ครั้งแรกของโลก กับการอัญเชิญรูปหล่อพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เวียนประทักษิณรอบพระมหาธรรมกายเจดีย์ ณ มหารัตนวิหารคด ชั้น ๒



ครั้งแรกของโลก
กับการอัญเชิญรูปหล่อพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
เวียนประทักษิณรอบพระมหาธรรมกายเจดีย์ ณ มหารัตนวิหารคด ชั้น ๒

นับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา ที่ในวันครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายปีนี้ นอกจากจะมีพิธีไหว้ครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ทอดผ้าป่า และสวดธรรมจักรแล้ว ยังมีพิธีที่พิเศษไม่เหมือนทุกปี คือ คณะศิษยานุศิษย์ทุกคนจะได้มาร่วมอัญเชิญรูปหล่อพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เวียนประทักษิณรอบพระมหาธรรมกายเจดีย์ ณ มหารัตนวิหารคด ชั้น ๒ เพื่อนำท่านมาประดิษฐาน ณ มหารัตนวิหารคด ชั้น ๑ หน้าพระมหาธรรมกายเจดีย์ ให้สาธุชนน้อมสักการะกราบไหว้ ปิดแผ่นทองบูชาท่าน เพื่อเป็นสิริมงคลและนำความรุ่งเรืองมาสู่ชีวิตสืบไป

ฉะนั้น ในวันศุกร์ที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งตรงกับวันครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายในปีนี้ จึงขอเรียนเชิญคณะศิษยานุศิษย์ทั่วโลกมาร่วมพิธีดังกล่าวสืบไป

จะดีสักเพียงใด ที่ทุกครั้งเมื่อเรามากราบหลวงปู่ที่หน้าพระมหาธรรมกายเจดีย์ จะมีเสียงก้องกังวานจากหัวใจเราเสมอว่า...

“เราคือผู้อัญเชิญรูปหล่อหลวงปู่ ณ มหารัตนวิหารคด ชั้น ๒ ครั้งแรกของโลก”

“เราคือผู้อัญเชิญพระผู้ปราบมารมาให้ชาวโลกได้สักการบูชา ณ พระมหาธรรมกายเจดีย์” 

คิดดูสิ บุญนี้จะเกิดกับเรามากสักเพียงใด…

เรื่อง : กองบรรณาธิการ
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๒๐๑ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒







แบบร่างริ้วขบวนอัญเชิญรูปหล่อพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) 
ในวันครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย 
วันศุกร์ที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒


***สามารถนำไปเผยแพร่ได้ แต่ขอให้ใส่ Cr. ผู้เขียนด้วย***

คลิกอ่านบทความได้ที่นี่ https://dhamma-media.blogspot.com/2019/08/cover0962.html

คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๒๐๑ ประจำเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้ที่นี่
คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือนของปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้ที่นี่
คลิกอ่านหรือดาวน์โหลดวารสารอยู่ในบุญประจำเดือนของแต่ละปี (ฉบับ PDF) ได้ที่นี่
ครั้งแรกของโลก กับการอัญเชิญรูปหล่อพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เวียนประทักษิณรอบพระมหาธรรมกายเจดีย์ ณ มหารัตนวิหารคด ชั้น ๒ ครั้งแรกของโลก กับการอัญเชิญรูปหล่อพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เวียนประทักษิณรอบพระมหาธรรมกายเจดีย์ ณ มหารัตนวิหารคด ชั้น ๒ Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 20:15 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.