชาติ ภาคพื้นยุโรป รุ่นที่ ๖




ประเทศในแถบยุโรปนั้น การบวชพระไม่ใช่ประเพณีของเขา ดังนั้นถ้าชาวยุโรปสักคนตัดสินใจมาบวช ย่อมแสดงว่า เขาต้องมีดวงปัญญาเห็นความสำคัญของการบวชมากพอ มิฉะนั้นคงไม่ยอมทิ้งความสะดวกสบายทางโลกมาประพฤติพรหมจรรย์ ถือศีล ๒๒๗ ข้ออย่างแน่นอน

ธรรมทายาทจำนวน ๒๕ ท่านในโครงการอบรมธรรมทายาทนานาชาติภาคพื้นยุโรป รุ่นที่ ๖ นี้ก็เช่นกัน พวกท่านตัดสินใจมาบวช เพราะเห็นว่าการเป็นพระมีเวลาและสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการแสวงหาความดีมากกว่าขณะที่ท่านเป็นคฤหัสถ์ คือ มีโอกาสอบรมกาย วาจา ใจอย่างเข้มข้น โดยมีพระอาจารย์คอยดูแลอย่างใกล้ชิด และยังมีเวลาศึกษาธรรมะอย่างเต็มที่โดยปราศจากความกังวลใด ๆ อีกด้วย

โครงการอบรมธรรมทายาทนานาชาติภาคพื้นยุโรปรุ่นล่าสุดนี้ จัดขึ้นเป็นเวลา ๑๔ วัน ตั้งแต่วันที่ ๒-๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ทำพิธีบรรพชาอุปสมบทเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ณ อุโบสถ วัดพระธรรมกายเบเนลักซ์ ประเทศเบลเยียมโดยมีพระวิเทศภาวนาจารย์ (สมบุญ สมฺมาปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายแคลิฟอร์เนีย เมตตามาเป็นพระอุปัชฌาย์



การบรรพชาอุปสมบทธรรมทายาทนานาชาติแต่ละครั้ง แต่ละรูป มีส่วนช่วยให้ชาวท้องถิ่นเกิดความสนใจในพระพุทธศาสนามากขึ้น ซึ่งในที่สุดแล้วจะมีผลต่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนาในทวีปยุโรปอย่างยั่งยืน



ธรรมทายาทที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้มาจาก ๑๑ ประเทศ คือ ประเทศอังกฤษ เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก สกอตแลนด์ สวีเดน เยอรมนี เบลเยียม สาธารณรัฐเช็ก สวิตเซอร์แลนด์ และฝรั่งเศส



ในวันบวชของธรรมทายาทรุ่นนี้และทุกรุ่นที่ผ่านมา    มีผู้ปกครองและญาติมิตรจากประเทศต่าง ๆ ในยุโรปเดินทางมาร่วมงานครั้งละหลายคน ซึ่งทำให้พวกเขาเหล่านี้ได้พบเห็นวัฒนธรรมที่ดีงามของชาวพุทธและมีโอกาสใกล้ชิดพระพุทธศาสนา ที่สำคัญภาพการบวชของธรรมทายาทนานาชาติจะทำให้ญาติมิตรบางคนเกิดความสนใจคำสอนในศาสนาพุทธมากขึ้น แล้วเข้ามาศึกษาหาความรู้ จนกระทั่งเกิดความศรัทธาเช่นเดียวกับธรรมทายาททั้งหลาย และถ้าหากในอนาคตมีชาวท้องถิ่นศรัทธาเลื่อมใสศาสนาพุทธเป็นจำนวนมาก พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย ก็จะปักหลักอย่างมั่นคงในทวีปยุโรปต่อไปอีกนานแสนนาน

Cr. กองบรรณาธิการ
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๘๘ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
โครงการอบรมธรรมทายาทนานาชาติ ภาคพื้นยุโรป รุ่นที่ ๖ โครงการอบรมธรรมทายาทนานาชาติ  ภาคพื้นยุโรป รุ่นที่ ๖ Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 22:54 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.