หวิดตาย..แล้วกลับมารวยแบบจัดหนักกว่าเดิม

คุณสมปรารถนา ศรีสุวอ เจ้าของร้านขายส้มตำมากถึง 3 สาขาและเป็นเจ้าของสมปรารถนาอพาร์ตเมนต์

ชีวิตแม่ค้ารถเข็นขายส้มตำคนนี้
หวิดตายคาที่พร้อมลูกชายอยู่ข้างถนน
แต่ไฉน..กลับพลิกโผจนรอด
แถมกลับมารวยแบบจัดหนักกว่าเดิม !!!
----------------------------------------------
คุณสมปรารถนา ศรีสุวอ แม่ค้าที่มีฉายาในวงการขายส้มตำว่า ติ๋มตำแหลก ปัจจุบันเธอเป็นเจ้าของร้านขายส้มตำมากถึง 3 สาขา และเป็นเจ้าของสมปรารถนาอพาร์ตเมนต์ อยู่แถวประตูน้ำพระอินทร์ จังหวัดปทุมธานี

ว่าไปแล้วชีวิตเราผ่านความจนมาอย่างแสนสาหัส แต่ที่มารวยได้ก็เพราะไปทำบุญกับวัดพระธรรมกายนี่แหละ เพราะเมื่อก่อนเราก็เป็นแค่แม่ค้าเข็นรถขายส้มตำอยู่ในจังหวัดขอนแก่นเท่านั้น หนำซ้ำยังมีแต่หนี้สินเต็มไปหมด

ตอนนั้นเรามีชีวิตที่แย่และตกต่ำมาก เนื่องจากเราติดเหล้าอย่างหนัก ตกเย็นเราต้องตั้งวงซดเหล้ากับเพื่อน เมาหัวราน้ำทุกวัน   และพอเมาได้ที่ก็โดนสามีซ้อมตบตีเอา เพราะเงินจากการขายส้มตำหมดไปกับวงเหล้า ซ้ำร้ายต้องกู้หนี้ยืมสินจนติดลบ ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงถึงวันละ 3,000 บาท

ความยากจนทำให้เราเครียดมากจนหาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ พอมีคนมาแนะนำให้ไปเอาของดีจากสำนักโน้น..สำนักนี้... ที่เขาลือกันไปต่าง ๆ นานาว่า ศักดิ์สิทธิ์นักหนา คือมีแล้วจะรวยแน่ ๆ แต่พอไปเอามาจริง ๆ ก็ไม่เห็นรวยขึ้นสักที ซ้ำร้ายบางคนแนะนำให้ไปเอาต้นไม้แปลก ๆ มาปลูกในบ้าน บอกว่าปลูกแล้วรวยแน่ เราก็เลยบ้าปลูกจนเต็มบ้าน ขึ้นรกไปหมด แต่ก็ไม่เห็นจะรวยขึ้นสักที หนำซ้ำกลับจนลง ๆ ติดหนี้มากกว่าเดิมเข้าไปอีก

ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2537 ก็มีกัลยาณมิตรมาชวนเข้าวัดพระธรรมกาย เราก็เลยลองไปดู จนเกิดข้อคิดในการเลิกเหล้า และพอกลับไปบ้านเราก็หักดิบเลิกมันทันที หลังจากนั้นเราจึงมีสภาพที่เป็นผู้เป็นคนกับเขาขึ้นมา

การหักดิบเลิกเหล้าทำให้เราเริ่มทยอยมีเงินเหลือเพื่อเอาไปใช้หนี้ได้มากขึ้น อีกทั้งการเข้าวัดยังทำให้เราเป็นคนดีและขยันทำมาหากินมากขึ้น เพราะได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า สักวันยาจกอย่างเราจะต้องทำบุญเป็น M ให้ได้ ซึ่งนับจากนั้นไม่ว่าเราจะทำบุญอะไร ก็อธิษฐานจิตเสมอว่า ขอให้มีเงินมาเป็นประธานกองกฐินให้ได้สัก M เถิด 

จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2549 เป็นปีที่เราสมปรารถนา เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่เรามีเงินทำบุญเป็นประธานกองกฐินได้ถึง 1 M แรก บอกตรง ๆ เลยว่ารู้สึกปลื้มมาก และไม่เคยรู้สึกปลื้มอะไรในชีวิตได้มากเท่านี้...



แต่อนิจจา..ในช่วงที่เราเพิ่งทำบุญไปนั้น เราไม่ทราบมาก่อนเลยว่า เป็นช่วงที่ชีวิตเรากำลังมีเคราะห์หนัก เพราะหลังจากได้เป็นประธานกองกฐินไปหมาด ๆ แค่ 3 วันเท่านั้น ก็มีเหตุเกือบทำให้เราตายคาที่อยู่ข้างถนน !!!

วันเกิดเหตุ..ลูกชายขับรถพาเราข้ามจังหวัดไปเก็บหนี้ ซึ่งขณะอยู่ในรถเราก็นั่งสมาธิอยู่เบาะหลัง นึกถึงความปลื้มที่ได้ทำบุญทอดกฐิน 1 M แรกของชีวิตด้วยความปีติมาตลอดทาง แต่วันนั้นฝนฟ้าเกิดเป็นอะไรก็ไม่ทราบ ตกลงมาอย่างหนักตอนตี 2 ด้วยเหตุนี้..จึงทำให้มองไม่ค่อยเห็นทาง

และทันใดนั้นเอง..!!! อยู่ ๆ ลูกชายก็ตะโกนร้องเรียกแม่ลั่นรถ จากนั้นรถทั้งคันก็พุ่งไถลเสียหลักเหินลอยขึ้นไปบนฟ้า ซึ่งช่วงวินาทีเฉียดตายนี้เอง สิ่งแรกที่เรานึกขึ้นทันทีก็คือ รูปหล่อหลวงปู่วัดปากน้ำที่อยู่ที่คอนโซลหน้ารถ และบุญจากการทอดกฐินที่เพิ่งจะทำไปหมาด ๆ จากนั้นรถก็เหวี่ยงพุ่งเข้ากระแทกชนต้นไม้ที่เกาะกลางถนนและพลิกตีลังกา 3 ตลบ จนทำให้ต้นไม้โค่นหักทันทีถึง 3 ต้นติด ๆ กัน และด้วยความเร็วบวกกับแรงเหวี่ยงอัดกระแทก ทำให้ล้อหน้าของรถขาดกระเด็นออกจากตัวรถแบบทันควัน จากนั้นรถพลิกตลบหงายท้องดังโครมใหญ่ มีสภาพบี้ยับยวบลงกองกับพื้น ตอนนั้นเราตกใจสุดขีดจนทำอะไรไม่ถูก พอได้สติก็รีบลูบเนื้อลูบตัว จับดูตัวเองว่าเราตายหรือยัง จากนั้นรถป่อเต็กตึ๊งพร้อมเจ้าหน้าที่ก็มาถึง พอพวกเขาเห็นสภาพรถแล้วเห็นว่าเรายังไม่ตาย เขาก็ประหลาดใจ สงสัยว่ารถยุบล้อขาดแบบนี้ทำไมเรายังไม่ตาย จากนั้นเขาก็รีบพาเราไปส่งโรงพยาบาลทันที และพอถึง..หมอก็ทำการตรวจเอกซเรย์อย่างละเอียด ผลปรากฏออกมาว่า คุณไม่เห็นเป็นอะไรเลย แค่ฟกช้ำดำเขียว งั้นเอาแค่ยาแก้ปวด (พาราเซตามอล) ไปกินซึ่งเสียค่ายาทั้งแม่ทั้งลูกรวมแค่ 30 บาทเท่านั้น แต่พอรับยาไปก็ไม่ได้กินหรอก เพราะเราไม่ได้เจ็บปวดอะไรมาก...


ลูกชายที่รอดชีวิตพร้อมเรา
คืนนั้น..เราแม่ลูกจึงกลับไปนอนบ้าน ซึ่งลูกชายก็ฝันว่าหลวงปู่วัดปากน้ำมาบอกว่า รูปหล่อของท่านที่อยู่หน้าคอนโซลรถยังอยู่นะ ไม่ไปไหนหรอก ซึ่งพอลูกชายตื่นขึ้นมา ก็งง ๆ ว่า ทำไมฝันแปลก ๆ จึงชวนเรากลับไปยังที่เกิดเหตุ แล้วมุดเข้าไปดูในรถเพื่อหารูปหล่อของท่าน แต่ปรากฏว่าหาเท่าไร ก็หาไม่เจอ ลูกชายจึงบอกกับเราว่า ไหนหลวงปู่บอกว่ายังอยู่ ๆ แล้วทำไมหาท่านไม่เจอ


รูปหล่อหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ที่ตั้งอยู่บนคอนโชลรถ ช่วยให้เรารอดตายอย่างอัศจรรย์
จากนั้นเราก็พากันไปเคลียร์เรื่องรถคว่ำที่โรงพัก ซึ่งพอเจ้าหน้าที่ตำรวจเจอเราเท่านั้น ก็รีบเอารูปหล่อหลวงปู่มาส่งคืนเรา แล้วบอกว่า เจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊งเขาขโมยไป เพราะเมื่อคืนเขางงที่สภาพรถเละขนาดนี้แล้วพวกคุณไม่เป็นอะไรเลย ก็เลยเข้าไปค้นในรถว่าพวกคุณมีพระอะไรดี จากนั้นเขาก็เอากลับบ้าน แต่ปรากฏว่ารุ่งเช้าเขามาสารภาพกับผมว่า พอเอารูปหล่อหลวงปู่กลับไป นอนไม่ได้เลย เพราะได้ยินเสียงท่านตะโกนบอกว่า ให้เอาไปคืนเจ้าของ

พอฟังจบเราขนลุกกันทั้งแม่ทั้งลูกเลยว่า หลวงปู่ท่านศักดิ์สิทธิ์แท้ หลังจากนั้นเราก็ไปดำเนินเรื่องเคลมประกัน ปรากฏว่า เขาบอกว่ารถบี้ยับขนาดนี้ เขาซ่อมไม่ได้ ก็เลยจำเป็นต้องถอยรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดงใหม่กิ๊กให้เรา !!!


ฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดงคันใหม่กิ๊ก ที่ประกันถอยมาให้ใหม่
ตอนนั้นเราดีใจมาก เพราะรถคันเก่าใช้งานมานานปีกว่าแล้ว แต่อยู่ ๆ ก็ได้ป้ายแดงมาเปลี่ยนแทนจากอุบัติเหตุครั้งนี้..ทำให้เราทึ่งเหลือเกิน รู้สึกขอบพระคุณหลวงปู่ และซาบซึ้งถึงอานุภาพบุญจากการเป็นประธานกองกฐินเป็นที่สุด เพราะหากเราไม่ชิงทำบุญใหญ่ตัดหน้า ยังไงเราก็ต้องตายคาที่ หรือไม่ก็ต้องบาดเจ็บสาหัสเป็นแน่ เพราะเป็นช่วงชีวิตที่เรากำลังมีเคราะห์ !!!

แต่เรื่องนี้..มันยังก็ไม่จบง่าย ๆ ขนาดนั้น เพราะสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีก คือ หลังจากที่เราเป็นประธานกองกฐิน 1 M ไป ภายในเดือนนั้นไม่รู้เป็นอย่างไร เพราะส้มตำทุกสาขาขายดิบขายดีจนมีรายได้เข้ามามากถึงเดือนละ 5 แสนบาทแบบงง ๆ ทั้ง ๆ ที่เราก็ขายแบบเดิม ตำแบบเดิมทุกอย่าง ซึ่งโดยปกติแล้วแม้ว่าเราจะขายดีสักแค่ไหน เราก็จะขายได้แค่เดือนละ 2-3 แสนบาทเท่านั้น แต่นี่..ยอดขายพุ่งปรี๊ดไปที่ 5 แสนบาท 2 เดือนติดกัน ทำให้มีรายได้เข้ามาชดเชยเงินที่ทำบุญไปรวมเป็น 1 M พอดี เหมือนทำบุญไปแล้วเงินไม่หมด เพราะมันงอกกลับมาทันตาเห็น พอพูดแล้วก็ขนลุก เพราะรู้สึกอัศจรรย์เหลือเกิน




อย่างกฐินปีที่ผ่านมา ปี พ.ศ. 2554 หลังจากที่ทำบุญเป็นประธานกองย่อยไปเท่านั้นเอง อยู่ ๆ ก็มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นอีก เพราะมีคนเอาอพาร์ตเมนต์สภาพดีราคาถูกมาเสนอขายให้เราแค่ 12 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่ปกติเขาเสนอขายก่อนหน้านี้นานแล้วด้วยราคา 15 ล้านบาท ทำให้อยู่ ๆ แม่ค้าอย่างเรา ก็กลายเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์ 50 ห้อง ที่สามารถเก็บค่าเช่าต่อเดือนได้สูงถึง 7-8 หมื่นบาท แบบสบาย ๆ

อพาร์ตเมนต์ 15 ล้านบาท อยู่แถวประตูน้ำพระอินทร์
พูดถึงบุญแล้วไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ โดยเฉพาะบุญจากการเป็นประธานกองกฐิน ที่พลิกชีวิตแม่ค้ารถเข็นขายส้มตำ ที่ติดเหล้า โดนสามีซ้อม หนี้สินท่วมตัว ให้ดีขึ้นทุกด้าน จนปัจจุบันเรามีร้านส้มตำถึง 3 แห่ง คือ สาขาใหญ่อยู่ที่ จังหวัดขอนแก่น อำเภอบ้านไผ่ กินพื้นที่ 5 คูหา ซึ่งขายทั้งข้าวขาหมู ข้าวหมูกรอบ ข้าวหมูแดง ก๋วยเตี๋ยว และอาหารอีสานครบเครื่อง และมีสาขาย่อยที่ชั้นล่างหน้าอพาร์ตเมนต์ของเราเอง และอีกสาขาหนึ่งอยู่ที่อำเภอคลองสอง จังหวัดปทุมธานี ใกล้วัดพระธรรมกายนี่แหละค่ะ อีกทั้งยังมีรถ 4 คัน มีที่ดินประมาณ 40 ไร่ ซึ่งเป็นสมบัติที่เกิดขึ้นหลังจากที่ได้มาทำบุญกับวัดพระธรรมกาย จนทุกวันนี้มีความสุขมากค่ะ”...  






Cr. ร. ลิ่วเฉลิมวงศ์ สำนักสื่อธรรมะ  










































หวิดตาย..แล้วกลับมารวยแบบจัดหนักกว่าเดิม หวิดตาย..แล้วกลับมารวยแบบจัดหนักกว่าเดิม Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 20:09 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.