มุขปาฐะ อัศจรรย์การทรงจำสืบทอดคำสอน
พระไตรปิฎกบาลี
เป็นพระไตรปิฎกในพระพุทธศาสนาเถรวาทที่สืบทอดรักษาต่อ ๆ กันมาเป็นภาษาบาลี
ซึ่งถือเป็นพระไตรปิฎกที่มีเนื้อหาครบถ้วนสมบูรณ์และเก่าแก่ดั้งเดิมที่สุด
มีเนื้อหาแบ่งเป็น ๓ หมวด ได้แก่ พระวินัยปิฎก
คือ บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับระเบียบปฏิบัติของคณะสงฆ์ พระสุตตันตปิฎก คือ
ประมวลพระธรรมเทศนาและเรื่องราวต่าง ๆ เมื่อครั้งพุทธกาล และ พระอภิธรรมปิฎก คือ
ประมวลเนื้อหาธรรมล้วน ๆ ไม่มีบุคคล สถานที่ และเหตุการณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
พระไตรปิฎกบาลีเดินทางไกลผ่านกาลเวลามาประมาณ
๒,๖๐๐ ปี สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นจนมาถึงปัจจุบัน
แต่แทบไม่น่าเชื่อว่าการสืบทอดดังกล่าวจะมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่อินเดียโบราณ ในยุคที่ปราศจากเทคโนโลยีสื่อสารคมนาคม
แม้แต่การขีดเขียนตัวอักษรก็ยังไม่แพร่หลาย
ในสังคมอินเดียยุคนั้น จึงนับเป็นเรื่องอัศจรรย์ไม่น้อยที่พระธรรมคำสอน ๘๔,๐๐๐
พระธรรมขันธ์ ได้รับการสืบทอดต่อกันมาจนถึงมือเรา
วิธีการเดียวในการสืบทอดพระธรรมและพระวินัยในครั้งพุทธกาล คือ การสวดทรงจำ
ซึ่งนิยมเรียกว่า “มุขปาฐะ” โดยมีจุดเริ่มต้นจากพระภิกษุสงฆ์ที่เดินทางไปรับฟังพระวินัยและพระธรรมเทศนาจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากนั้นก็ทรงจำคำสอนนั้นไปถ่ายทอดให้แก่พระภิกษุสงฆ์ในแคว้นต่าง ๆ
พระภิกษุเหล่านี้คือพระภิกษุที่จำพรรษาอยู่ในแคว้นต่าง
ๆ เมื่อเสร็จสิ้นการอยู่จำพรรษาก็จะเดินทางไปเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าตามธรรมเนียมปฏิบัติในครั้งพุทธกาล
เพื่อศึกษาพระธรรมคำสอนและพระวินัยที่ทรงแสดงเพิ่มเติมในพรรษานั้น ๆ ณ
เชตวันมหาวิหารและวัดบุพพารามในกรุงสาวัตถี
ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงจำพรรษาตลอดต่อเนื่องนานถึง ๒๕ พรรษา
พระภิกษุอาคันตุกะที่เดินทางไปเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในครั้งนั้นจะพักแรมในที่พักที่จัดแบ่งตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านของพระภิกษุ เช่น กลุ่มที่ชำนาญพระสูตร กลุ่มที่ชำนาญพระวินัย เป็นต้น
ทั้งนี้เพื่อเลือกศึกษาพระวินัย พระธรรม หรือพระสูตรตามที่ตนสนใจ
เมื่อสามารถสวดทรงจำพระธรรมวินัยที่ศึกษาได้ขึ้นใจแล้ว
ก็จะกราบทูลลาจาริกไปในแคว้นต่าง ๆ
และนำพระธรรมคำสอนที่เพิ่งศึกษามาไปถ่ายทอดแก่พระภิกษุอื่นต่อ ๆ กันไป พระวินัยและพระธรรมจึงได้รับการถ่ายทอดไปยังพระภิกษุทั้งแผ่นดินโดยทั่วถึงกันด้วยการสวดทรงจำนี้เอง
ต่อมา เมื่อการเขียนบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรแพร่หลายมากขึ้น
พระไตรปิฎกจึงได้รับการจารลงในคัมภีร์ใบลานบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเมื่อราวปี พ.ศ. ๔๐๐ เศษ ๆ
และวิธีการในการบันทึกพระไตรปิฎกก็ได้ปรับเปลี่ยนไปตามเทคโนโลยีที่พัฒนาก้าวหน้าขึ้น
จากคัมภีร์ใบลานเป็นพระไตรปิฎกฉบับพิมพ์ จากพระไตรปิฎกฉบับพิมพ์เป็นพระไตรปิฎกคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน
แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าคัมภีร์ใบลานเป็นจำนวนมากถูกปล่อยปละละเลย
ทำให้บางส่วนผุกร่อนไปตามกาลเวลา บางส่วนก็สูญหายไป
อีกทั้งผู้ที่สามารถอ่านอักษรโบราณก็มีน้อยลงไปทุกที
โครงการพระไตรปิฎกจึงรวบรวม อนุรักษ์และถ่ายภาพคัมภีร์ใบลานอันเป็นหลักฐานชั้นต้นของพระไตรปิฎกที่เก่าแก่ที่สุดเป็นข้อมูลดิจิทัลที่ง่ายต่อการเก็บรักษาและสะดวกต่อการนำมาศึกษา
พร้อมทั้งจัดทำฐานข้อมูลพระไตรปิฎกจากคัมภีร์ใบลานดังกล่าว
เพื่อศึกษาเปรียบเทียบด้วยความร่วมมือกันของนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญพระไตรปิฎกและภาษาบาลีจากหลากหลายชาติ
เช่น ศรีลังกา พม่า ไทย อังกฤษ เป็นต้น
จนกระทั่งสามารถสรุปหลักฐานคัมภีร์ใบลานจากสายจารีตต่าง ๆ เป็นพระไตรปิฎก ฉบับธรรมชัย เล่มสาธิต คือ คัมภีร์สีลขันธวรรค ได้เป็นผลสำเร็จเรียบร้อยแล้ว
ทางโครงการจึงจัดงานสัมมนาพระไตรปิฎกบาลีในหัวข้อเรื่อง
“การสืบทอดพุทธธรรม จากพุทธกาลสู่โลกปัจจุบัน”
ขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖
เพื่อเปิดตัวพระไตรปิฎกบาลีเล่มสาธิตดังกล่าว โดยได้รับเกียรติจากนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิจากนานาประเทศมาให้ความรู้เกี่ยวกับการสืบทอดพระไตรปิฎกบาลี ตั้งแต่ยุคมุขปาฐะ การสวดทรงจำด้วยปากเปล่า
การจารจารึกเป็นลายลักษณ์อักษรลงบนวัสดุต่าง ๆ การตีพิมพ์บนกระดาษ
และการเก็บรักษาพระไตรปิฎกในรูปแบบดิจิทัล
นอกจากนี้ภายในงานยังจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับการสืบทอดพุทธธรรมตั้งแต่ยุคพุทธกาลจนถึงยุคปัจจุบันให้ ผู้สนใจทั่วไปเข้าชมด้วย
ขณะนี้
โครงการพระไตรปิฎกได้นำนิทรรศการดังกล่าวมาจัดแสดงไว้ที่สภาธรรมกายสากล
ท่านที่สนใจศึกษาเพิ่มเติมสามารถเข้าชมได้ที่เสา N24 (ฒ 24)
ทุกวันอาทิตย์
เข้าชมนิทรรศการ
ครั้งนี้แล้ว ท่านจะได้เรียนรู้เรื่องการสืบทอดพุทธธรรม ๒,๖๐๐
ปี ได้ภายใน ๑ วัน
Prof. Richard Gombrich ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัย Oxford
เจ้าของงานวิจัยสำคัญที่นักวิชาการในวงการบาลีโลกใช้อ้างอิง
ให้เกียรติมาบรรยายเรื่องการสืบทอดพุทธธรรมด้วยมุขปาฐะ
ซึ่งเป็นกระบวนการสืบทอดคัมภีร์พระพุทธศาสนาในยุคแรก
คุณนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
“ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาร่วมงานสัมมนาพระไตรปิฎกบาลี
ที่รวบรวมมาจากพระไตรปิฎกใบลาน จากใบลานทั้งหมด ๔ จารีต จากอักษรต่าง ๆ คือ พม่า
ขอม สิงหล และ ล้านนา
โดยมีการนำใบลานทั้งหลายมาถ่ายรูปเก็บไว้ในอมพิวเตอร์
ซึ่งจะช่วยให้คงอยู่ถาวรตลอดไป นอกจากนั้นยังสามารถที่จะเปรียบเทียบในจารีตต่าง ๆ ได้ง่าย
ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ดีมากที่เราจะเก็บรวบรวมพระไตรปิฎกไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเล่าเรียนต่อไปโดยไม่จำเป็นจะต้องไปค้นหาด้วยตัวเอง
แต่เข้ามาที่ข้อมูลตรงนี้ก็สามารถดูได้ทั้งหมดทุกจารีตที่มี ขอชื่นชมคณะทำงาน
และเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทำนี้จะเป็นประโยชน์กับพุทธศาสนิกชนทั่วไป
และจะช่วยธำรงพระพุทธศาสนาด้วย”
Cr. Tipitaka
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๒๘ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๖
มุขปาฐะ อัศจรรย์การทรงจำสืบทอดคำสอน
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
23:42
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: