เราถูกบังคับให้รวย
เราถูกบังคับให้รวย
แม่ค้าข้างถนนกับการทําบุญเป็นล้านๆ ดูเชื่อมโยงกันได้ยาก แต่ก็เป็นไปแล้ว เธอทําบุญจนหมด? “ยิ่งหมด..ยิ่งมี” !! มีมากกว่าเดิม อีกหลายล้าน..!!
คงธรรมดาเกินไป หากอานุภาพบุญเรื่องนี้บอกผู้อ่านได้เพียงว่า ยิ่งทําบุญยิ่งรวย ทั้งที่ตัวอักษรที่ทยอยเรียงรายกันเข้ามา ขณะคุณวางใจไว้ศูนย์กลางกายนี้อาจทําให้ความคิดบางอย่างของคุณเกิดความเป็นไปได้ ...ถ้าคุณใช้เทคนิคเดียวกับเธอผู้นี้ที่มีผลมาจากพลานุภาพของใจที่มุ่งมั่นต่อเนื่องอย่างถูกหลักวิชชา ซึ่งทําง่ายๆ แต่กลับให้ผลอันยิ่งใหญ่เกินควรเกินคาด
จากเรื่อง เจ้าหญิงถั่วงอกกับเจ้าชายปลาทู (คุณนฤมล และคุณประเสริฐ ศรีสมนึก) เป็นเรื่องจริงที่เล่าขานตลอดมาถึงเรื่องของเธอ (คุณนฤมล ศรีสมนึก) ซึ่งเป็นลูกกําพร้า เป็นเพียงแม่ค้าข้างถนน ขายของแบกะดินที่ต้องคอยหนีตํารวจเทศกิจอยู่เสมอ ลําบากตรากตรํากับการทํางานหนักตั้งแต่ตี ๒ ทุกวัน จนกระทั่งสามีแนะนําให้เธอมารู้จักวัดพระธรรมกายแล้วเกิดศรัทธาในบุญ จึงได้ตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดคือยอมเอาเงินที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต จํานวน ๑ ล้านบาท มาทําบุญ ซึ่งขณะนั้นครอบครัวเธอเอง ยังต้องเช่าบ้านเขาอยู่ เป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคน.. ไม่เห็นด้วย หลายคน..คิดว่าเธอคงหมดตัว ไม่มีเงินทําบุญในครั้งต่อไปอีกเป็นแน่ เพราะเธอทุ่มจนหมดใจในครั้งนี้แล้ว
แต่ต่อมาไม่นานเลย...เธอกลับมีเงินทําบุญเป็นล้านที่ ๒ ซึ่งก็ได้มาจากการประสบอานุภาพบุญอย่างเหลือเชื่อ เธอก็ตัดสินใจปิดบัญชีแบงก์เปิดบัญชีบุญด้วยการทําบุญอีก จนกระทั่งมียอดเงินเหลือในบัญชีเพียง ๒๗ สตางค์ ครั้งนี้ทําให้หลายคนอนุโมทนาในมหาศรัทธาที่เธอกล้าทําอย่างหาใครทําได้ยาก แต่บางคน..ก็อดคิดไม่ได้ว่า คราวนี้..!!เงินเธอหมดจริงๆ และคงทําบุญในครั้งหน้าได้เพียงนิดหน่อย หรือเพียงตามกําลังที่พอจะมีทรัพย์เท่านั้น..!!
ไม่ผิดเลย!!...ไม่ใช่เพราะเธอไม่มีเงิน แต่ไม่ผิดเลย.. ที่เรื่องอัศจรรย์มักเกิดขึ้นซ้ำๆ กับคนที่มีใจอัศจรรย์เสมอ เพราะพลานุภาพที่ตัดใจจากความตระหนี่จนหมดสิ้น พร้อมกับมีมหาปีติอย่างท่วมท้น ทั้งก่อนทํา ขณะทํา และหลังทําเช่นนี้ เกิดเป็นดวงบุญอันศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ ที่มีกระแสดึงดูดทรัพย์หยาบและละเอียดอันไม่มีประมาณมา.. แล้วเธอก็มีเงินทําบุญได้อีก ๓ ล้าน อย่างอัศจรรย์ !!!
“..ก็คือตั้งแต่เราปิดบัญชีจนเหลือ ๒๗ สตางค์ เราก็มีเงินทําบุญเพิ่มได้อีกประมาณ ๓ ล้าน ทํามาตลอดไม่ขาดเลยสักงาน อย่างตอนเราทุ่มหมดใจ ทําบุญไทยธรรม ๓๐,๐๐๐ วัดไป ๑ ล้าน ก็คุยกับพี่ประเสริฐว่า งานหน้าเราจะวางมือดีกว่า เพราะเรายังไม่เห็นเงินว่าจะเอามาอีกเป็นล้านจากที่ไหน แต่ปากก็บอกว่าวางๆ แต่ใจยังไม่ยอมวางค่ะ คือใจมันอยากเอาบุญสร้างมหาวิหารกับคุณยาย ๑ กอง ไม่อยากพลาดโอกาสที่มีครั้งเดียวในชีวิต ก็คิดตัดสินใจกันใหม่ว่าจะสู้ต่อ..คือ ยอมลําบาก ยอมเหนื่อยอีกหน่อย เพราะเข็ดเหลือเกิน เข็ดจริงๆ กลัวมาก ในช่วงที่เราจน เราลําบากมาก ชาติหน้าเราไม่อยากลําบากแบบนี้อีกแล้ว ชาตินี้ก็ขอทําให้สุดๆ ชาติหน้าจะได้สบาย
ก็เลยตัดสินใจมาวางเดือน (ตั้งกองทําบุญ) ช่วงนั้นของขายดีมาก ๓ วันได้เกือบ ๕ หมื่น ตั้งแต่ตัดสินใจสู้แล้ว ใจมุ่งมั่นตลอด ใจไม่คิดเรื่องอะไรเลย นอกจากปิดกอง ๆ ๆ ตื่นเช้าขึ้นมา ก็ปิดกอง ขายถั่วงอก ขายของก็ปิดกอง ไม่ว่าจะทําอะไร หลับตื่น นั่งนอน ยืนเดิน ใจมันปิดกองตลอด ใจมุ่งมั่นมีพลัง นึกถึงแต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ นึกถึงคุณยายตลอดเวลา นึกแล้วก็มีความสุขที่เราจะได้ทําบุญใหญ่ ..อื้อฮื้อ..!! แล้วแบบว่ามันอัศจรรย์อย่างบอกไม่ถูก เหมือนโกลาหลเลยค่ะ ของชําของโชห่วยที่ไม่ค่อยมีใครใช้ไม่ค่อยมีคนซื้อ ก็มีคนมาซื้อกันใหญ่ ฝุ่นจับอย่างเยอะ เราก็ต้องปีนขึ้นไปเอาแบบว่าโละสต๊อกเลย แล้วได้ราคาด้วย ตอนนั้นเราขอเทวดาทุกท่านที่อยู่ในบ้านเราเลยว่า ให้ช่วยกันตามทรัพย์จะเอาไปทําบุญ แล้วให้เขาได้บุญด้วย ขายดิบขายดีแบบโกลาหลเลย ขายจนข้าวเช้าไม่ได้กินเลย แล้วตอนนั้นเงินมันมาทุกทิศทุกทาง.. ที่ดินแปลงหนึ่งที่เราเคยบอกขายไว้ อยู่ดีๆ ก็ขายได้ ได้เงินสด ๑ แสนบาท พูดง่ายมาก และป้าคนหนึ่งเอาเงินมาให้เราก่อนกําหนดทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงเวลา พอดีป้าเขาได้เงินพิเศษมาอีก ๑ แสนบาท ตอนนั้นเราก็รวมเงินจากการขายของ และเงินที่ไหลเข้ามาทุกทิศทุกทาง แต่ก็ยังเหลืออีกประมาณ แสนเศษๆ
ตอนนั้นเวลากระชั้นเข้ามาแล้วคือ เราพยายามเต็มที่แล้ว เหลือแค่ ๒ วันเองจะต้องปิดกองให้ได้ เราอธิษฐานกับคุณยายอย่างต่อเนื่องไม่ขาดเลย แล้วก็โทรไปหาเพื่อนๆ บอกบุญเพื่อนเลย พอโทรปุ๋บ พูดนิดหน่อย คนนั้นก็ ๒ หมื่น คนนี้ก็ ๒ หมื่นห้าจนกระทั่งครบ รู้สึกวันนั้นมีความสุขมากเหลือเกิน มาถึงทุกวันนี้เราภูมิใจนะคะ ภูมิใจมาก ยังมานั่งคุยกับพี่ประเสริฐเลยว่า...ลองคิดดูว่า ถ้าเราไม่ได้มาวัดพระธรรมกาย ไม่รู้จักพระเดชพระคุณหลวงพ่อ คุณยาย เราจะมีโอกาสได้ทําตรงนี้ไหม..? แม่ค้าข้างถนนขายของชําเล็กๆ น้อยๆ กว่าจะได้เงิน แต่ที่เราทําบุญเป็นล้านได้ ทําได้อย่างมหาเศรษฐีเขาทํากัน เพราะเราเอาบุญต่อบุญ เราถึงเชื่อมั่นมากที่สุดว่า ยิ่งทําบุญยิ่งมี ไม่มีหมดเลย พูดแล้วเหมือนหลวงพ่อบังคับให้เรารวยค่ะ (หัวเราะ)”
เรื่อง : สำนักสื่อธรรมะ
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑ ประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๕
คงธรรมดาเกินไป หากอานุภาพบุญเรื่องนี้บอกผู้อ่านได้เพียงว่า ยิ่งทําบุญยิ่งรวย ทั้งที่ตัวอักษรที่ทยอยเรียงรายกันเข้ามา ขณะคุณวางใจไว้ศูนย์กลางกายนี้อาจทําให้ความคิดบางอย่างของคุณเกิดความเป็นไปได้ ...ถ้าคุณใช้เทคนิคเดียวกับเธอผู้นี้ที่มีผลมาจากพลานุภาพของใจที่มุ่งมั่นต่อเนื่องอย่างถูกหลักวิชชา ซึ่งทําง่ายๆ แต่กลับให้ผลอันยิ่งใหญ่เกินควรเกินคาด
จากเรื่อง เจ้าหญิงถั่วงอกกับเจ้าชายปลาทู (คุณนฤมล และคุณประเสริฐ ศรีสมนึก) เป็นเรื่องจริงที่เล่าขานตลอดมาถึงเรื่องของเธอ (คุณนฤมล ศรีสมนึก) ซึ่งเป็นลูกกําพร้า เป็นเพียงแม่ค้าข้างถนน ขายของแบกะดินที่ต้องคอยหนีตํารวจเทศกิจอยู่เสมอ ลําบากตรากตรํากับการทํางานหนักตั้งแต่ตี ๒ ทุกวัน จนกระทั่งสามีแนะนําให้เธอมารู้จักวัดพระธรรมกายแล้วเกิดศรัทธาในบุญ จึงได้ตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดคือยอมเอาเงินที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต จํานวน ๑ ล้านบาท มาทําบุญ ซึ่งขณะนั้นครอบครัวเธอเอง ยังต้องเช่าบ้านเขาอยู่ เป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคน.. ไม่เห็นด้วย หลายคน..คิดว่าเธอคงหมดตัว ไม่มีเงินทําบุญในครั้งต่อไปอีกเป็นแน่ เพราะเธอทุ่มจนหมดใจในครั้งนี้แล้ว
แต่ต่อมาไม่นานเลย...เธอกลับมีเงินทําบุญเป็นล้านที่ ๒ ซึ่งก็ได้มาจากการประสบอานุภาพบุญอย่างเหลือเชื่อ เธอก็ตัดสินใจปิดบัญชีแบงก์เปิดบัญชีบุญด้วยการทําบุญอีก จนกระทั่งมียอดเงินเหลือในบัญชีเพียง ๒๗ สตางค์ ครั้งนี้ทําให้หลายคนอนุโมทนาในมหาศรัทธาที่เธอกล้าทําอย่างหาใครทําได้ยาก แต่บางคน..ก็อดคิดไม่ได้ว่า คราวนี้..!!เงินเธอหมดจริงๆ และคงทําบุญในครั้งหน้าได้เพียงนิดหน่อย หรือเพียงตามกําลังที่พอจะมีทรัพย์เท่านั้น..!!
ไม่ผิดเลย!!...ไม่ใช่เพราะเธอไม่มีเงิน แต่ไม่ผิดเลย.. ที่เรื่องอัศจรรย์มักเกิดขึ้นซ้ำๆ กับคนที่มีใจอัศจรรย์เสมอ เพราะพลานุภาพที่ตัดใจจากความตระหนี่จนหมดสิ้น พร้อมกับมีมหาปีติอย่างท่วมท้น ทั้งก่อนทํา ขณะทํา และหลังทําเช่นนี้ เกิดเป็นดวงบุญอันศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ ที่มีกระแสดึงดูดทรัพย์หยาบและละเอียดอันไม่มีประมาณมา.. แล้วเธอก็มีเงินทําบุญได้อีก ๓ ล้าน อย่างอัศจรรย์ !!!
“..ก็คือตั้งแต่เราปิดบัญชีจนเหลือ ๒๗ สตางค์ เราก็มีเงินทําบุญเพิ่มได้อีกประมาณ ๓ ล้าน ทํามาตลอดไม่ขาดเลยสักงาน อย่างตอนเราทุ่มหมดใจ ทําบุญไทยธรรม ๓๐,๐๐๐ วัดไป ๑ ล้าน ก็คุยกับพี่ประเสริฐว่า งานหน้าเราจะวางมือดีกว่า เพราะเรายังไม่เห็นเงินว่าจะเอามาอีกเป็นล้านจากที่ไหน แต่ปากก็บอกว่าวางๆ แต่ใจยังไม่ยอมวางค่ะ คือใจมันอยากเอาบุญสร้างมหาวิหารกับคุณยาย ๑ กอง ไม่อยากพลาดโอกาสที่มีครั้งเดียวในชีวิต ก็คิดตัดสินใจกันใหม่ว่าจะสู้ต่อ..คือ ยอมลําบาก ยอมเหนื่อยอีกหน่อย เพราะเข็ดเหลือเกิน เข็ดจริงๆ กลัวมาก ในช่วงที่เราจน เราลําบากมาก ชาติหน้าเราไม่อยากลําบากแบบนี้อีกแล้ว ชาตินี้ก็ขอทําให้สุดๆ ชาติหน้าจะได้สบาย
ก็เลยตัดสินใจมาวางเดือน (ตั้งกองทําบุญ) ช่วงนั้นของขายดีมาก ๓ วันได้เกือบ ๕ หมื่น ตั้งแต่ตัดสินใจสู้แล้ว ใจมุ่งมั่นตลอด ใจไม่คิดเรื่องอะไรเลย นอกจากปิดกอง ๆ ๆ ตื่นเช้าขึ้นมา ก็ปิดกอง ขายถั่วงอก ขายของก็ปิดกอง ไม่ว่าจะทําอะไร หลับตื่น นั่งนอน ยืนเดิน ใจมันปิดกองตลอด ใจมุ่งมั่นมีพลัง นึกถึงแต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ นึกถึงคุณยายตลอดเวลา นึกแล้วก็มีความสุขที่เราจะได้ทําบุญใหญ่ ..อื้อฮื้อ..!! แล้วแบบว่ามันอัศจรรย์อย่างบอกไม่ถูก เหมือนโกลาหลเลยค่ะ ของชําของโชห่วยที่ไม่ค่อยมีใครใช้ไม่ค่อยมีคนซื้อ ก็มีคนมาซื้อกันใหญ่ ฝุ่นจับอย่างเยอะ เราก็ต้องปีนขึ้นไปเอาแบบว่าโละสต๊อกเลย แล้วได้ราคาด้วย ตอนนั้นเราขอเทวดาทุกท่านที่อยู่ในบ้านเราเลยว่า ให้ช่วยกันตามทรัพย์จะเอาไปทําบุญ แล้วให้เขาได้บุญด้วย ขายดิบขายดีแบบโกลาหลเลย ขายจนข้าวเช้าไม่ได้กินเลย แล้วตอนนั้นเงินมันมาทุกทิศทุกทาง.. ที่ดินแปลงหนึ่งที่เราเคยบอกขายไว้ อยู่ดีๆ ก็ขายได้ ได้เงินสด ๑ แสนบาท พูดง่ายมาก และป้าคนหนึ่งเอาเงินมาให้เราก่อนกําหนดทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงเวลา พอดีป้าเขาได้เงินพิเศษมาอีก ๑ แสนบาท ตอนนั้นเราก็รวมเงินจากการขายของ และเงินที่ไหลเข้ามาทุกทิศทุกทาง แต่ก็ยังเหลืออีกประมาณ แสนเศษๆ
ตอนนั้นเวลากระชั้นเข้ามาแล้วคือ เราพยายามเต็มที่แล้ว เหลือแค่ ๒ วันเองจะต้องปิดกองให้ได้ เราอธิษฐานกับคุณยายอย่างต่อเนื่องไม่ขาดเลย แล้วก็โทรไปหาเพื่อนๆ บอกบุญเพื่อนเลย พอโทรปุ๋บ พูดนิดหน่อย คนนั้นก็ ๒ หมื่น คนนี้ก็ ๒ หมื่นห้าจนกระทั่งครบ รู้สึกวันนั้นมีความสุขมากเหลือเกิน มาถึงทุกวันนี้เราภูมิใจนะคะ ภูมิใจมาก ยังมานั่งคุยกับพี่ประเสริฐเลยว่า...ลองคิดดูว่า ถ้าเราไม่ได้มาวัดพระธรรมกาย ไม่รู้จักพระเดชพระคุณหลวงพ่อ คุณยาย เราจะมีโอกาสได้ทําตรงนี้ไหม..? แม่ค้าข้างถนนขายของชําเล็กๆ น้อยๆ กว่าจะได้เงิน แต่ที่เราทําบุญเป็นล้านได้ ทําได้อย่างมหาเศรษฐีเขาทํากัน เพราะเราเอาบุญต่อบุญ เราถึงเชื่อมั่นมากที่สุดว่า ยิ่งทําบุญยิ่งมี ไม่มีหมดเลย พูดแล้วเหมือนหลวงพ่อบังคับให้เรารวยค่ะ (หัวเราะ)”
เรื่อง : สำนักสื่อธรรมะ
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑ ประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๕
***สามารถนำไปเผยแพร่ได้ แต่ขอให้ใส่ Cr. ผู้เขียนด้วย***
คลิกบทความได้ที่นี่ https://dhamma-media.blogspot.com/2019/06/blog-post_46.html
คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑ ประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้ที่นี่
คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญ ในรูปแบบของ PDF
คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญ ในรูปแบบของ E-book
คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑ ประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้ที่นี่
- ผู้ให้...ย่อมได้รับ
- ศูนย์รวมใจสร้างบารมีไปเป็นทีม
- ใจมีแต่บุญ
- เราถูกบังคับให้รวย
- รอดตายเพราะบุญช่วย
- ตายแล้วฟื้น
- วันพระ วันสว่างของชาวโลก
- วิสัยหเศรษฐี
คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือนของปี พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้ที่นี่
คลิกอ่านหรือดาวน์โหลดวารสารอยู่ในบุญประจำเดือนของแต่ละปี (ฉบับ PDF) ได้ที่นี่
เราถูกบังคับให้รวย
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
20:17
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: