เทศกาลปีใหม่




งานฉลองเทศกาลปีใหม่มักมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้อง ควรทำอย่างไรดี

เทศกาลที่เป็นวาระพิเศษ เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ หรือวันเกิด เป็นวันที่เราอยากให้ตัวเรา ครอบครัว และผู้คนที่เกี่ยวข้องมีความสุข อย่างที่เขาบอกกันว่า สุขสันต์วันปีใหม่ แต่ถ้าไปดื่มเหล้าแล้วขับรถ คนใน รถอาจจะเดือดร้อนไปหมด อาจจะไปอยู่โรงพยาบาลทั้งครอบครัว หรืออาจจะมีงานอื่นแทรกเข้ามาโดยไม่รู้ตัวก็ได้ เพราะเราก็รู้กันอยู่ว่า สถิติอุบัติเหตุทางถนนนั้น กว่าครึ่งมาจากความมึนเมา ถามว่าอย่างนี้สุขสันต์หรือเปล่า ไม่ใช่เลย แต่ที่เป็นอย่างนี้ เพราะว่าในเทศกาลพิเศษ คนเราอยากทำอะไรให้รู้สึกสบายอกสบายใจ แต่ไม่รู้จะทำอะไรดี เลยหาทางออก โดยเอาของมึนเมามาดื่มให้เวลาผ่านไป เหมือนกับคนบางกลุ่มที่นั่งเล่นไพ่กันโต้รุ่ง เพราะจะนั่งคุยกัน ก็ไม่รู้จะคุยอะไร เลยดื่มเหล้าบ้าง เล่นไพ่บ้าง เพื่อฆ่าเวลา

ถ้าปีใหม่มาเจอกันพร้อมหน้าแล้วไม่รู้จะทำอะไร มาสวดมนต์ด้วยกันดีกว่า แต่อย่างนี้บางคนบอกเชยน่าดู บางคนเขิน ไม่แน่ใจว่าคนอื่นจะเอาด้วยหรือเปล่า คือจะทำสิ่งที่เป็นมงคลรู้สึกเขิน แต่ล้อมวงกินเหล้ากลับเฉย ๆ แล้วที่คนอื่นเขาไม่กินเหล้า เราไปชวนเขากิน ไม่เขินหรือ ชวนให้เขาแย่ลงรับปีใหม่ ทำไมไม่เขิน ชวนเขาทำความดีทำไมเขิน ถ้าอยู่บ้าน ชวนแล้วเขิน ก็มีวิธีแก้เขิน คือชวนกันไปวัดเลย ไปสวดมนต์กันทีละเป็นหมื่นเป็นแสนคน ไปทำความดีรับปีใหม่ เริ่มปีใหม่อย่างถูกต้องด้วยการสร้างความดี สวดมนต์ นั่งสมาธิ อย่างนี้ปีใหม่จะเป็นปีทองของเราจริง ๆ

อยู่ในสังคมที่เขามีการดื่มสังสรรค์กัน บางทีก็เผลอดื่ม จะมีผลอย่างไรบ้าง

จะดื่มเพราะเผลอหรือไม่เผลอก็ผิดทั้งนั้น ถ้าไม่มีบุญอื่นช่วยไว้ตายแล้วจะตกมหานรกขุม ๕ เป็น ขุมน้ำทองแดง น่ากลัวมาก โดนกรอกน้ำทองแดง ซึ่งปกติทองแดงจะแข็ง ถ้าเหลวเมื่อไรแสดงว่าร้อนมาก ไม่ใช่ร้อยองศาแบบน้ำเดือด แต่ยิ่งกว่านั้น ลวกไส้ทะลุทะลวงหมดเลย คนไหนที่ตั้งใจดื่ม ก็ให้นายนิรยบาลตั้งใจกรอกก็แล้วกัน ส่วนเราเผอิญดื่ม ก็เผอิญว่ามีนายนิรยบาลตักน้ำทองแดงมาเข้าปากเราก็แล้วกัน แต่ถ้ามีบุญอื่นช่วยไว้ก็ยังพอไหว แต่เสี่ยงมาก เลิกเสียเถิด แล้วอดีตที่ผิดพลาดลืมให้หมด จากนี้ไปเราจะไม่ทำอีกอย่างเด็ดขาด ตั้งใจทำแต่ความดีเท่านั้น

