หล่อทองเท่าอายุ ออเดอร์ทะลุหลายล้าน!

คุณอริสรา แซ่เลี่ยว หรือคุณหลิ่น

“ก่อนหน้านั้น..ไม่เคยเชื่อ

และไม่เคยคิดว่า

ทําบุญมาก ๆ แล้วจะรวย

เพราะคิดว่า...ยิ่งทํา ก็ยิ่งหมด

อีกทั้งถ้าทําบุญตอนมีหนี้สินด้วยแล้ว

ยิ่งไม่เห็นด้วยเลย

แต่น้องชายเรากลับไม่คิดอย่างนั้น..!!! ”

คุณอริสรา แซ่เลี่ยว หรือ คุณหลิ่น ปัจจุบันเป็นเจ้าของบริษัท ลี ชิน จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทในระดับต้น ๆ ของวงการชุดว่ายน้ำชั้นนํายี่ห้อ B-Surf ที่ขายทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของบริษัท เอเอ็มเท็กซ์ไทล์ จํากัด บริษัทขายผ้าน้องใหม่ที่กําลังโตเร็วอย่างเหลือเชื่อ !!!

“ ก่อนจะเข้าวัดพระธรรมกายลําบากมาก เพราะทําธุรกิจกับพี่ชายแล้วเจ๊งจนมีหนี้สินท่วมหัวถึง 8 ล้านบาท ตอนนั้น สถานการณ์ในบ้านตึงเครียดถึงขนาดพี่ชายชิงกินยาฆ่าตัวตาย เพื่อหนีหนี้ทั้งหมด ในช่วงนั้นเราเองก็วิตกกังวลเพราะมองไม่เห็นอนาคตเลยว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป อีกทั้งยังไม่มีธรรมะเป็นที่พึ่ง แล้วก็ไม่เชื่อเรื่องการเข้าวัดหรือทําบุญใด ๆนอกจากนั้น...ยังไม่เชื่อด้วยว่า ทําบุญมาก ๆ แล้วจะรวย เพราะคิดว่า...ยิ่งทําก็ยิ่งหมด อีกทั้งถ้าทําบุญตอนมีหนี้สินด้วยแล้ว ยิ่งไม่เห็นด้วยเลย

“ ตรงกันข้ามกับน้องชายที่ชื่อ หล่ง (เกรียงศักดิ แซ่เลียว ซึ่งตอนนี้ไปบวชเป็นพระอยู่ที่วัดพระธรรมกายแล้ว) เขากลับไม่คิดอย่างนั้น เพราะเขาชอบทําแต่บุญ ชอบไปวัดเป็นชีวิตจิตใจ ทุ่มเททําบุญแบบชนิดปิดบัญชี ซึ่งตั้งแต่ช่วงที่ทุกคนในบ้านยกให้เขามาเป็นหลักบริหารงานทั้งหมดหลังจากที่ครอบครัวเราเจอวิกฤต เขาก็ชอบแอบเอาเงินเป็น M ไปเป็นประธานกองกฐินกับวัดทุกปี ทั้ง ๆ ที่บ้านเรายังไม่พร้อมเลย อย่างในปี พ.ศ. 2545 น้องชายอยากทําบุญงานสลายร่างคุณยายให้ได้ถึง 3 M ซึ่งนั่นหมายถึงยิ่งกว่าปิดบัญชีอีก เพราะเงินเราหมดหน้าตักเลย แต่ในใจของน้องชายตอนนั้นรู้สึกว่าเป็นอย่างไรก็เป็นกัน ซึ่งพอทําไปแล้วปรากฏว่า อยู่ ๆ ก็มีออเดอร์จากประเทศสเปนเข้ามาถึง 2 ล้านบาท ซึ่งลูกค้าเจ้านี้ ยอมจ่ายเงินสดให้เราทีเดียวหมดเลย ซึ่งปกติถ้าลูกค้ายอมจ่ายมัดจําที่ 20 เปอร์เซ็นต์ ก็ถือว่าเก่งแล้ว เพราะเขายังไม่ได้สินค้าจากเราเลยสักชิ้น แถมลูกค้ารายนี้เป็นลูกค้าใหม่ที่อยู่ ๆ โผล่มาจากไหนก็ไม่ทราบ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่า ทําไมเขาเกิดไว้ใจเราได้ถึงขนาดนั้น นี่แสดงให้เห็นถึงอานุภาพบุญที่เหลือเชื่อ จนตอนหลังเรามีเงินไปถอยรถป้ายแดงคันใหม่ให้น้องสาวได้อีก 1 คัน ซึ่งเรื่องทํานองนี้เกิดขึ้นหลายครั้งมาก คือ น้องชายยิ่งแอบทําบุญมากเท่าไร ก็ยิ่งทําให้มีออเดอร์เข้ามามากขึ้นอย่าง เหลือเชื่อ เงินเข้า งานเข้า จนเรามีเงินเคลียร์หนี้เคลียร์สินได้จนหมด ทั้ง ๆ ที่มันไม่น่าเป็นไปได้เลย เพราะธุรกิจการ์เมนต์นี้ เราทํามานานตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ก็ยังไม่เคยรุ่งเท่าในช่วงที่น้องชายคนนี้เข้ามาเป็นเถ้าแก่บริหารงานเลย คือในยุคที่น้องชายมาทํา ทําให้ครอบครัวเรามีเงินสดซื้อบ้านหลังใหญ่ราคา 10 ล้านบาท ซื้อรถราคาหลายล้านบาท ซื้อที่ดิน ซื้อร้านที่ประตูน้ำ 2 ร้าน รวมมูลค่าถึง 35 ล้านบาท อีกทั้งยังซื้อตึกมูลค่า 8 ล้านบาท ที่เป็นโรงงานตัดเย็บในปัจจุบัน

“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา น้องชายคนนี้ได้พิสูจน์ให้เราเห็นว่า ที่ครอบครัวเราพลิกฟื้นมาได้ก็เพราะบุญจริง ๆ จนตอน หลัง ๆ เขายอมบอกให้เราทราบว่า ที่ผ่านมาเขาเอาเงินไปทําบุญเป็นจํานวนมาก แต่เราก็ไม่ว่าอะไร เพราะถือว่าเขาเป็น หลักที่ทําให้ธุรกิจโตและมีวันนี้

“แต่แม้เขาจะพยายามพูดให้เราเข้าใจในบุญอย่างไร หรือชวนเข้าวัด เราก็ไม่ค่อยสนใจอะไรมาก จนกระทั่งคุณพ่อตาย เราอยากทําบุญให้คุณพ่อมาก จึงคิดว่า...จะเป็นประธานกองกฐินที่วัดพระธรรมกายให้พ่อสักครั้ง แต่เนื่องจากเราต้องเอาเงินไปหมุนในธุรกิจ เงินก้อนใหญ่ ๆ ในมือจึงไม่มี ด้วยเหตุนี้...เราจึงลองอธิษฐานจิตขอหลวงปู่วัดปากน้ำ เพราะน้องชายชอบบอกว่า ท่านศักดิ์สิทธิ์มาก แล้วเราก็เจอเรื่องเหลือเชื่อจริง ๆ คือ อยู่ ๆ ก็ขายที่ดินตาบอดได้เป็นอัศจรรย์ เพราะจากเดิมเราซื้อที่ดินแปลงนี้มาแค่ 3 ล้านบาท แต่พอประกาศขายราคา 3 ล้าน ก็ไม่มีคนยอมซื้อ แต่เราอยากจะทําบุญมาก จึงอธิษฐานจิตตามที่น้องชายแนะนํา หลังจากนั้นไม่นาน อยู่ ๆ ทางอบต.เขาเกิดอยากขยายถนน จึงรื้อกำแพงหมู่บ้านออก ทําให้ที่ดินของเรากลายเป็นทําเลทองทันที โดยมีมูลค่าพุ่งไปถึง 10 ล้านบาท และพอเราประกาศ ขาย ก็มีคนมาซื้อเป็นอัศจรรย์ จนมีเงินมาทําบุญได้ถึง 10 M แรกของครอบครัวเลย และด้วยอานุภาพของบุญนี้เอง.. ทําให้อีกไม่นานเราสามารถขายตึกที่ประตูน้ำได้อีก งานนี้ได้กําไรสูงถึง 10 M จึงทําให้ครอบครัวเรามีโอกาสเป็นประธาน กองกฐินปี 52 อีก 10 M ทันที

“หลังจากทําบุญใหญ่นี้ไปเท่านั้นเอง...โรงงานเราก็พบจุดเปลี่ยนเลย คือ เกิดโกลาหล เพราะอยู่ ๆ มีออเดอร์ลูกค้าเข้า จนลูกน้องทุกคนงานล้นมือ ทํางานจนมือเป็นระวิง ต้องทําโอทีติด ๆ กันเป็นเวลานานถึง 6 เดือน มากเป็นประวัติการณ์ เพราะตั้งแต่ทําธุรกิจนี้มา เรายังไม่เคยมีงานเข้าหนักจนลูกน้องต้องทําโอทีด้วยระยะเวลายาวนานถึงขนาดนี้มาก่อน และนับจากนั้น.ธุรกิจเราก็โตแบบก้าวกระโดดขึ้นไปอีก

พระเกรียงศักดิ์ ปโมฑิโต (พระน้องชาย)

“ตอนนั้นเข้าใจเลยว่า บุญมีจริง เพราะอธิษฐานขอให้ขายที่ได้...ก็ขายได้ แต่ถึงแม้เราจะยอมทําบุญไปเป็นสิบ ๆ M แล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมเข้าวัดอยู่ดี เพราะยังไม่ได้เข้าใจธรรมะอะไรลึกซึ้ง จนกระทั่งอยู่ ๆ น้องชายตัดสินใจยกบริษัททั้งหมดให้เรา แล้วขอไปบวช เพราะเขาคิดว่า ได้สร้างทุกสิ่งทุกอย่างให้ครอบครัวหมดแล้ว และถึงเวลาที่เขาอยากจะทําในสิ่งที่ได้ตั้งใจ ไว้บ้าง ด้วยเหตุนี้..น้องชายจึงสั่งเราว่า ถ้าเขาไปบวชแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ต้องเป็นประธานกองกฐินให้ได้ทุกปืนะ เพราะหากตัวเรากําลังบุญไม่พอ ก็จะไม่สามารถบริหารบริษัทได้ตลอดรอดฝั่ง

“บอกตรง ๆ ว่า ตอนนั้นเครียดมากเลย ปกติถ้ามีใครมายกโรงงานให้ฟรี ๆ เขาก็ดีใจกันทั้งนั้น เหมือนยกความรวยมาให้ แต่นี่เรากลับเป็นทุกข์มาก เพราะเราไม่รู้ว่าจะบริหารงานได้เหมือนน้องชายหรือเปล่า อีกทั้งทุกคนรอบตัวเรายังคาดหวัง กับเราสูงเหลือเกิน

“แล้วพอเราได้มาบริหารบริษัทจริง ๆ ก็เจอแต่ปัญหารุมเร้าจนเครียดไปหมด ทั้ง ๆ ที่ตอนน้องชายบริหาร ดูเหมือนไม่ใช่ปัญหาของเขาเลย ตรงกันข้ามพอเป็นเรา เรากลับหาทางออกไม่ได้ จนถึงกับต้องลงทุนไปจ้างบริษัทที่ปรึกษามาช่วยเป็นพี่เลี้ยงจนหมดเงินค่าจ้างไปถึง 8 แสนบาท และต้องจ้างนานถึง 2 ปี

“ในภาวะที่เราวุ่นวายกับปัญหาบริษัทอยู่นั้น เราก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า เราน่าจะทําแบบที่น้องชายทํา คือ เอาธรรมะมาใช้ในการบริหารงาน ด้วยเหตุนี้เราจึงเริ่มเปลี่ยนตัวเองโดยหันมาฟังธรรมะ ดูทีวีช่อง DMC หันหน้าเข้าวัดอย่างจริงจัง พูดเพราะ ๆ ให้กําลังใจสามีและทุกคนในครอบครัวแบบที่หลวงพ่อสอน จนครอบครัวเรากลายเป็นครอบครัวอบอุ่น จนสุดท้ายเราก็สามารถปรับเอาธรรมะมาใช้ในการบริหารงานทุกอย่างได้อย่างลงตัวจริง ๆ จนทําให้เราบอกเลิกจ้างบริษัทที่ปรึกษาได้ในที่สุด

“นับจากนั้นไม่นาน ในช่วงเดือนเมษายน พ.ศ. 2555 เราก็ทราบข่าวการหล่อหลวงปู่ด้วยทองคําองค์ที่ 6 จากทางวัด เราเลยรีบตัดสินใจทําบุญด้วยทองคํา 44 บาททันที เท่ากับอายุเราตอนนั้น รวมมูลค่าถึง 1.1 M ซึ่งการทําบุญตรงนี้ ถือเป็นการทําบุญที่เราภูมิใจปลื้มใจมากที่สุด เพราะเราคิดอยากทําด้วยตัวเองจริง ๆ และพอทําเสร็จก็ปลื้มจนบอกไม่ถูก เพราะเราทําบุญนี้อย่างสุดกําลัง และหลังจากนั้นไม่นาน อยู่ ๆ ก็มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น คือ มีลูกค้ามาบอกว่า จะเหมาสินค้าที่ค้างสต๊อกล็อตเก่าของเราทั้งหมด แถมยังออเดอร์แบบทะลักทะลวง ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วช่วงนี้ของทุกปีจะเป็นช่วงเงียบแบบชนิดแทบไม่มีงานเลย แต่ครั้งนี้...งานเข้า เงินเข้า จนเรามีเงินสดเป็นของขวัญให้แม่ถึง 5 แสนบาท มีเงินซื้อที่ดินเพื่อปลูกบ้านใหม่อีก 5 ล้านบาท มีเงินหุ้นกับน้องสาวเปิดบริษัทใหม่อีกหนึ่งแห่งเป็นเงิน 1 ล้านบาท มีเงินไปถอยรถป้ายแดงคันใหม่ให้แม่ราคาถึง 2.2 ล้านบาท และล่าสุดมีเงินมาทําบุญหล่อทองหลวงปู่องค์ที่ 7 ซึ่งเราพาคนทั้งครอบครัวมาทําบุญปิดกองไปเรียบร้อยแล้วถึง 1.5 M

ตึกมูลค่า 8 ล้านบาท ที่ได้มาจากอานุภาพบุญ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า

ร้านขายเสื้อผ้าที่ตึกใบหยก ประตูน้ำ

“ทุกวันนี้นึกขอบคุณพระน้องชายที่ยกโรงงานให้ และแนะนําให้เราเข้าใจเรื่องบุญ เพราะหากเราบริหารกิจการเอง โดยไม่ทําบุญ หรือไม่เอาธรรมะมาใช้ ก็เชื่อว่าเราคงกลับไปเจ็งเหมือนเก่าที่เราเคยบริหารร่วมกับพี่ชาย แต่ตั้งแต่เราหันมาทําบุญอย่างสุดกําลัง และตั้งใจเป็นประธานกองกฐินทุกปี และที่สําคัญทําบุญหล่อหลวงปู่ด้วยทองคํา ทําให้ชีวิตเราพลิกเลย คือ เรามีกําลังบุญพอที่จะพาบริษัทให้อยู่รอดและได้กําไรมากกว่าที่เราคาดคิดไว้มาก

“จนตอนนี้...เราเข้าใจพระน้องชายแล้วว่า ทําไมท่านถึงชอบทําบุญ เพราะถ้าเรามีบุญมาก อุปสรรคในชีวิตเราก็น้อย ถ้าเรามีบุญน้อย อุปสรรคในชีวิตเราก็มาก เพราะทุกอย่างในชีวิตต้องแก้ด้วยบุญจริง ๆ ...”

Cr. ร. ลิ่วเฉลิมวงศ์ สำนักสื่อธรรมะ

อ้างอิง : หนังสือเรื่อง "ชีวิตจะเปลี่ยนไป ถ้าใจกล้าเปลี่ยนแปลง" เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2556