ผ้าห่อถักทอเชื่อมสายบุญ
ผ้าลายดอกสีแดงแห้งกรอบที่เต็มไปด้วยฝุ่นและหยากไย่ถูกคลี่ออกอย่างช้า
ๆ เผยให้เห็นมัดคัมภีร์ใบลานสภาพดีที่ห่อไว้ภายใน
ผ้าผืนนี้ผ่านการทำหน้าที่รักษามัดคัมภีร์ ซึ่งเป็นสมบัติพระศาสนามายาวนาน
ให้รอดพ้นจากฝุ่น แสงแดด ความชื้นที่จะทำให้แผ่นลาน และตัวจารเสื่อมสภาพ
และรอดจากแมลงที่จะมากัดกินแผ่นลาน
ผ้าห่อคัมภีร์ที่ทอขึ้นจากเส้นด้ายหลายเส้นให้เป็นผืนผ้าที่บอบบาง งดงาม
และพลิ้วไหวนี้ จึงทำหน้าที่เสมือนเกราะป้องกันภัยไม่ให้อันตรายใด ๆ
เข้าถึงตัวมัดคัมภีร์ที่บันทึกคำสอนอันบริสุทธิ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้
สังคมไทยในอดีตรู้จักการทอผ้ามาช้านานดั่งปรากฏในหลักฐานของจูต้ากวน
เมื่อปี พ.ศ. ๑๘๓๙ บันทึกว่า
หญิงชาวสยามใช้เครื่องนุ่งห่มที่ทำจากผ้าไหมทอและผ้าแพรสีดำ และหลักฐานทางโบราณคดี
๒ ชิ้นที่พบในดินแดนประเทศไทยในปัจจุบัน ชิ้นแรกเป็นเศษผ้าติดอยู่กับกำไลสำริดของบ้านเชียง
ส่วนชิ้นที่สองเป็นเศษเส้นใยไหมพบที่บ้านนาดี อ.หนองหาน จ.อุดรธานี
หลักฐานจากบันทึกและหลักฐานทางกายภาพทั้ง ๒ ชิ้นบ่งชี้ว่า
ในแผ่นดินไทยมีการใช้ผ้าไหมตั้งแต่เมื่อ ๓,๐๐๐ ปีก่อน
และทำให้สามารถสันนิษฐานเชื่อมโยงต่อไปได้ว่า สตรีไทยรู้จักการปลูกหม่อน
เลี้ยงไหมและทอผ้าใช้เองภายในครัวเรือนมานานหลายพันปี
การทอผ้าถือเป็นงานศิลปะที่ต้องอาศัยประสบการณ์และฝีมือของช่างทอ
เพื่อให้ได้ผืนผ้าที่มีคุณภาพและมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ยิ่งเป็นผ้าที่ใช้สำหรับชนชั้นสูงหรือในพิธีกรรมที่สำคัญยิ่งมีลวดลายและสีสันที่วิจิตรตระการตา
กระบวนการในทุกขั้นตอนจึงต้องพิถีพิถัน
ตั้งแต่การเลือกชนิดใบหม่อนเพื่อเลี้ยงหนอนไหม
เนื่องจากใบหม่อนต่างพันธุ์จะให้สีไหมที่แตกต่างกัน
อีกทั้งสภาพแวดล้อมด้านภูมิอากาศและอุณหภูมิก็เป็นปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพและสีสันของเส้นด้ายเช่นกัน
และกว่าจะได้เส้นไหมที่พร้อมนำมาถักทอต้องอาศัยระยะเวลาแรมเดือนแรมปี
เริ่มจากการนำหนอนไหมมาเลี้ยงประมาณ ๔๕-๕๒ วัน กระทั่งหนอนไหมลอกคราบแล้วเริ่มชักใยหุ้มตัว
ความยาวของเส้นไหมขึ้นกับหนอนไหมแต่ละตัว บางตัวอาจผลิตเส้นใยที่สาวได้ยาวเพียง
๓๕๐ เมตร แต่บางตัวก็สามารถผลิตเส้นใยที่สาวได้ยาวถึง ๑,๒๐๐ เมตรเลยทีเดียว จากนั้นผู้เลี้ยงจะต้องเก็บรังไหมช่วงวันที่ ๖-๗
ก่อนที่หนอนไหมจะเจาะรังออกมากลายเป็นผีเสื้อ
ขั้นตอนถัดมาคือการอบรังไหมให้แห้ง นำไปต้มให้รังพองตัว แล้วจึงเริ่มสาวไหม
เพื่อให้ได้เส้นไหมที่เหนียวทนทานและมีประกายเงางามเหมาะสำหรับนำไปทอเป็นผืนผ้าต่อไป ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า
กว่าจะได้เส้นไหมมาทอผ้าสักผืนจะต้องใช้รังไหมจำนวนไม่น้อยทีเดียว
ความรู้เรื่องการเลี้ยงไหมและทอผ้าเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตหญิงไทยในอดีต
ซึ่งได้รับการอบรมให้มีความรู้ในงานฝีมือเย็บปักถักร้อย การบ้านการเรือนเป็นอย่างดี
แต่ไม่มีโอกาสได้ศึกษาศิลปวิทยาในการเขียนอ่านเหมือนเช่นฝ่ายชาย
ซึ่งมีบทบาทเป็นหัวหน้าครอบครัว ทำมาหาเลี้ยงชีพ
ที่สำคัญคือมีธรรมเนียมปฏิบัติที่ฝ่ายชายจะต้องบวชเรียนฝากตัวเป็นศิษย์กับพระอาจารย์เมื่อถึงเวลาอันควร
ตลอดระยะเวลาที่บวชนั้น เหล่ากุลบุตรจะได้เล่าเรียนเขียนอ่านศิลปวิทยาแขนงต่าง ๆ
ทางโลก ในขณะเดียวกันก็ได้ศึกษาพระธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาไปพร้อมกัน
ดังนั้นฝ่ายชายจึงมีความรู้ความสามารถทั้งด้านอักขระและพระพุทธศาสนาพอที่จะจารคัมภีร์ใบลานถวายไว้เป็นพุทธบูชาซึ่งนับว่ามีอานิสงส์มากมายจะนับจะประมาณมิได้
สำหรับฝ่ายหญิงนั้น
ค่านิยมของสังคมไม่สนับสนุนให้เล่าเรียนศิลปะและวิทยาการต่าง ๆ นอกจากได้รับการอบรมให้เพียบพร้อมเป็นกุลสตรีที่มีฝีมือทางด้านการบ้านการเรือน ทำให้สตรีในสมัยนั้นไม่มีความรู้
อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ และยังมีข้อกำหนดมิให้สตรีจับต้องมัดคัมภีร์ใบลาน
ด้วยถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่อนุญาตให้เฉพาะพระภิกษุ สามเณร
และบุรุษเท่านั้นที่จับต้องได้
แม้แต่การผ่านเข้าไปในหอไตรก็เป็นเรื่องต้องห้ามเช่นกัน
แต่ด้วยแรงศรัทธาที่มีต่อพระรัตนตรัยและความปรารถนาที่จะสั่งสมบุญในการสร้างสรรค์คัมภีร์ใบลานไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าฝ่ายชาย
ฝ่ายหญิงจึงอาศัยความสามารถด้านหัตถกรรมที่ตนมีทอผ้าขึ้นมาเพื่อทำเป็นผ้าห่อมัดคัมภีร์ถวายเป็นพุทธบูชา
อีกแนวคิดหนึ่งกล่าวว่า การทอผ้าเพื่อห่อคัมภีร์ดังกล่าวก็เพื่อลดทอนผลแห่งกรรมที่ตนต้องคร่าชีวิตหนอนไหมเป็นจำนวนมากในการทอผ้านุ่งห่ม
จึงทอผ้าห่อคัมภีร์ขึ้นเพื่ออานิสงส์ผลบุญของตัวผู้ทอเอง
เป็นการขอขมาและอุทิศส่วนกุศลแก่สรรพชีวิตที่ถูกทำลายไปเพราะการทอผ้า
ผ้าหอคัมภีร์แบบมีไม้ไผ่สอดสลับ |
ผ้าห่อคัมภีร์มีประเภทที่ทอด้วยเส้นฝ้ายหรือไหมล้วนและแบบที่มีไม้ไผ่สอดสลับ
ผ้าที่ทอในแต่ละท้องถิ่นมีวิธีการในการใส่ลวดลายและมีชื่อเรียกเฉพาะแต่ละท้องถิ่น
เช่น ผ้ามัดหมี่ ผ้าจก ผ้าขิด