การให้เหล้าเป็นของขวัญปีใหม่ มีความผิดหรือมีบาปอย่างไรบ้าง

มีความผิดสองกระทงเลย ถ้าจัดเหล้าใส่กระเช้า ของขวัญ ร้านค้าที่ขายก็ผิดด้วย กฎหมายเขาบังคับแล้ว และยังผิดกฎแห่งกรรมด้วย ทำผิดกฎหมายตำรวจไม่เห็นยังพอรอดได้ แต่ผิดกฎแห่งกรรมไม่มี ทางรอด เพราะฉะนั้นอย่าทำเลย ของดี ๆ ที่มีประโยชน์หาซื้อมาเถิด

ความจริงที่บอกว่าให้เหล้าเท่ากับแช่งนั้นถูกเลย เอาสิ่งที่เป็นอัปมงคลไปให้เขา เพียงแต่ตกแต่ง หน้าตาให้ดูดี ถ้าสมมุติมีใครเอายาพิษใส่แพ็คเกจอย่างสวยงามมาให้เรา เราจะขอบคุณเขาไหม เพราะคนนี้หวังร้ายกับเรา ตั้งใจทำให้เราแย่ และถ้าใครเอาเหล้ามาให้ ต้องมองหน้าเขาให้ดีว่า คน ๆ นี้ตั้งใจแช่งเราให้ย่ำแย่ อย่าไปคบ และถ้าเราเอาเหล้าไปให้ใคร นั่นก็แสดงว่าเราประสงค์ร้าย ตั้งใจเอาอัปมงคลไปให้เขา ฉะนั้น ถ้ารักใครอย่าเอาเหล้าไปให้ เอาแต่ของดี ๆ ไปให้

ควรให้อะไรถึงจะเป็นประโยชน์มากที่สุด

ให้สังเกตว่า อะไรที่เราได้แล้วมีประโยชน์ ได้ใช้ คนอื่นก็คล้าย ๆ กัน จึงควรซื้อของที่ได้ใช้จริง ๆ อย่าไปซื้อแบบตามเห่อ แต่ให้ซื้อตามใช้ อย่างนี้เป็นประโยชน์และคุ้มค่า ถ้าไม่รู้จะเอาอะไรจริง ๆ ก็เอา หนังสือธรรมะไปให้ รักใคร ชอบใคร หวังดีกับใครจริง ๆ ต้องเอาธรรมะ เอาสิริมงคลไปให้ เอาหนังสือ ธรรมะ หรือซีดี วีซีดี ก็ได้

จะทำอย่างไรให้สังคมเปลี่ยนค่านิยม เรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เรื่องนี้ไม่ยาก ถ้าทุกคนเห็นตรงกันและช่วยกันทำ สื่อมวลชนทั้งหมดช่วยกันประชาสัมพันธ์ ก็เปลี่ยนได้เลย อย่างประเทศญี่ปุ่นทำไมเขาถึงพัฒนาได้เร็ว เป็นเพราะเขาสื่อสารกันเร็ว พอเขารู้ว่าการดื่มนมดีสำหรับเด็ก ปีเดียวโรงเรียนทั้งประเทศให้เด็ก ดื่มนมกลางวันหมดเลย พอบอกว่าการว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่ดี โรงเรียนสร้างสระว่ายน้ำทั้งประเทศเลย พอเขาเห็นว่าอะไรดี เขาก็ทำคู่มือออกมา แล้วทุกคนก็ทำตาม คนร้อยล้านคนก็เหมือนกับคนสิบคน ร้อยคน สามารถเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว

ถ้าเราต้องการพลิกสังคมไทย ก็เป็นแบบเดียวกัน หากทุกคนช่วยกัน แค่วันเดียวสังคมไทยก็เปลี่ยน แล้ว รู้ว่าเหล้าไม่ดี เราก็เลิกซื้อเหล้าเป็นของขวัญ ง่ายไหม สื่อก็ประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนรู้ว่า เหล้าไม่ดี เป็น อัปมงคล พอทุกคนรับทราบก็ไม่เอาแล้ว จากนี้ไปเราจะให้แต่ของดี ๆ ที่เป็นสิริมงคลในวันปีใหม่ ทุกอย่าง จบเลย


กิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่มีประโยชน์มากที่สุดคืออะไร

วาระพิเศษอย่างปีใหม่ ซึ่งเป็นวันหยุด วันพิเศษ เราจะทำอะไรกันดี อยู่บ้านก็เซ็ง ที่ไหนมีกิจกรรมก็เลยไปร่วมกับเขาสักหน่อย เป็นสีสันของชีวิต แค่นั้นเอง ลึก ๆ แล้ว คือไม่รู้จะทำอะไร เป็นความเหงาท่ามกลางฝูงชนของคนที่อยู่ในเมืองใหญ่ เลยพยายามหาอะไรสักอย่างมาเป็นสีสัน โดยหลักจิตวิทยามันมา จากแรงขับลึก ๆ อย่างนี้ จึงได้เกิดกิจกรรมตามเมืองใหญ่ ๆ ขึ้นมา

ถามว่าจริง ๆ ควรทำอย่างไร เราก็ต้องดูว่า ปีใหม่คืออะไร คือวันเปลี่ยนศักราชจากปีหนึ่งไปอีกปีหนึ่งใช่ไหม บริษัทต่าง ๆ พอสิ้นปีต้องทำอะไรบ้าง ทำงบดุล สรุปกำไรขาดทุนในรอบปีที่ผ่านมา แล้วตั้งเป้าว่า ปีหน้าจะมีทิศทางในการทำงานอย่างไรให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น จะขยายตัวกี่เปอร์เซ็นต์ จะทุ่มลงทุนทางไหน ก็สรุปรายละเอียดจากปีที่แล้ว

แล้วถามว่า บริษัทชีวิตของเราสิ้นปีมีสรุปบัญชีงบดุลหรือเปล่า งบบุญงบบาปในปีที่ผ่านมาเป็น อย่างไร เรากำไรหรือขาดทุน ลองเช็กดู สรุปหนึ่งรอบปีแล้วตั้งเป้าว่า ปีหน้าจะทำอย่างไร จะฝึกฝนตนเองอย่างไร เช่น หาความรู้เพิ่มเติม ตั้งใจทำงานให้มีความก้าวหน้าในชีวิต แล้วต้องทำความดีด้วย ให้เจริญทั้งวัตถุและจิตใจคู่ขนานกันไป ปีใหม่เป็นช่วงทบทวนที่ดีที่สุด แต่ถามว่ากำลังเมาทบทวนได้ไหม ไม่ได้ จะทบทวนได้ต้องใจใส ๆ สว่าง ๆ อยู่ในบุญ จะได้มองตัวเองก่อน แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ในปีใหม่อย่างดี

เพราะฉะนั้น กิจกรรมช่วงปีใหม่ที่ดีที่สุด ก็คือเข้าวัดไปสวดมนต์ นั่งสมาธิ ที่ไหนจัดอยู่ธุดงค์ ไปอยู่ธุดงค์ค้างคืนรับปีใหม่เลย แล้วปีใหม่จะเป็นปีที่สว่างไสว เป็นบุญล้วน ๆ เป็นการเริ่มต้นศักราชใหม่ที่เป็นบุญเป็นกุศล ดังที่โบราณบอกว่า เริ่มต้นดีมีชัย ไปกว่าครึ่ง ถ้าเราเริ่มต้นปีใหม่ด้วยใจที่อยู่ในบุญ แสดงว่าปีนั้นมีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว และทำดีให้เต็มที่ ให้ใจอยู่ในบุญในกุศล อะไรที่นำมาซึ่งความสุข ความเจริญ เราจะทำ เช่น การหาความรู้เพิ่มเติม ขยันขันแข็งทำการงาน หลีกเลี่ยงอบายมุข ให้เวลากับครอบครัว อะไรที่ไม่ดีเราจะอยู่ห่าง สื่อแย่ ๆ อบายมุขไม่ว่าเหล้าหรือการพนัน การเที่ยวเตร่หรือเล่นเกมคอมพิวเตอร์ดึก ๆ ดื่น ๆ จนเสียสุขภาพ เสียเงินเสียทอง เราจะหลีกเลี่ยง จะทำแต่สิ่งดี ๆ เท่านั้น ถ้าอย่างนี้แล้ว ตัวเราสว่าง บ้านเราสว่าง

มีโคลงโลกนิติบทหนึ่ง ว่า

คนตื่นคืนหนึ่งช้า                          จริงเจียว
มล้าวิถีโยชน์เดียว                        ดุจร้อย
สงสารหมู่พาลเทียว                     ทางเนิ่น  นานนา
เพราะบ่เห็นธรรมน้อย                   หนึ่งให้เป็นคุณ

คนที่ตื่นช้านิดเดียวจะกระหืดกระหอบ ทำอะไรตามเขาไม่ทัน ช้านิดเดียวเหมือนช้าเป็นโยชน์เลย ไล่คนอื่นไม่ทัน ถ้าปีนั้นเราตื่นเร็ว ตั้งแต่ ๐๐.๐๐ น. ของศักราชเลย แล้วเริ่มต้นทำความดีก่อนใครเพื่อน แสดงว่าปีนั้นจะต้องเป็นปีทองของชีวิตเราจริง ๆ

มาตั้งใจกันว่าจะปฏิรูปชีวิตรับปีใหม่ เริ่มจาก กวาดถูบ้านรับปีใหม่ ให้บ้านสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย แล้วจัดระบบชีวิตใหม่ ถ้าปีที่ผ่านมาเคยปล่อยเรื่อยเปื่อยตามแต่ใครจะดึงไป ตอนนี้ไม่เอาแล้ว มาตั้งหลักว่าจะตื่นกี่โมง นอนกี่โมง แล้วจัดกิจวัตรให้ลงตัว ถึงเวลาทำงานก็ไปทำงาน เวลาไหนจะหา ความรู้เพิ่ม จะพัก จะไปเล่นกีฬา ออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพ จัดให้ดี ถึงคราวถ้ามีสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้น มีโปรแกรมพิเศษเข้ามาแทรก ก็ต้องปรับ แต่พอผ่านตรงนั้นแล้ว ให้กลับมาเป็นระบบปกติ

คนทั่วไปมักตั้งใจดี แต่ทำได้วันสองวันก็หมดอารมณ์ เราต้องตั้งหลักให้ดี ใครดึงไปอย่างไร หรือ มีเหตุจำเป็นอย่างไร เสร็จเหตุจำเป็นเราก็กลับมาอยู่กับที่ อย่างนี้ก็คือ การปฏิรูปชีวิตของเรารับปีใหม่ แล้วเราจะพบว่าชีวิตเรามีความสุข ได้งานมาก แต่ว่าสบาย ๆ หน้าตาแจ่มใส ผิวพรรณวรรณะดี อารมณ์เบิกบาน งานการดี ทุกอย่างเจริญก้าวหน้า แถมล้วงกระเป๋าก็มีเงินอยู่ตลอด ไม่มีตัวแดง เพราะว่า เราไม่ไปรูดบัตร เราเปลี่ยนความเคยชินไปแล้ว ปฏิรูปชีวิตใหม่ทั้งหมดเถิด ปีใหม่นี้ต้องเป็นปีแห่งความสว่างไสวของเรา

ใครสามารถไปธุดงค์ปีใหม่ได้บ้าง ถ้าทำแล้วจะได้ผลดีอย่างไร

ที่วัดหลาย ๆ แห่งมีการจัดปฏิบัติธรรมรับปีใหม่ ถ้าวัดใกล้บ้านมีกิจกรรมเราก็ไปร่วมได้ ถ้าหากไม่ทราบว่าจะไปที่ไหน วัดพระธรรมกายยินดีต้อนรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ไปสวดมนต์ นั่งสมาธิ ไปทำกิจกรรมที่เป็นบุญกุศล ร่วมกิจกรรมแล้วจะชุ่มชื่นใจ เพราะเป็นบุญล้วน ๆ ไม่ต้องไปซื้อตั๋วเข้าชม ไม่ต้องไปซื้อเหล้า ซื้อเบียร์ ซื้ออะไรต่าง ๆ เสียแค่ค่ารถเดินทางไปเท่านั้น ไปถึงวัดทุกอย่างก็อยู่ในบุญในกุศล ไม่เสียเงินทอง แล้วก็ได้บุญได้กุศลด้วย ดีทุกด้าน

ทำอย่างไรถึงจะสามารถส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ และรับความเจริญรุ่งเรือง ความสุขความสำเร็จได้

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ผลทุกอย่างย่อมเกิดขึ้นแต่เหตุ จะด้วยกรรมในอดีตหรือกรรมปัจจุบัน ก็ตาม ทำให้เกิดสิ่งนั้นขึ้น ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาลอย ๆ ไม่มีคำว่าบังเอิญ อยู่ที่ว่าเราจะรู้ที่มาที่ไปหรือเปล่า เช่น ทำไมคนเราเกิดมาไม่เท่ากัน ทำไมบางคนทำอะไรราบรื่นตลอด บางคนมีปัญหาตลอด กำลังจะรุ่งก็เจอปัญหา เช่น รีสอร์ตกำลังจะไปได้ดี สึนามิมาตูมเดียวหมดตัวเลย แถมญาติพี่น้องตายอีก ทำไมบางคนอุปสรรคมาก แต่บางคนอุปสรรคน้อย บังเอิญหรือ ไม่ใช่หรอก ถ้าบังเอิญมันต้องครั้งเดียว แต่ไปดูชีวิตบางคนสิ มีปัญหาตลอด หมดเรื่องนี้มีเรื่องใหม่ แต่บางคนราบรื่นตลอด อย่างนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแล้ว มันมีที่มาที่ไป คือบุญบาปในตัวที่เคยทำไว้มาส่งผล ปีใหม่ทุกคนอยากได้ความสุขทั้งนั้น อยากจะให้ชีวิตดีขึ้น ตำแหน่งดีขึ้น เงินเดือนขึ้น ซื้อง่ายขายคล่องกำไรงาม ลูกหลานก็อยู่ในโอวาท ครอบครัวดี แข็งแรง ไม่มีอุบัติเหตุ ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ นี้คือสิ่งที่ทุกคนหวัง ถ้าหวังลอย ๆ ก็เป็นแค่ฝันเฟื่อง แต่ถ้าฝันแล้วลงมือทำความดี เพราะรู้แล้วว่ามันมาจากเหตุคือบุญกุศล เราก็ตั้งใจทำความดี อย่างนี้เขาเรียกว่าฝันใฝ่ แล้วความฝันจะมีโอกาสเป็นจริง รู้อย่างนี้แล้วให้เราเริ่มประกอบเหตุที่ดี เหตุแห่งความสุข ความสำเร็จรับปีใหม่กันถ้วนหน้าเถิด

ปีใหม่นี้ขอให้ทุกคนมีความสุข ความเจริญประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนา ให้มีดวงตาเห็น ธรรม เข้าถึงพระธรรมกายโดยเร็วพลันจงทุกท่านเทอญ

Cr. พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุ
เทศกาลปีใหม่ เทศกาลปีใหม่ Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 21:11 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.