นึกแล้วปลื้มทุกยาม สามบุญใหญ่เมืองทวาย
“ทำอย่างไรดีหนอ
เมืองไทยจะได้อย่างนี้บ้าง” เป็นคำรำพึงของหลวงพ่อธัมมชโย
หลังจากท่านเห็นภาพกิจกรรม ๓ บุญใหญ่เมืองทวาย
และทราบพื้นฐานวิถีชีวิตของชาวทวายว่า มีการปลูกฝังให้ผู้คนตั้งแต่เยาว์วัย
ฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนา จนทวายกลายเป็นแผ่นดินอันสงบร่มเย็นด้วยพระพุทธธรรมคำสอน
มาจนถึงปัจจุบัน
ปลื้มไม่หยุด ชนเล่าขาน ตราบกาลนิรันดร์
เมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ณ เมืองทวาย
ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ เกิดปรากฏการณ์แห่งความปลื้มปีติที่ยากจะลืมเลือน
ด้วยการจัดงานบุญใหญ่ถึง ๓ งาน คือ ในภาคเช้ามีการตักบาตรพระกว่า ๓,๐๐๐ รูป ภาคบ่ายมีธรรมจาริก คือการเดินธุดงค์ธรรมชัยของพระภิกษุกว่า
๑,๐๐๐ รูป ณ ถนนใจกลางเมืองทวาย
และภาคค่ำมีพิธีจุดโคมถวายเป็นพุทธบูชากว่า ๑๐,๐๐๐ ดวง
การจัดงานครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือกันระหว่างชาวพุทธทั้งจากประเทศไทยและประเทศเมียนมาร์
และถือเป็นศาสนิกสัมพันธ์ครั้งประวัติศาสตร์ที่ทำให้เกิดกระแสแห่งความรัก ความศรัทธา
และมุ่งธำรงรักษาพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอาเซียนต่อไปอีกยาวนาน
ดังเช่น คำเปิดใจของพระอินทญาณะ พระภิกษุชาวเมียนมาร์เจ้าอาวาสวัดยีงเง
ผู้นำในการจัดกิจกรรมครั้งประวัติศาสตร์นี้ ที่กล่าวว่า งานบุญใหญ่ ๓ งานครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือในการฟื้นฟูกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา
ระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน อันเป็นการเตรียมเปิดรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปีหน้า
งานนี้มีสาธุชนไปร่วมงานมากกว่าที่คาดคิด คนแน่นทุกพื้นที่
และมีความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งเกิดขึ้นคือ ฝนฟ้าพายุที่มีการพยากรณ์ว่ากำลังจะเข้าเมืองทวาย
กลับปรากฏว่ามีแต่ท้องฟ้าแจ่มใส มีฝนบ้างแค่พรำ ๆ ตอนเตรียมงานเท่านั้น
ขณะที่เมืองอื่น ๆ พายุเข้าจนน้ำท่วม
พระอินทญาณะยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ สายตาของคนทั้งประเทศกำลังหันไปมองที่เมืองทวาย
เพราะใครจะเชื่อว่าเมืองเล็ก ๆ จะจัดงานได้ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ จนกลายเป็นสัญญาใจให้กับผู้รักบุญทั้งหลายที่จดจ่อรอคอยที่จะไปร่วมบุญที่เมืองทวายอีกในปีหน้า
ซึ่งท่านจะจัดขึ้นอีกแม้จะต้องเหน็ดเหนื่อยและต้องฟันฝ่าอุปสรรคใด ๆ ก็ไม่หวั่นเลย
ร่วมมือ ประสานใจ สู่เป้าหมายเดียวกัน
พระอาจารย์เอก๊ะ วอน ต๊ะ พระมหาเถระแห่งเมืองทวาย
หนึ่งในผู้ลงนามอนุมัติให้มีการจัดงานครั้งนี้กล่าวว่า งานยิ่งใหญ่น่าทึ่งมาก สาธุชนไปร่วมงานอย่างคับคั่ง
แต่เป็นระเบียบเรียบร้อยสร้างความปลาบปลื้มแก่ผู้พบเห็นมาก
ในฐานะที่เราเป็นชาวพุทธเหมือนกัน มีเป้าหมายเดียวกัน ต้องสามัคคีกันเพื่อให้พระพุทธศาสนามีความมั่นคงแข็งแรง
เราต้องพบกันอีกเพื่อช่วยให้พระพุทธศาสนาทั้งสองประเทศมีความเข้มแข็ง
งานครั้งนี้ประสบผลสำเร็จจริง ๆ ก่อให้เกิดการยอมรับและยินดีที่จะร่วมมือช่วยงานในอนาคต
นักเรียนนักศึกษาที่ไปร่วมงานบางคน อยู่ในระดับมหาวิทยาลัย
เมื่อเห็นพระเยอะ ๆ ได้ใส่บาตรพระจำนวนมาก ก็ปีติจนน้ำตาไหล ช่วงเดินธุดงค์ในตอนบ่ายได้เห็นพระท่านเดินอย่างสงบเสงี่ยม
สง่างาม ก็เกิดความศรัทธา เลื่อมใส อยากออกบวชเพื่อจะได้เดินธุดงค์แบบนี้บ้าง
เมื่อประตูใจเปิดเห็นภาพตรงกัน
ความสมานฉันท์ก็นำไปสู่ความร่วมมือกันในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามให้เกิดขึ้นในสังคม
ความสงบสุขก็เกิดขึ้นแก่บ้านเมือง และพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาแห่งสันติภาพก็จะยังดำรงอยู่เพื่อก่อให้เกิดความปรองดองและสันติสุข
อันยั่งยืนถาวรต่อไปอีกยาวนาน
อย่างไรก็ตาม ภาพพุทธศาสนิกชนที่มีความรักในพระพุทธศาสนามารวมตัวกัน สร้างบุญกุศลอย่างสงบงดงาม
และพร้อมเพรียงกันในทวาย ดังที่หลวงพ่อธัมมชโยปรารภว่า “ทำอย่างไรดีหนอ เมืองไทยจะได้อย่างนี้บ้าง” นั้น เชื่อว่ากำลังจะปรากฏขึ้นในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้
เพราะในปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ นี้ ประเทศเราจะจัดโครงการบรรพชาสามเณรล้านรูป
เพื่อปลูกฝังให้ผู้คนตั้งแต่เยาว์วัยฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนา
รักพระพุทธศาสนาไม่ต่างจากพุทธศาสนิกชนชาวทวาย
ซึ่งจะก่อให้เกิดความสงบร่มเย็นแก่ประเทศชาติของเราในที่สุด
บุญกุศลจากการมีส่วนร่วมในโครงการนี้ จะสร้างความปลื้มใจแก่เราทุกคน
ดังเช่น ชาวทวายที่ปลื้มทุกยามเมื่อตามระลึกนึกถึง บุญใหญ่ที่พวกเขามีส่วนทำให้ภาพอัศจรรย์แห่งพระพุทธศาสนาบังเกิดขึ้นในทวาย...
ขออนุโมทนาสาธุการมา ณ โอกาสนี้
Cr. จันทร์ซีโร่
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๔๖ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
นึกแล้วปลื้มทุกยาม สามบุญใหญ่เมืองทวาย
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
03:49
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: