เพราะเหตุใดคำสอนเรื่องอริยสัจ ๔ จึงสำคัญต่อชาวโลกมาก?
อะไรเป็นสาเหตุให้มนุษย์แสดงท่าทีต่อความทุกข์ในชีวิตแตกต่างกันไป
และเพราะเหตุใดคำสอนเรื่องอริยสัจ ๔ จึงสำคัญต่อชาวโลกมาก?
การกระทำของแต่ละคนในคราวที่เผชิญปัญหา
โดยมากทำโดยอาศัยพื้นฐานความคิดเห็นและมุมมองจากความเข้าใจต่อโลกและชีวิตตามที่ตนเองรู้และเข้าใจ
บางคนจะโอดครวญ บ่นเพ้อเสียใจว่าทำดีมามากแล้วทำไมจึงต้องประสบกับเคราะห์กรรม
บางคนกลับรักษาใจให้มั่นคงไม่หวั่นไหวขึ้นลงไปกับสิ่งที่ได้ประสบ
บางคนสามารถพลิกวิกฤตในชีวิตให้เป็นโอกาส สร้างความดีและช่วยเหลือสงเคราะห์เพื่อนร่วมโลกต่อไปอีก
เมื่อชาวพุทธมีพระนิพพานเป็นเป้าหมายชีวิต
เวลาเผชิญปัญหาก็จะต้องพากเพียรในการสั่งสมบุญบารมีให้ตลอดรอดฝั่ง
แม้มีอุปสรรคใดมาขวางกั้นก็ไม่หวั่นไหว ไม่เลิกละความเพียรพยายาม
แต่บุคคลจะสามารถทำอย่างนี้ได้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเห็น “ภาพรวมของชีวิต” รู้จักมองทุกสิ่งทุกอย่างได้ตรงตามความเป็นจริง
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้ชาวพุทธมองโลกและชีวิตผ่านความรู้ที่แท้จริง
คือ “อริยสัจ ๔” ซึ่งเป็นความจริงอันประเสริฐที่ทุกคนต้องรู้
เพราะเมื่อรู้แล้วถึงจะดำเนินชีวิตให้บรรลุเป้าหมายได้ตรงตามความเป็นจริง
๑) ทุกขอริยสัจ คือรู้ตามความเป็นจริงว่า ชีวิตนี้เป็นทุกข์
เพราะเราคือนักโทษประหาร ต้องเกิดและตายอยู่ในคุกคือวัฏสงสารนี้
เราเวียนเกิดเวียนตายอยู่ในคุกมาหลายรอบแล้ว
ถูกขังอยู่ในคุกคือโลกและจักรวาล โดยที่เราซึ่งเป็นนักโทษก็ไม่เคยรู้ว่า
ตัวเองทำผิดอะไรมาก่อน แล้วจะหมดโทษพ้นโทษเมื่อใดก็ไม่ทราบ นอกจากนี้ คุกนี้ยังมี กฎแห่งกรรม ที่บังคับไว้ว่า
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทำให้เราเป็นผู้ทำกรรมและได้รับผลของกรรมนั้นเอง
กรรมดีทำให้โทษเบาบาง ได้ไปสู่สวรรค์ แต่สวรรค์นั่นก็คือคุกอยู่ดี
แต่เป็นคุกชั้นดี ถ้าทำกรรมชั่ว ผลของกรรมชั่วคือต้องไปรับโทษหนักในนรก นอกจากกฎแห่งกรรมแล้ว
คุกนี้ยังมี กฎไตรลักษณ์
ที่มีกลไกคือเวลาเป็นตัวเร่งและบีบคั้นให้เราทุกข์จากความแก่ ทุกข์จากความเจ็บ
ทุกข์จากความตาย บีบคั้นให้เพิ่มโทษเพิ่มทุกข์ให้ตัวเอง
สภาพที่แท้จริงของเราถูกปิดบังให้มืดมิด
มนุษย์ไม่เคยรู้ความจริงมาก่อน ชีวิตจึงวนเวียนอยู่แต่ในการทำผิดทำพลาด
จนกระทั่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณด้วยพระองค์เอง
ทรงกำจัดทุกข์ของพระองค์เองให้สิ้นไป
ทรงเป็นผู้ค้นพบถึงความจริงที่สำคัญเหล่านี้แล้วจึงทรงนำมาบอกให้ชาวโลกทราบ
แล้วมีผู้ปฏิบัติตามสามารถกำจัดทุกข์ให้สิ้นไป ปรากฏเป็นพระอรหันตเจ้ามากมาย
ดังนั้น
เมื่อกฎแห่งกรรมตามประกบเราอยู่ เราจึงว่างเว้นจากการทำความดีไม่ได้
