๓ วิธี หนีทุกข์

กรณีที่ ๑ บางคนเจอปัญหา แต่ปล่อยให้จิตจมปลักกับปัญหา และด้วยวิบากกรรมเก่า ก็เลยทำให้เครียดจนเป็นบ้า เพราะจิตหาวิธีหนีทุกข์ แต่กลับเกิดภาวะหลุดไปสู่โลกใบใหม่ ที่สมมุติขึ้นเอง คือ จะทำอะไรก็ทำอย่างไร้สติ เช่น หัวเราะ ร้องไห้ ตวาด ตะโกน วิธีนี้ คือ พยายามหนีทุกข์ แต่ไม่พ้นทุกข์

กรณีที่ ๒ บางคนเจอปัญหา จึงหนีทุกข์โดยพึ่งยาเสพติด เช่น เหล้า กัญชา ซึ่งเมื่อเสพแล้ว ก็มึน ๆ เมา ๆ ไร้สติ ลืมความจริงตรงหน้า หรือเสพแล้วมีภาพหลอน จินตนาการล่องลอย หัวเราะร่า จนเกิดหายนะตามมาอย่างมากมาย คือ เสียทรัพย์ สุขภาพเสื่อมโทรม ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ อาชญากรรม และกลายเป็นวิบากกรรมติดตัว ส่งผลให้ชาติหน้าเกิดมามีชีวิตตกต่ำ เป็นใบ้ บ้า ปัญญาอ่อน ฯลฯ วิธีนี้ คือ พยายามหนีทุกข์ แต่กลับเพิ่มทุกข์หนักกว่าเดิม

กรณีที่ ๓ บางคนเจอปัญหา จึงหนีทุกข์ โดยการทำจิตให้สงบทุกวัน ด้วยการนั่งสมาธิ คือ คนพวกนี้ แม้จะเจอปัญหา แต่จิตใจก็ยังมีสุขได้ อีกทั้งยังเกิดปัญญาในการแก้ไขปัญหาอีกด้วย วิธีนี้ คือ พยายามหนีทุกข์ แต่มีโอกาสพบกับความพบสุขที่แท้จริง

แล้วคุณล่ะ... จะเลือกวิธีหนีทุกข์แบบไหน ?

เรื่อง : ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์ สำนักสื่อธรรมะ
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๒๐๑ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒

***สามารถนำไปเผยแพร่ได้ แต่ขอให้ใส่ Cr. ผู้เขียนด้วย***

คลิกอ่านบทความได้ที่นี่ https://dhamma-media.blogspot.com/2019/08/inspire0962.html

คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๒๐๑ ประจำเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้ที่นี่