ผ้าแพรวา ผ้ายกดอก เป็นต้น
ส่วนผ้าห่อแบบมีไม้ไผ่คั่นก็สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมความเชื่อของกลุ่มคนท้องถิ่น
อาทิ กลุ่มวัฒนธรรมไทยวน ไทเขิน ไทลื้อ และไทใหญ่ ที่มีความเชื่อว่า
ไม้ไผ่ที่สอดสลับจะเป็นเสมือนขั้นบันไดทอดนำพาผู้ถวายสู่สวรรค์เมื่อถึงคราวละโลก
ตัวอย่างผ้าห่อคัมภีร์ลวดลายต่างๆ ที่พบในแถบอีสาน
แม้ปัจจุบันธรรมเนียมการจารคัมภีร์ใบลานและการทอผ้าห่อคัมภีร์ไม่เป็นที่นิยมเช่นอดีตที่ผ่านมา
ผืนผ้าที่เคยงดงามเต็มไปด้วยลวดลายและสีสันก็ซีดจางและเสื่อมสภาพไปตามอายุการใช้งาน
แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปรไปคือหน้าที่ของผืนผ้าที่เก็บรักษามัดคัมภีร์ที่ห่ออยู่ภายในให้พ้นจากภัยและสิ่งสกปรกทั้งหลาย
สิ่งนี้มิได้ต่างจากใจของพุทธศาสนิกชนทั้งหลายในปัจจุบัน ที่เปี่ยมไปด้วยความรัก ความศรัทธา และความเคารพ
ที่มีต่อพระรัตนตรัยอย่างมิผันแปร
และถือเป็นหน้าที่สำคัญที่จะปกป้องพระพุทธศาสนาให้แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งหลาย
ผ้าห่อคัมภีร์ทำหน้าที่ปกป้องมัดคัมภีร์ใบลานให้พ้นจากภัยทั้งหลายฉันใด
ดวงใจของพุทธบริษัทสี่ก็หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวพร้อมปกป้องพระพุทธศาสนาให้พ้นเงื้อมมือภัยที่จ้องทำลายฉันนั้น
Cr. Tipitaka (DTP)
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๗๑ เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๖๐
คลิกอ่านพระไตรปิฎก (DTP) ของวารสารอยู่ในบุญ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
พระไตรปิฎก มรดก ๙ แผ่นดินแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (ปีก่อนหน้า)
รอยลบ ที่ไม่ลบเลือน
การสืบทอดวรรณกรรมบาลีแห่งศรีลังกาและสยามประเทศ
ปุราณอักษรา
สังคายนา เชื่อมกาลสานธรรม
ลังกาทวีป ประทีปพุทธธรรม (ตอนที่ ๑)
พระไตรปิฎก มรดก ๙ แผ่นดินแห่งกรุงฯ (ปีก่อนหน้า)
|
|
คลิกอ่านพระไตรปิฎก (DTP) ของวารสารอยู่ในบุญ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
พระไตรปิฎก มรดก ๙ แผ่นดินแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (ปีก่อนหน้า)
รอยลบ ที่ไม่ลบเลือน
การสืบทอดวรรณกรรมบาลีแห่งศรีลังกาและสยามประเทศ
ปุราณอักษรา
สังคายนา เชื่อมกาลสานธรรม
ลังกาทวีป ประทีปพุทธธรรม (ตอนที่ ๑)
ผ้าห่อถักทอเชื่อมสายบุญ
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
19:43
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: