กระแสของการให้ จากใจถึงใจ
ตักบาตรพระ ๒,๕๕๗ รูป อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด |
นักโฆษณาหนุ่มชาวลอนดอนคนหนึ่งเกิดแนวคิดที่จะปฏิวัติพื้นที่รกร้างและทรุดโทรมข้างทางเท้าของเมืองที่เขาเติบโตขึ้นมา
คืนหนึ่งเขาจึงขับรถพร้อมกับบรรทุกต้นกุหลาบและเครื่องมือเพาะชำ ออกไปทำ
สวนหย่อมเล็ก ๆ ข้างถนนโดยไม่มีใครเห็น และในคืนต่อ ๆ มา
เขาก็ยังคงปลูกต้นไม้ต่อไป
ผลงานของเขากลายเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่อยู่ในบทสนทนาของชาวลอนดอน ต่อมาการกระทำของเขาได้รับการขานรับจากผู้คนจำนวนมากและขยายไปยังประเทศต่าง
ๆ ถึง๓๐ ประเทศทั่วโลก
เริ่มต้นจากการให้อย่างเงียบ
ๆ ของชายคนหนึ่ง ยังกลายเป็นกระแสสังคมไปทั่วโลกได้ขนาดนี้
สักวันหนึ่งการตักบาตรในโครงกาตักบาตรพระ ๒,๐๐๐,๐๐๐ รูป ๗๗ จังหวัด ทุกวัดทั่วไทยของเราทุกคน ก็จะเป็นต้นแบบแก่คนรอบข้างและเกิดเป็นกระแสของ
“การให้”แผ่ขยายออกไปในวงกว้างยิ่ง
ๆ ขึ้น
นายเลอเกียรติ แก้วศรีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานฝ่ายฆราวาส |
เมื่อวันที่
๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ หน่วยงานราชการและเอกชน คณะสงฆ์ และประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด
ร่วมกันจัดพิธีตักบาตรพระ ๒,๕๕๗ รูป ณ ถนนสุริยเดชบำรุงข้างบึงพลาญชัย
อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีพระธรรมฐิติญาณ เจ้าคณะภาค
๑๐ เจ้าอาวาสวัดบึงพลาญชัย และพระราชปริยัติวิมล เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด
ฝ่ายธรรมยุตเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายเลอเกียรติ แก้วศรีจันทร์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ทั้งนี้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่พุทธบุตร
๓๒๓ วัด ในพื้นที่ ๔ จังหวัดภาคใต้
ตักบาตรพระ ๒,๗๐๐ รูป อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม |
นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม |
เมื่อวันที่
๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ มีพิธีตักบาตรพระ ๒,๗๐๐ รูป
บริเวณถนนหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด โดยมีพระเทพสิทธาจารย์
เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคามเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายนพวัชร สิงห์ศักดา
ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส การตักบาตรครั้งนี้
เป็นหนึ่งในโครงการตักบาตรพระ ๒,๐๐๐,๐๐๐
รูป๗๗ จังหวัด ทุกวัดทั่วไทย โดยดำริของหลวงพ่อธัมมชโยประธานมูลนิธิธรรมกาย
ที่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา และให้ความช่วยเหลือแก่พุทธบุตร
๓๒๓ วัด ในพื้นที่ ๔ จังหวัดภาคใต้ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบมากว่า
๑๐ ปี
Cr. ใจแก้ว
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๓๙ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
กระแสของการให้ จากใจถึงใจ
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
00:50
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: