การทอดผ้าป่า อานิสงส์ใหญ่ที่คาดไม่ถึง
การทำบุญทอดผ้าป่า เป็นบุญที่มีอานิสงส์อันไม่มีประมาณ เพราะเป็น “มหาสังฆทาน” คือ เป็นทานที่ถวายแบบไม่เฉพาะเจาะจงแก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง
ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า มีอานิสงส์มากกว่าการถวายทานแด่พระองค์เองแบบจำเพาะเจาะจงเสียอีก
หากย้อนศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับการทอดผ้าป่า
ก็จะพบว่า เดิมทีเดียว “การทอดผ้าป่า” เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลย เพราะในยุคต้นๆ
ของสมัยพุทธกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่ทรงมีพระบรมพุทธานุญาตให้พระภิกษุรับ “คฤหบดีจีวร” หรือ “จีวรที่มีผู้ถวายโดยตรง”
ดังนั้น
พระภิกษุที่บวชอยู่ในพระพุทธศาสนาจึงต้องเที่ยวเก็บผ้าที่พวกชาวบ้านทิ้งแล้วจากที่ต่างๆ
เช่น ป่าบ้าง กองหยากเยื่อบ้าง กองขยะบ้าง หรือเอามาจากผ้าห่อศพบ้าง และเมื่อรวบรวมเอาผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้พอแก่ความต้องการแล้ว
ท่านก็จะนำมาซักทำความสะอาด แล้วนำมาตัด เย็บ ย้อม เพื่อทำเป็นจีวร สบง
หรือสังฆาฏิ ซึ่งเราจะเห็นว่ากว่าจะได้ผ้ามาทำเป็นจีวรนั้นลำบากมากๆ
จุดกำเนิดของการทอดผ้าป่า
ผู้ที่เป็นต้นกำเนิดของการทอดผ้าป่าท่านแรก คือ
เทพธิดาที่อยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งมีนามว่า “เทพธิดาชาลินี”
เรื่องมีอยู่ว่า
ในวันหนึ่งพระอนุรุทธเถระผู้มีจีวรเก่ากำลังเที่ยวแสวงหาเศษผ้าจากกองหยากเยื่อ
เพื่อเอาไปทำจีวร พอเทพธิดาชาลินีเห็นเข้า จึงเกิดกุศลจิต
แล้วตั้งใจว่าจะเอาผ้าทิพย์ 3 ผืน ยาว 13 ศอก กว้าง 4 ศอก น้อมถวายแด่ท่าน แต่แล้วเธอก็กลับฉุกคิดได้ว่า
‘ถ้าเราจะถวายโดยตรง พระเถระก็จะไม่รับ
เนื่องจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังไม่ทรงมีพระบรมพุทธานุญาตให้รับ’ ดังนั้น เธอจึงน้อมนำเอาผ้าทิพย์ไปวางไว้ในกองหยากเยื่อ
ตรงบริเวณที่พระอนุรุทธเถระท่านจะต้องเดินผ่าน โดยวางให้ชายผ้าทิพย์โผล่พ้นกองหยากเยื่อออกมาเพื่อให้เห็นง่ายๆ
จากนั้นพอพระอนุรุทธเถระได้เห็นผ้านั้นจริงๆ ท่านก็จับชายผ้าดึงออกมาเพื่อนำกลับไปทำจีวร
เหตุการณ์นี้ จึงกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้ใจบุญในสมัยพุทธกาลเกิดวิสัยทัศน์ตามแบบเทพธิดาชาลินี
โดยจงใจนำผ้าไปไว้ตามที่ต่างๆ บ้าง เช่น ตามต้นไม้ ตามกองขยะ ในป่า หรือตามข้างทาง โดยทำทีเป็นเหมือนว่าผ้านี้ได้ทิ้งแล้ว
จากนั้น เมื่อมีพระภิกษุเดินไปพบเข้า ท่านก็จะนำผ้าดังกล่าวไปทำจีวร
เพราะถือว่าเป็นผ้าที่ไม่มีเจ้าของ ซึ่งเราเรียกผ้าชนิดนี้กันว่า “ผ้าป่า” เพราะเอามาจากป่า หรือ “ผ้าบังสุกุล” ที่แปลว่า “ผ้าเปื้อนฝุ่น”
ผู้บรรลุพระโสดาบันหลังจากถวายผ้าป่าครั้งแรก
ต่อมา หมอชีวกโกมารภัจจ์ ซึ่งเป็นแพทย์ประจำพระพุทธองค์
ผู้ได้ถวายการรักษาอาการต่างๆ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เห็นถึงความยากลำบากของพระภิกษุสงฆ์ที่ต้องไปแสวงหาผ้าที่พวกชาวบ้านทิ้งไว้ตามกองขยะ
จึงไปกราบทูลขอพรจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า..ขอให้พระภิกษุสามารถรับคฤหบดีจีวรได้
ด้วยเหตุนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงทรงมีพระบรมพุทธานุญาตให้ใช้ผ้าได้ทั้ง
2 แบบ คือ พระภิกษุจะไปหาผ้าบังสุกุลมาทำเป็นจีวรก็ได้
หรือจะรับผ้าจีวรที่มีคนถวายโดยตรงก็ได้
ในขณะเดียวกันนั้นเอง หมอชีวกโกมารภัจจ์ก็ได้น้อมถวายคฤหบดีจีวรเป็นคนแรกและครั้งแรก
โดยนำผ้าเนื้อดีที่สุดที่ได้รับพระราชทานเป็นรางวัลจากการรักษาพระเจ้าจัณฑปัชโชต
มาน้อมถวายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
หลังจากถวายเสร็จแล้ว
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนาและกล่าวอนุโมทนาคาถาแก่หมอชีวกโกมารภัจจ์
เมื่อพระองค์ตรัสพระธรรมเทศนาจบลง หมอชีวกโกมารภัจจ์ก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันในทันที
จากเรื่องราวที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า หมอชีวกโกมารภัจจ์เป็นผู้สถาปนาการทอดผ้าป่าเป็นคนแรก
ซึ่งบุญจากการถวายผ้าของหมอชีวกโกมารภัจจ์นั้นเป็นบุญที่มีอานิสงส์มาก
เพราะเป็นบุญที่ทำให้หมอชีวกโกมารภัจจ์มีบุญบารมีเพิ่มจนเต็มเปี่ยม กระทั่งสามารถบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันได้เป็นอัศจรรย์
เรียบเรียงจาก :
1. พระไตรปิฎก เล่มที่ 5 พระวินัยปิฎก เล่มที่ 5 มหาวรรค ภาค 2
เรื่องพระเจ้าจัณฑปัชโชตทรงประชวรโรคผอมเหลือง
2. พระไตรปิฎก เล่มที่ 5 พระวินัยปิฎก เล่มที่ 5 มหาวรรค ภาค 2
พระผู้มีพระภาคเสวยพระโอสถถ่าย
3. อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท อรหันตวรรคที่ 7
เรื่องพระอนุรุทธเถระ
Cr. ร. ลิ่วเฉลิมวงศ์ สำนักสื่อธรรมะ
การทอดผ้าป่า อานิสงส์ใหญ่ที่คาดไม่ถึง
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
00:46
Rating:
🙏🙏🙏😇
ตอบลบกราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ
ตอบลบ