มีโอกาสแล้วต้องรีบทำดีเพื่อสั่งสมบุญให้มาก ๆ
เราจะได้เอาบุญเป็นเสบียงไว้ไปปราบกิเลส ขณะเดียวกัน
เมื่อกฎไตรลักษณ์เร่งให้เราแก่ เร่งให้เราเจ็บ เร่งให้เราตาย เราจะชักช้าไม่ได้
เพราะทุกอนุวินาทีมีค่ากว่าทองคำ ต้องเปลี่ยนเป็นบุญให้หมด
และต้องเปลี่ยนเป็นบุญอย่างมีประสิทธิภาพด้วย
ชาวพุทธได้ยินเรื่องความจริงอันประเสริฐประการที่
๑ คือโลกและชีวิตนี้เป็นทุกข์กันมานานแล้ว แต่ไม่ค่อยนำไปคิดกัน สิ่งสำคัญคือความจริงเรื่องทุกข์นี้ต้องชัดเจนในใจ
ถ้าเพียงแต่นำไปคิดเท่านั้น ชาวโลกจะรู้และเข้าใจสภาพความจริงของตัวเอง
แล้วจะเริ่มมีความปลอดภัยขึ้นมาระดับหนึ่ง
ถ้าความจริงนี้ชัดเจนในใจของใครเข้าเมื่อไร
คุกคือวัฏสงสารนี้จะสะเทือนด้วยคนคนนั้นขึ้นมาทีเดียว พระพุทธองค์จึงทรงบอกว่าความจริงเรื่องทุกขอริยสัจนี้
คือ ความจริงอันประเสริฐที่ชาวโลกทุกคนต้องรู้
๒) ทุกขสมุทัยอริยสัจ คือรู้ตามความเป็นจริงว่า ทุกข์ทั้งหลายเกิดจาก “กิเลส” ที่เป็นเครื่องติดตามและบังคับบัญชานักโทษ
โดยบังคับให้นักโทษทำบาปเพื่อให้มีทุกข์โทษเพิ่มขึ้น
จะได้วนเวียนอยู่กับการเวียนว่ายตายเกิด ไม่มีวันได้หมดทุกข์
ไม่มีวันได้ออกจากคุกไปตลอดกาล
กิเลสที่ฝังอยู่ในใจมนุษย์
จะคอยบังคับให้มนุษย์อยากในสิ่งที่ผิด ๆ เพราะกิเลสทำให้ใจขุ่นมัวไม่ผ่องใส
เมื่อใจขุ่นก็มองเห็นไม่ตรงตามจริง ได้ยินไม่ตรงตามจริง ได้กลิ่นไม่ตรงตามจริง ได้รสไม่ตรงตามจริง
ได้สัมผัสไม่ตรงตามเป็นจริง เมื่อใจคิดแต่สิ่งที่ไม่ตรงตามเป็นจริง
ก็เลยเกิดความอยากในทางผิด ๆ คืออยากคิดร้าย ๆ คือคิดโลภ คิดโกรธ คิดหลง
ส่งผลให้อยากพูดร้าย ๆ อยากทำร้าย ๆ ตามมา นี้คือการบังคับของกิเลส
ซึ่งนักโทษไม่รู้ความจริงมาก่อน ดังนั้น
เพียงแค่นักโทษรู้หลักอย่างนี้เข้าเท่านั้น รู้ว่าความจริงแล้วตัวเองถูกกิเลสควบคุมอยู่
คุกนี้ก็จะสะเทือนขึ้นมาอีกระดับทันที ยิ่งไปเห็นกิเลสได้อีก
คุกนี้ก็แทบจะระเบิดออกแล้ว
เมื่อวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงเรื่องนี้
แผ่นดินสะเทือนไหวอย่างหนัก เพราะมีผู้แหกคุก
คือวัฏสงสารนี้ออกไปได้แล้วอีกหนึ่งท่าน คุกก็จึงสะเทือนหนักหนา
มาร ผู้เป็นเจ้าของคุก
กลัวเหลือเกินว่าจะมีใครแหกคุกออกไปได้อีก จึงไม่อยากให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงนำเรื่องอริยสัจนี้มาเทศน์สอนชาวโลก พอมารรู้ว่าพระองค์ตรัสรู้ความจริงนี้แล้ว ก็รีบปรากฏตัวทันที
เพื่อมาทูลเชิญพระองค์ให้เสด็จเข้านิพพาน เพราะว่าสิ่งที่มารหวาดกลัวนั้น
คือกลัวความจริงจะถูกเปิดเผย
กลัวต้นกำเนิดความชั่วที่มารปิดบังไว้จะถูกเปิดโปง
ดังนั้น การที่ชาวพุทธได้รู้ความจริงว่า
กิเลสคือต้นเหตุของทุกข์ทั้งหลาย จึงเป็นความจริงอันประเสริฐอย่างยิ่ง
เป็นความจริงที่สั่นคลอนคุกคือวัฏสงสารได้เลยทีเดียว
๓) ทุกขนิโรธอริยสัจ คือรู้ตามความเป็นจริงว่า กิเลสนั้นเป็นสิ่งที่กำจัดได้
หากกำจัดได้เมื่อใดก็จะออกจากคุกนี้ได้เมื่อนั้นทันที
เมื่อมนุษย์รู้มาถึงจุดนี้ว่า ทุกข์ทั้งหลายสามารถกำจัดได้ด้วยการกำจัดกิเลสออกไป
คุกก็ยิ่งสั่นสะเทือนหนักกว่าเดิม รู้เพียงคนเดียวก็สั่นสะเทือนแบบคนเดียว
ถ้ารู้กันจำนวนมากเป็นหมู่เป็นคณะ คุกก็ยิ่งสั่นสะเทือนอย่างหนัก
ถ้าความรู้นี้รู้ให้เต็มโลก มันจะสั่นสะเทือนขนาดไหน เพราะฉะนั้น
ความรู้อย่างนี้ต้องแผ่ขยายออกไปให้รู้กันมากที่สุด เร็วที่สุด
ความจริงอันประเสริฐประการที่ ๓ นี้ เรียกว่า “นิโรธ” มารกลัวมากว่ามนุษย์จะรู้ จึงใช้น้ำบ้าง
ไฟบ้าง แผ่นดินบ้าง ลมบ้าง
มาขู่มนุษย์ให้กลัว จะได้เลิกล้มการไปค้นหาความจริง ฉะนั้นการที่น้ำท่วม แผ่นดินไหว ไฟไหม้ พายุกระหน่ำ
มันคืออาการที่เจ้าของคุกกลัวคนจะรู้ความจริง จึงรีบหาทางมาขัดขวางหนทาง
เบนความสนใจไปจากการค้นหาความจริงเหล่านี้
หาทางให้ไปติดเรื่องอื่น ดังนั้นอย่ากลัวจนเกินเหตุ
อย่าไขว้เขว ยิ่งเจออุปสรรค ยิ่งต้องสู้ต่อไป
๔) ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ คือรู้ตามความเป็นจริงว่า
วิธีเดียวเท่านั้นที่จะถอนกิเลสได้คือปฏิบัติตนตามอริยมรรคมีองค์ ๘
วิธีถอนกิเลสที่ควบคุมสัตว์โลก
กำจัดทุกข์ให้สิ้นไป มีวิธีเดียว คือต้องปฏิบัติอริยมรรคมีองค์ ๘ ซึ่งประกอบด้วย
สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ
สัมมาสติ และสัมมาสมาธิ
พระพุทธองค์ทรงปฏิบัติอริยมรรคมีองค์ ๘
ถอนกิเลสไปเรียบร้อยแล้ว แล้วก็สอนพระอรหันต์ให้ปฏิบัติตาม สอนชาวโลกให้ปฏิบัติตาม
อันที่จริงแล้ว ชาวพุทธได้ยินเรื่องกิเลสมาเยอะ
ได้ยินเรื่องอริยสัจ ๔ มาเยอะ เรื่องต่าง ๆ ที่หลวงพ่อนำมาพูดนี้ไม่ใช่ไม่เคยได้ยิน
เคยได้ยินแล้ว แต่มโนภาพที่เกิดในใจยังไม่ชัดเจนมากนัก
หรือบางอย่างชัดเจนแต่ไม่ปะติดปะต่อเป็นภาพใหญ่
ข้อมูลที่ได้รับจึงอยู่ในลักษณะความทรงจำ
ยังเอามาใช้งานไม่ได้ ยังเป็นเพียงความฉลาดหรือปัญญาในระดับความจำ
ฤทธิ์ของความรู้ยังไม่เต็มที่
เราจะต้องนำความรู้ทั้งหมดนี้ก้าวเข้าสู่อริยมรรคมีองค์
๘ ในภาคปฏิบัติ เพื่อพัฒนาเข้าสู่ความฉลาดในระดับญาณทัสสนะหรือการเห็นด้วยธรรมกาย เมื่อฝึกไปความสว่างก็เกิดขึ้นภายในใจ
สว่างจนกระทั่งเห็นพระธรรมกาย อาศัยพระธรรมกายไปเห็นกิเลสที่ซ่อนอยู่ในใจ เห็นได้เมื่อไร
กิเลสจะถูกทำลายทันที เหมือนเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นพ้นขอบฟ้า ก็ขับไล่ความมืดที่หุ้มห่อโลกได้ทันที
เรื่องอริยมรรคมีองค์ ๘ ในภาคปฏิบัตินี้
นักสร้างบารมีต้องมีภาพรวมเหล่านี้ชัดเจนอยู่ในใจ แล้วไม่ว่าประสบเหตุเภทภัยใด ๆ
นอกจากตัวเองไม่หวั่นไหวแล้ว กลับมีกำลังใจที่จะเดินหน้าต่อไป
มีกำลังใจที่จะบำเพ็ญตนเป็นกัลยาณมิตรชักชวนชาวโลกให้มาประพฤติปฏิบัติธรรมต่อไป
เพื่อให้มาร่วมกันศึกษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาศึกษาความจริง อันประเสริฐทั้ง ๔ ประการ ที่เรียกว่า “อริยสัจ ๔” นี้ให้จงได้
ความจริงเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ยากเกินไปในการทำความเข้าใจ
เพียงแต่ที่ผ่านมาเรายังไม่ได้หยุดพิจารณาอย่างจริงจัง
เรายังไม่ได้นั่งสมาธิอย่างต่อเนื่อง หรือยังไม่ได้ทำการบ้าน ๑๐ ข้อมาอย่างต่อเนื่อง
ทำให้มันยากและรู้สึกห่างไกลจากตัวเราเหลือเกิน แต่เมื่อเราตั้งใจทำการบ้าน ๑๐ ข้อมาตามลำดับ
เราจะพบว่า อริยสัจทั้ง ๔ ข้อ ไม่ได้ยากอย่างที่เราเคยกลัวมาก่อน
ขอให้รักษาแล้วพัฒนาความเข้าใจหรือปัญญาของเราจากระดับความจำสู่ระดับการขบคิด จนกระทั่งกลายเป็นทิฎฐิ มีกำลังใจปฏิบัติมรรคมีองค์ ๘ สามารถทำใจหยุดทำใจนิ่งเข้าถึงพระธรรมกาย เข้าไปสู่ระดับญาณทัสสนะ
คือการรู้ การเห็น ด้วยญาณของธรรมกาย ปราบกิเลส ให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ
สามารถทลายคุกคือโลกนี้ได้เป็นอัศจรรย์โดยพลัน นับแต่วันนี้เป็นต้นไปเทอญ..
Cr. หลวงพ่อทัตตชีโว
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๔๕
เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗
พ่อแม่ควรเริ่มต้นฝึกลูกอย่างไรดี? |
เหตุใดพระพุทธศาสนาจึงมุ่งเน้นที่การสอนให้แสวงหาปัญญาฯ |
คลิกอ่านหลวงพ่อตอบปัญหาของวารสารอยู่ในบุญปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
จะดำเนินการอย่างไร การพัฒนาวัดจึงจะสำเร็จตามเป้าหมาย?
ทำอย่างไรจึงจะฝึกตนให้เป็นคนมีเหตุผล สร้างงาน สร้างเงิน สร้างคนเป็น?
เมื่อจะศึกษาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ควรมีสิ่งใดเป็นข้อเตือนใจให้ระลึกถึงความสำคัญของธรรมะอย่างแท้จริง?
การเกิดขึ้นของนิสัยดี นิสัยชั่วมีที่มาอย่างไร ?
ทำอย่างไรทุกคนจึงจะมีความสุขในการทำงานร่วมกัน?
เตรียมงานสงกรานต์
ทำอย่างไรจึงจะฝึกตนให้เป็นคนมีเหตุผล สร้างงาน สร้างเงิน สร้างคนเป็น?
เมื่อจะศึกษาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ควรมีสิ่งใดเป็นข้อเตือนใจให้ระลึกถึงความสำคัญของธรรมะอย่างแท้จริง?
การเกิดขึ้นของนิสัยดี นิสัยชั่วมีที่มาอย่างไร ?
ทำอย่างไรทุกคนจึงจะมีความสุขในการทำงานร่วมกัน?
เตรียมงานสงกรานต์
เพราะเหตุใดคำสอนเรื่องอริยสัจ ๔ จึงสำคัญต่อชาวโลกมาก?
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
23:14
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: