ถ้าไม่ฝึกตน จะเป็นยอดคนได้อย่างไร
โลกที่เราอยู่นี้ ใช่ละคร
แต่ที่แท้เป็นสมร- ภูมิสู้
ธรรมอธรรมต่อกร กันอยู่
มนุษย์ชาติ
บ่อาจรู้ เพราะเขาปิดบัง
ชีวิตในโลกหล ลวงตา
เห็นทุกข์เป็นสุขพา โศกสิ้น
ดั่งเหยื่อที่ล่อปลา ติดเบ็ด
แสบเผ็ดเดือดร้อนดิ้น กว่าได้เห็นธรรม
(สุนทรพ่อ)
อัตภาพของการเป็นมนุษย์นั้นสั้นยิ่งนัก
อุปมาเปรียบดั่งรอยขีดไม้ลงบนผืนน้ำ มีเกิดขึ้นและตั้งอยู่เพียงชั่วครู่
แล้วก็ดำเนินไปสู่ความดับสลายในที่สุด แต่คุณค่าของการเกิดมาเป็นมนุษย์ ผู้รู้ได้กล่าวไว้ว่า
“อยู่ที่ใครใช้วันเวลาที่มีอยู่เพื่อสั่งสมบุญบารมี ฝึกฝนตน
ฝึกหัดขัดเกลากิเลสให้หลุดล่อน
จนบริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา ใจ ได้มากกว่ากัน” ดังตัวอย่างนักสร้างบารมีจากแดนตะวันตกท่านหนึ่ง
นามว่า พระไมเคิล วีรธมฺโม อายุ ๒๕ ปี บวชมาได้ ๒ พรรษา
“อาตมาเกิดและเติบโตที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ก่อนอาตมาไม่เคยนับถือศาสนาใด ๆ ใช้ชีวิตเที่ยวเตร่ ปาร์ตี้ และมัวเมาในอบายมุข คบกลุ่มเพื่อนไม่ดี จนทำให้มีนิสัยเสีย มีผลการเรียนแย่ ท้ายที่สุดก็ถูกไล่ออกจากบ้าน ในตอนนั้นอาตมาเป็นโรคซึมเศร้าอย่างหนัก รู้สึกเครียดและกดดัน และรู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมจัดการอะไรในชีวิตให้ดีได้
“ลึก ๆ แล้วอาตมาอยากจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร อาตมาจึงลองเข้ามาที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมจอร์เจียของวัดพระธรรมกาย ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก
“อาตมาเริ่มจากการมาปฏิบัติธรรมทุกคืนวันพุธ แล้วหลังจากนั้นไม่นาน ชีวิตของอาตมาก็ค่อย ๆ ห่างไกลจากอิทธิพลของสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย การทำสมาธิช่วยให้อาตมาใจสงบ หยุดโทษคนอื่น ทิ้งนิสัยเสียได้ และรู้จักควบคุมอารมณ์ และเมื่อใจของอาตมาสงบ ทำให้อาตมาเห็นหนทาง และรู้ว่าต้องเริ่มลงมือแก้ไขที่ตัวเองให้ดีก่อน เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ชีวิตของอาตมาก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ และกลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่เป็นครอบครัวที่อบอุ่นดังเดิม
“แต่อาตมาก็ต้องการที่จะพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้นอีก จึงตัดสินใจขอพ่อและแม่ออกบวช แม้ว่าพวกท่านจะไม่ได้เข้าใจทั้งหมด แต่พวกท่านก็สนับสนุน เพราะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีตลอด ๖ เดือนที่ผ่านมา
“หลังจากบวชในโครงการ IDOP ของวัดพระธรรมกายแล้ว อาตมาได้เรียนรู้สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสอน อาทิ ความสุขที่มาจากเงิน ลาภ ยศ หรือกามนั้นไม่ยั่งยืน และมาพร้อมกับความทุกข์ ส่วนความสุขบริสุทธิ์ที่สุดนั้นมาจากใจที่เป็นสมาธิ และยังทรงสอนว่าให้เรากลับมามองตัวเอง ฝึกฝนอบรมตนเพื่อเอาชนะกิเลสในตัว ด้วยการทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำใจให้บริสุทธิ์ในทุก ๆ วัน และให้อภัยผู้อื่นอยู่เสมอ
“อาตมาได้พบคำตอบที่ตรงใจและประทับใจที่สุด จากที่เคยถามตัวเองอยู่บ่อย ๆ ว่าอะไรคือเป้าหมายชีวิต เราจะใช้ชีวิตให้มีคุณค่าและความสุขได้อย่างไร แต่เพราะกิจวัตรที่ลงตัวและบทฝึกตนที่วัดนี้ ทำให้อาตมาเข้าใจตัวเองได้ดีขึ้น เข้าใจเพื่อนรอบข้างได้มากขึ้น เข้าใจแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาได้ลึกซึ้งขึ้น และทำให้อาตมามีความสุขมากกว่าที่เคยมี ได้เรียนรู้มากกว่าที่เคยรู้ ได้ช่วยเหลือผู้อื่นมากกว่าที่เคยทำ
“นี่อาจเป็นสิ่งที่ยากเกินกว่าจะเชื่อ แต่อาตมาก็ได้พิสูจน์แล้วว่า วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของพระภิกษุในพระพุทธศาสนาทำให้อาตมาปลอดกังวลในทุก ๆ เรื่อง รู้สึกมีพลัง มีอิสระ และมีเวลานั่งสมาธิภาวนาครั้งละเป็นชั่วโมง ๆ ซึ่งทำให้อาตมามีความสุขเหลือเกิน และนี่เป็นสิ่งที่อาตมารู้สึกว่า อาตมาอยู่ถูกที่ ในที่ที่ควรอยู่ และเลือกถูกทางที่สุด อาตมาภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าในตัวเอง จึงตั้งใจจะบวชวันต่อวัน เพื่อฝึกตน ฝึกใจ และช่วยเหลืองานพระพุทธศาสนาให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
“ในท้ายที่สุด อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่อาตมาพูด แต่จงมาพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง”
“อาตมาเกิดและเติบโตที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ก่อนอาตมาไม่เคยนับถือศาสนาใด ๆ ใช้ชีวิตเที่ยวเตร่ ปาร์ตี้ และมัวเมาในอบายมุข คบกลุ่มเพื่อนไม่ดี จนทำให้มีนิสัยเสีย มีผลการเรียนแย่ ท้ายที่สุดก็ถูกไล่ออกจากบ้าน ในตอนนั้นอาตมาเป็นโรคซึมเศร้าอย่างหนัก รู้สึกเครียดและกดดัน และรู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมจัดการอะไรในชีวิตให้ดีได้
“ลึก ๆ แล้วอาตมาอยากจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร อาตมาจึงลองเข้ามาที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมจอร์เจียของวัดพระธรรมกาย ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก
“อาตมาเริ่มจากการมาปฏิบัติธรรมทุกคืนวันพุธ แล้วหลังจากนั้นไม่นาน ชีวิตของอาตมาก็ค่อย ๆ ห่างไกลจากอิทธิพลของสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย การทำสมาธิช่วยให้อาตมาใจสงบ หยุดโทษคนอื่น ทิ้งนิสัยเสียได้ และรู้จักควบคุมอารมณ์ และเมื่อใจของอาตมาสงบ ทำให้อาตมาเห็นหนทาง และรู้ว่าต้องเริ่มลงมือแก้ไขที่ตัวเองให้ดีก่อน เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ชีวิตของอาตมาก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ และกลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่เป็นครอบครัวที่อบอุ่นดังเดิม
“แต่อาตมาก็ต้องการที่จะพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้นอีก จึงตัดสินใจขอพ่อและแม่ออกบวช แม้ว่าพวกท่านจะไม่ได้เข้าใจทั้งหมด แต่พวกท่านก็สนับสนุน เพราะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีตลอด ๖ เดือนที่ผ่านมา
“หลังจากบวชในโครงการ IDOP ของวัดพระธรรมกายแล้ว อาตมาได้เรียนรู้สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสอน อาทิ ความสุขที่มาจากเงิน ลาภ ยศ หรือกามนั้นไม่ยั่งยืน และมาพร้อมกับความทุกข์ ส่วนความสุขบริสุทธิ์ที่สุดนั้นมาจากใจที่เป็นสมาธิ และยังทรงสอนว่าให้เรากลับมามองตัวเอง ฝึกฝนอบรมตนเพื่อเอาชนะกิเลสในตัว ด้วยการทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำใจให้บริสุทธิ์ในทุก ๆ วัน และให้อภัยผู้อื่นอยู่เสมอ
“อาตมาได้พบคำตอบที่ตรงใจและประทับใจที่สุด จากที่เคยถามตัวเองอยู่บ่อย ๆ ว่าอะไรคือเป้าหมายชีวิต เราจะใช้ชีวิตให้มีคุณค่าและความสุขได้อย่างไร แต่เพราะกิจวัตรที่ลงตัวและบทฝึกตนที่วัดนี้ ทำให้อาตมาเข้าใจตัวเองได้ดีขึ้น เข้าใจเพื่อนรอบข้างได้มากขึ้น เข้าใจแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาได้ลึกซึ้งขึ้น และทำให้อาตมามีความสุขมากกว่าที่เคยมี ได้เรียนรู้มากกว่าที่เคยรู้ ได้ช่วยเหลือผู้อื่นมากกว่าที่เคยทำ
“นี่อาจเป็นสิ่งที่ยากเกินกว่าจะเชื่อ แต่อาตมาก็ได้พิสูจน์แล้วว่า วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของพระภิกษุในพระพุทธศาสนาทำให้อาตมาปลอดกังวลในทุก ๆ เรื่อง รู้สึกมีพลัง มีอิสระ และมีเวลานั่งสมาธิภาวนาครั้งละเป็นชั่วโมง ๆ ซึ่งทำให้อาตมามีความสุขเหลือเกิน และนี่เป็นสิ่งที่อาตมารู้สึกว่า อาตมาอยู่ถูกที่ ในที่ที่ควรอยู่ และเลือกถูกทางที่สุด อาตมาภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าในตัวเอง จึงตั้งใจจะบวชวันต่อวัน เพื่อฝึกตน ฝึกใจ และช่วยเหลืองานพระพุทธศาสนาให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
“ในท้ายที่สุด อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่อาตมาพูด แต่จงมาพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง”
.......... เอหิปสฺสิโก
..........
Cr. พระมหาภูรัช ทนฺตวํโส
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๘๙ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑
ถ้าไม่ฝึกตน จะเป็นยอดคนได้อย่างไร
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
07:11
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: