หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๗)


เดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้ ผู้เขียนได้รับเชิญจากเจ้าภาพ คือ ประธานพุทธสมาคมจีนให้เข้าร่วมประชุม World  Buddhist  Forum  ครั้งที่ ๔  ที่เมือง Wu Xi  ซึ่งมีผู้แทนองค์กรชาวพุทธถึง ๕๒ ประเทศเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่พุทธบริษัทจะมารวมเป็นหนึ่งเดียว ในช่วงนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ผู้เขียนจะเดินทางไปเมืองซีอานอีกครั้งหนึ่ง ตามที่นัดหมายกับท่านศาสตราจารย์ยูว ยีว์ ผู้มีน้ำใจเป็นกุศล ที่ช่วยนัดให้พบกับท่านเจ้าอาวาส คือพระธรรมาจารย์เจิ้งฉินฝ่าซือ ประธานพุทธสมาคมแห่งมณฑลส่านซี ซึ่งท่านมีเมตตากล่าวชวนให้ไปใหม่อีกครั้ง จะได้เตรียมพระคัมภีร์โบราณที่ทางวัดเก็บรักษาไว้มาให้ชม เพราะช่วงนี้ทางวัดมีงานบุญประจำปี อีกทั้งท่านต้องไปร่วมประชุมกับประธานพุทธสมาคมแต่ละมณฑลทั่วประเทศ อย่างไรก็ดีท่านเจ้าอาวาสเมตตาอนุญาตให้ไปที่ห้องพิเศษ เพื่อสักการะพระธาตุจอมกระหม่อมของพระถังซำจั๋งและคัมภีร์ต้นฉบับจริงที่ท่านนำมาจากอินเดีย จึงนับว่าเป็นบุญวาสนาของพวกเรา และเราเชื่อว่าจะต้องได้ไปเยี่ยมที่นี่อีกอย่างแน่นอน เพื่อทำงานภาคสนาม

ฉบับนี้ ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงเรื่องเส้นทางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสืบไป

พระพุทธศาสนาเริ่มเผยแผ่เข้าไปในดินแดนแถบเอเชียกลางในราวพุทธศตวรรษที่ ๖ อาณาจักรและเมืองสำคัญในยุคดังกล่าวตั้งอยู่ริมแอ่งทาริม รอบทะเลทรายตากลามากันบนเส้นทางแพรไหม ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าขายมาแต่โบราณ สถานที่เหล่านี้ ได้แก่ เมืองคิซิลกูชา อาณาจักรทูร์ฟาน บนเส้นทางแพรไหมตอนเหนือ และอาณาจักรโขตาน เมืองนิยะ เมืองตุนหวง บนเส้นทางแพรไหมตอนใต้ซึ่งล้วนแต่เป็นแหล่งที่พบพุทธคัมภีร์โบราณ

แหล่งค้นพบพุทธคัมภีร์โบราณ เส้นทางแพรไหมตอนเหนือ เช่น คิซิล กูชา ทูร์ฟาน
เส้นทางแพรไหมตอนใต้ เช่น โขตาน นิยะ ตุนหวง
ที่มา http://irfu.cea.fr/Sap/Phocea/Vie_des_labos/Ast/ast.php?id_ast=2615
อาณาจักรโขตานตั้งอยู่ตอนใต้ของแอ่งทาริม  เชิงเขาคุนหลุน เป็นโอเอซิสที่ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำยูรุงกาชและการากาช จึงได้รับความอุดมสมบูรณ์จากแม่น้ำ ๒ สาย อาณาจักรโขตานเป็นศูนย์กลางสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ตั้งแต่เริ่มรับพระพุทธศาสนาในพุทธศตวรรษที่ ๖ อย่างต่อเนื่อง จนถึงราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖ พระภิกษุจีนฝาเสี่ยน ผู้เคยเดินทางผ่านมา ได้บันทึกไว้ว่า ประเทศนี้เจริญมั่งคั่งและมากไปด้วยประชากร ประชาชนทั้งหมดเป็นผู้ยึดมั่นเปี่ยมศรัทธาในธรรมะ และมักมีวิธีสันทนาการด้วยบทเพลงทางศาสนา พระสงฆ์ที่นี่มีหลายหมื่นรูป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมหายานความนิยมทางฝ่ายมหายานที่นี่เป็นปรากฏการณ์ตรงข้ามกับเส้นทางแพรไหมตอนเหนือที่นิยมพระพุทธศาสนาสาวกยานมากกว่า สถานที่สำคัญที่ค้นพบคัมภีร์โบราณทางตะวันออกเฉียงเหนือของโขตาน คือตันตันอูอิลิก ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการขุดค้นไม่เปิดให้สาธารณชนเข้าไป

พุทธโบราณสถานตันตันอูอิลิก
ทางตะวันออกเฉียงเหนือของโขตาน
ที่มา http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/6/6c/Ancient_Khotan_BLER2_AKV1_FP246_
FIG29.jpg/240px-Ancient_Khotan_BLER2_AKV1_FP246_FIG29.jpg


จิตรกรรมพระพุทธเจ้า พุทธโบราณสถานตันตันอูอิลิก โขตาน
ที่มา http://idp.bl.uk/archives/news32/idpnews_32.a4d


คัมภีร์สุวรรณประภาสสูตร  อักษรพราหมี
ภาษาโขตาน กระดาษ  พุทธศตวรรษที่ ๑๐
ที่มา http://idp.bl.uk/4DCGI/education/symposium/goldenlight/index.a4d

กูชา เป็นอาณาจักรพุทธโบราณตั้งอยู่ริมแม่น้ำมูสาท บนเส้นทางแพรไหมตอนเหนือพระพุทธศาสนาเริ่มเผยแผ่เข้ามาราวพุทธศตวรรษที่ ๖ กูชาได้เป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในพุทธศตวรรษที่ ๘ อาณาจักรกูชาเป็นบ้านเกิดของพระภิกษุกุมารชีวะผู้มีคุณูปการมหาศาลแก่ประเทศจีนในด้านพระพุทธศาสนา พระภิกษุเสวียนจั้ง (พระถังซำจั๋ง) ได้เขียนบรรยายถึงอาณาจักรนี้ไว้ว่า มีอารามกว่าร้อยแห่ง และมีพระสงฆ์กว่าห้าพันรูป ล้วนเป็นหินยานนิกายสรรวาสติวาทซึ่งมีคำสอนและวินัยคล้ายกับทางอินเดีย...มีพระพุทธรูปสูง ๙๐ ฟุต ประดิษฐานอยู่หน้าประตูเมืองด้านตะวันตก
วัดถ้ำพุทธสถานโบราณคิซิล
กูชา  มณฑลซินเจียง จีน พุทธศตวรรษที่ ๙-๑๓
ที่มา http://mongolschinaandthesilkroad.blogspot.com/2012/04/tocharian-and-tocharians.html
วัดถ้ำพุทธสถานโบราณคิซิลเป็นวัดถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลซินเจียง ประกอบด้วยถ้ำเล็กใหญ่ ๒๓๖ ถ้ำ ขุดเจาะเข้าไปในหน้าผายาวกว่า ๒ กิโลเมตร จิตรกรรมภายในถ้ำเป็นเรื่องราวชาดกและอวทานของนิกายสรรวาสติวาท จากเนื้อหาในคัมภีร์ที่พบที่กูชา ทำให้ทราบว่าหนึ่งในจิตรกรรมถ้ำที่คิซิลนั้น กษัตริย์ชาวโตคาเรียนทรงพระนามว่า เมนทเร มีรับสั่งให้วาดขึ้นภายใต้คำแนะนำของพระเถระชื่ออนันทวรมัน โดยฝีมือช่างเขียนชาวอินเดียชื่อนรวาหนทัตตะ กับอีกท่านมาจากซีเรียชื่อปรียรัตนะ และกษัตริย์โขตานทรงพระนามว่าวิชยวรธนะและมูร์ลิมิน ได้ส่งช่างมาเขียนภาพจิตรกรรมไว้ในอีกถ้ำหนึ่งด้วย

จิตรกรรมแสดงอมนุษย์ตามที่ปรากฏในคัมภีร์พุทธศาสนา เช่น เทพ นาค ยักษ์
คนธรรพ์ อสุรา ครุฑ กินนร และ มโหราคะ
วัดถ้ำพุทธสถานโบราณคิซิล กูชา มณฑลซินเจียง จีน
ที่มา http://www.visitourchina.com/kucha/attraction/kizil-grottos-kizil-thousand-buddha-caves.htm
l


ชิ้นส่วนพุทธคัมภีร์โบราณ อักษรพราหมี
ภาษาโตคาเรียน พุทธศตวรรษที่ ๘-๑๓
ที่มา http://mongolschinaandthesilkroad.blogspot.com/2012/04/tocharian-and-tocharians.html
อาณาจักรทูร์ฟาน เป็นพื้นที่โอเอซิสหรือพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ในทะเลทรายตากลามากัน ตั้งอยู่บนเส้นทางแพรไหมตอนเหนือมีพื้นที่ ๑๗๐ ตารางกิโลเมตรโดยประมาณ อยู่ระหว่างเมืองเจียวเหอและเกาชาง เขตเมืองทูร์ฟานใหม่ในมณฑลซินเจียงของจีน พุทธโบราณสถานที่เหลืออยู่ในปัจจุบันคือวัดถ้ำเบเซกลิก สร้างขึ้นระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๕-๑๘ พุทธคัมภีร์โบราณของทูร์ฟานปัจจุบันเป็นสมบัติของเบอร์ลินคอลเลกชัน พบว่าชิ้นส่วนคัมภีร์พุทธศาสนาที่เก่าที่สุดของที่นี่มีอายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๓-๑๕ เป็นคัมภีร์ที่สร้างด้วยความประณีตบรรจง โดยใช้หมึกสีแดงเขียนเฉพาะคำว่า พุทธะและ โพธิสัตวะหรือใช้กับคำแรกของคาถาเป็นต้น อักษรที่ใช้จารึกส่วนใหญ่เป็นอักษรอุยกูร์ที่พัฒนามาจากอักษรซอกเดียน มีเพียงส่วนน้อยที่ใช้ อักษรทิเบตและพราหมี เนื้อหาในคัมภีร์แปลมาจากภาษาจีน ทิเบต สันสกฤต โตคาเรียนหรือซอกเดียน แต่ก็พบคัมภีร์ท้องถิ่นประเภทร้อยกรองและวรรณกรรมของคฤหัสถ์เช่นกัน นอกจากนี้ยังพบคัมภีร์ที่พิมพ์จากแม่พิมพ์ไม้อีกด้วย

จิตรกรรมพระพุทธเจ้าพันพระองค์
พุทธโบราณสถานถ้ำเบเซกลิก ทูร์ฟาน มณฑลซินเจียง จีน
ที่มา http://www.bartellonline.com/chinapic.php?i=25600
บริเวณพุทธโบราณสถาน ถ้ำเบเซกลิก ทูร์ฟาน
มณฑลซินเจียง จีน พุทธศตวรรษที่ ๑๕-๑๘
ที่มา http://www.mygola.com/bezeklikthousand-buddha-caves-p120927


คัมภรี์สัทธรรมปุณฑริกสูตร อักษรพราหมี
ภาษาสันสกฤต กระดาษ พุทธศตวรรษที่ ๑๐
ที่มา http://idp.bl.uk/4DCGI/education/comenius/manuscripts.a4d


วัดถ้ำพุทธศาสนาโม่เกา ตุนหวง
เส้นทางแพรไหมตอนล่าง มณฑลกันซู จีน
ที่มา http://epic-curiousity.com/wp-content/uploads/2014/08/mogao.jpg



ภายในวัดถ้ำหมายเลข ๓๒ โม่เกา ตุนหวง มณฑลกันซู จีน
ที่มา https://32minutes.wordpress.com/2013/06/05/mogao-caves/




จิตรกรรมเพดานถ้ำแสดงพระพุทธเจ้าหลายพระองค์
โม่เกา ตุนหวง มณฑลกันซู จีน
ที่มา http://steppemagazine.com/articles/reviewcaves-dunhuang/




คัมภีร์วัชรัจเฉติกสูตร ภาษาจีน กระดาษต้นปอสิ่งพิมพ์ได้จากโม่เกา พุทธศตวรรษที่ ๑๕
 ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่หอสมุดบริติช
ที่มา http://www.aardvarknet.info/access/number43/dunhuang2_big.jpg


ม้วนคัมภีร์กระดาษ ภาษาจีน จากโม่เกา ตุนหวง มณฑลกันซู จีน
พุทธศตวรรษที่ ๑๒- ๑๔ ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยชิคาโก
ที่มา http://news.lib.uchicago.edu/blog/2012/08/

คัมภีร์พุทธศาสนา อักษรพราหมี ถ้ำโม่เกา ตุนหวง
มณฑลกันซู จีน ปัจจุเก็บรักษาอยู่ที่หอสมุดบริติช
ที่มา http://farm5.static.flickr.com/4115/4866403781_72778fe2eb_z.jpg


จากการศึกษาเส้นทางการเผยเเผ่นี้ ผู้เขียนและคณะนักวิจัยสถาบันดีรีสรุปได้ว่า ดินแดนของจีนนับเป็นเเหล่งข้อมูลในระดับปฐมภูมิที่มีจำนวนมหาศาล สถาบันดีรีจึงได้จัดบุคลากรและแผนการทำงานวิจัยในภาคสนาม เพื่อสืบค้นคำสอนดั้งเดิม ให้ได้มาซึ่งหลักฐานร่องรอยธรรมกายสืบไป

Cr. พระสุธรรมญาณวิเทศ วิ. (สุธรรม สุธมฺโม) และคณะนักวิจัย DIRI
วารสารอยู่ในบุญ  ฉบับที่ ๑๕๘  เดือนธันวาคม  พ.ศ. ๒๕๕๘


หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๖)

คลิกอ่านหลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามบทความด้านล่างนี้
หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๗) หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พุทธโบราณ (ตอนที่ ๗) Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 01:22 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.