อานิสงส์การบูชาด้วยดอกมะลิ
“ผู้ที่เกิดมาในโลกจำต้องตายทุกคน ผู้ทำกรรมอันใดไว้
ไม่ว่าจะเป็นบุญหรือบาป
บุญและบาปนั้นเป็นสมบัติของเขา
และเขาจะพาเอาบุญและบาปนั้นไปสู่ปรโลก
อนึ่ง บุญและบาปเป็นของติดตามเขาไปประดุจเงาติดตามตัวไป
เพราะฉะนั้น
บุคคลพึงทำกัลยาณกรรมสะสมไว้เป็นสมบัติในปรโลก
เพราะว่าบุญย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในปรโลก”
(สํ. สคาถวรรค)
มนุษย์เท่านั้นที่เกิดมาเพื่อสั่งสมบุญ
สัตว์ที่เหลือส่วนใหญ่จะเกิดมาเพื่อเสวยผลกรรมที่เคยทำไว้ในอดีต ถึงจะเป็นสัตว์นรก
เปรต อสุรกาย หรือสัตว์เดรัจฉาน ก็ต้องชดใช้ผลกรรมที่ทำไว้
จะต้องได้รับแต่ความทุกข์ทรมาน โอกาสสั่งสมบุญให้ตนเองนั้นยากมาก แม้เป็นสัตว์เดรัจฉานที่เรามองเห็นว่ามีความเป็นอยู่ที่ดี
ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าของดีกว่าคนจนทั่ว ๆ ไป แต่ก็เป็นได้แค่เพียงสัตว์แสนรู้
ผู้ที่สั่งสมบุญไว้ดีแล้วจะไปบังเกิดเป็นเทวดา
ไปเป็นชาวสวรรค์ที่มีความเป็นอยู่อันเป็นทิพย์ เกิดมาเพื่อเสวยบุญ
ปรารถนาอะไรก็สำเร็จได้ด้วยบุญ สำเร็จด้วยใจทุกอย่าง ไม่ว่ารูป เสียง กลิ่น รส
สัมผัส ล้วนเป็นทิพย์ไปหมด อายุขัยก็ยืนยาว มีความเป็นหนุ่มสาวอยู่ตลอดเวลา
นั่นก็เป็นเพราะผลบุญที่สั่งสมไว้ดีแล้วแต่โอกาสที่จะสั่งสมบุญอย่างเต็มที่ให้ตนเองทำได้ยากมาก
เพราะว่ากายอันเป็นทิพย์สร้างบารมีสู้กายมนุษย์ไม่ได้
และเมื่อติดอยู่ในสุขอันเป็นทิพย์ก็จะมองเห็นทุกข์ภัยในสังสารวัฏได้ยาก
ส่วนใหญ่จะมัวประมาท เพลิดเพลินในกามคุณอันเป็นทิพย์เหมือนกัน
ส่วนผู้ที่ประพฤติพรหมจรรย์ ประพฤติพรหมวิหารธรรม จะไปบังเกิดเป็นพรหมผู้เสวยสุขในฌานสมาบัติ
มีความเป็นอยู่ที่ประณีตกว่าสุขกว่าชาวสวรรค์มากมายหลายเท่านัก
อายุขัยก็ยืนยาวเป็นล้าน ๆ กัป
แม้จะมีพระพุทธเจ้าเสด็จลงมาบังเกิดหลายพระองค์แล้วก็ยังไม่จุติที่ได้อัตภาพเช่นนั้นเพราะกำลังบุญกำลังฌานสมาบัติ ที่ฝึกฝนอบรมจิตเอาไว้เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์
จึงมีภพภูมิที่ละเอียดประณีตบังเกิดขึ้นมารองรับ
แต่นั่นเป็นเพียงการเสวยผลบุญเท่านั้น จะสร้างบารมีให้ยิ่ง ๆ
ขึ้นไปเหมือนมนุษย์ก็ทำได้ยาก
เพราะฉะนั้น เมื่อเราได้อัตภาพเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งหาได้ยากในโลก
ดังพุทธพจน์ที่ว่า กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ การได้อัตภาพเป็นมนุษย์เป็นการยาก
เราก็ควรหาโอกาสสั่งสมบุญให้เต็มที่ เพราะมนุษย์เท่านั้นที่เกิดมาเพื่อสร้างบารมี
ไม่ได้เกิดมาเพื่อชดใช้กรรม หรือปล่อยชีวิตให้ผ่านไปวัน ๆ
ด้วยกระแสของบาปดึงไปอย่างเดียวเท่านั้น และก็ไม่ได้เกิดมาเพื่อการอื่นด้วย
เราเกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง มาเพื่อสั่งสมบุญ เมื่อบารมีเต็มเปี่ยมแล้ว
จะได้ปราบกิเลสให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ พ้นจากการเป็นบ่าวเป็นทาสของพญามาร
คนในสมัยก่อน เมื่อเกิดศรัทธาก็ไม่รอช้า จะรีบทำความดีทันที
และจะไม่ให้สิ่งใดมาเป็นอุปสรรค ข้อแม้ ข้ออ้าง หรือเงื่อนไขในการทำความดี
ความรู้สึกเช่นนั้นไม่เกิดขึ้นกับนักสร้างบารมีในสมัยก่อนเลย
เมื่อใจเปี่ยมด้วยศรัทธาปัญญาก็เจริญ เมื่อมีปัญญา ปัญหาก็ไม่มี
กลายเป็นคนที่ไม่มีปัญหา
มีแต่ปัญญาขวนขวายหาช่องทางในการทำความดีนั้นให้สำเร็จจนได้
ด้วยผลบุญที่ได้ทำในครั้งนั้น ทำให้ท่านไปเสวยทิพยสมบัติในสุคติโลกสวรรค์
เป็นผู้มีกลิ่นจันทน์หอมออกจากสรีระฟุ้งขจรขจายใครได้กลิ่นก็ชื่นใจและอยากเข้าใกล้
ท่านเสวยทิพยสมบัติเป็นเวลายาวนานมาก เมื่อลงมาเกิดเป็นมนุษย์
ก็ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่า “สมัตตะ” ท่านเป็นพระเจ้าจักรพรรดิที่มีชื่อเดิมอยู่ถึง
๘ ครั้ง พอละโลกก็กลับไปเสวยทิพยสมบัติในสวรรค์อีก เวียนว่ายตายเกิดแต่ใน ๒
ภพภูมินี้เท่านั้น
ขณะที่เดินถือดอกมะลิไปบูชาพระเจดีย์นั้น ท่านบังเกิดปีติโสมนัสทุก ๆ
ย่างก้าว เมื่อไปถึงก็ถือกิ่งมะลิเวียนประทักษิณ ๓ รอบ
แล้วทำการบูชานอบน้อมด้วยความเลื่อมใส แค่บูชาด้วยดอกมะลิเท่านั้น
บุญส่งผลให้ท่านได้กลับไปบังเกิดในเทวโลกอีกครั้งหนึ่ง และเสวยสุขในสวรรค์อยู่นานถึง
๘๐ โกฏิปี
ครั้นมาในยุคพุทธกาลของเรานี้ ท่านได้มาเกิดเป็นพระราชกุมารในเมืองปาวา
แคว้นมัลละเป็นผู้มีกลิ่นกายหอมเหมือนดอกมะลิผิวพรรณวรรณะเปล่งปลั่งผ่องใสมากเป็นพิเศษเมื่อได้ยินข่าวว่า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลกแล้ว และกำลังประทับอยู่ที่สวนอัมพวันของนายจุนทะ
ท่านบังเกิดความศรัทธาเลื่อมใสปรารถนาอย่างยิ่งที่จะไปฟังธรรม
เหมือนผืนดินที่แห้งแล้งรอคอยฝนจากฟากฟ้ามายาวนานหรือเหมือนปลาในหนองน้ำที่แห้งขอดกำลังรอฝนด้วยใจจดใจจ่อ
ท่านรีบชักชวนข้าทาสบริวารไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์เพื่อฟังพระธรรมเทศนา
ครั้นได้ฟังแล้วก็ยิ่งศรัทธามากขึ้นจึงตัดสินใจออกบวช
ท่านบำเพ็ญเพียรเพียงไม่นานก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา
จากนั้น ท่านระลึกชาติไปดูบุพกรรมว่าได้ทำบุญอะไรเอาไว้
จึงมีมหาโชคได้มาเจอพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และเป็นผู้ปฏิบัติสะดวกบรรลุอรหัตผลอย่างง่ายดาย
เมื่อเห็นแล้วท่านก็ปลื้มปีติและเปล่งอุทานว่า “เราถวายดอกไม้เพียงกิ่งเดียว
เราได้เสวยสุขอยู่ในสวรรค์ถึง ๘๐ โกฏิปีในที่สุดได้บรรลุพระนิพพาน
เพราะผลบุญที่ได้บูชาพระเจดีย์ด้วยจิตเลื่อมใส”
พระมหาธรรมกายเจดีย์ พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าล้านพระองค์
ศูนย์รวมดวงใจของมนุษย์และเทวดาในยุคนี้
เป็นเจดีย์ที่เราร่วมกันสร้างด้วยความศรัทธาเลื่อมใสในพระรัตนตรัยและลงทุนลงแรงด้วยความเหนื่อยยาก
ซึ่งจะก่อเกิดเป็นบุญใหญ่แก่เราทุกคน เหมือนฝนที่ตกลงมาในจักรวาล ไม่มีลมพายุ
มีแต่เม็ดฝนล้วน ๆ ถ้าหากเราเอาภาชนะที่ไม่มีรูรั่วตั้งไว้กลางแจ้ง
ฝนตกลงมาเท่าไรก็เต็มภาชนะฉันใดเราก็จะได้บุญกันเต็มที่ไม่รั่วไปไหนฉันนั้น
เราสร้างเจดีย์ถวายเป็นพุทธบูชา
บุญกุศลที่เกิดขึ้นนอกจากจะทับทวีเป็นอสงไขยอัปปมาณังแล้ว การที่เราหาโอกาสเดินทางไปสวดมนต์สรรเสริญคุณพระรัตนตรัยที่ลานธรรมพระมหาธรรมกายเจดีย์เป็นประจำ
ยังจะเกิดบุญกุศลหนุนนำให้ประสบความสุขความสำเร็จทั้งในโลกนี้โลกหน้าทุกภพทุกชาติตราบถึงที่สุดแห่งธรรม
Cr. พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ.๙
ภาพประกอบ : กองพุทธศิลป์
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๖๘ เดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
คลิกอ่านอานิสงส์แห่งบุญของวารสารอยู่ในบุญ ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามบทความด้านล่างนี้
อานิสงส์สร้างที่ปฏิบัติธรรม (ปีก่อนหน้า)
อานิสงส์การบูชาด้วยดอกบัว
อานิสงส์การจุดประทีป ถวายเป็นพุทธบูชา
อานิสงส์บูชาพระเจดีย์ทุกวัน
อานิสงส์การบูชาเจดีย์ด้วยดอกผักตบ
อานิสงส์บูชาพระรัตนตรัยด้วยรัตนชาติ
อานิสงส์บูชาเจดีย์ด้วยดอกบัว ๘ กำ
อานิสงส์บูชาพระพุทธสรีระ
อานิสงส์ร่วมสร้างมหาพุทธเจดีย์
อานิสงส์ถวายดอกบัวและธงชัย
อานิสงส์บูชาสิ่งแทนพระพุทธองค์
อานิสงส์การบูชาเจดีย์ด้วยดอกไม้ ๘ ดอก
|
คลิกอ่านอานิสงส์แห่งบุญของวารสารอยู่ในบุญ ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามบทความด้านล่างนี้
อานิสงส์สร้างที่ปฏิบัติธรรม (ปีก่อนหน้า)
อานิสงส์การบูชาด้วยดอกบัว
อานิสงส์การจุดประทีป ถวายเป็นพุทธบูชา
อานิสงส์บูชาพระเจดีย์ทุกวัน
อานิสงส์การบูชาเจดีย์ด้วยดอกผักตบ
อานิสงส์บูชาพระรัตนตรัยด้วยรัตนชาติ
อานิสงส์บูชาเจดีย์ด้วยดอกบัว ๘ กำ
อานิสงส์บูชาพระพุทธสรีระ
อานิสงส์ร่วมสร้างมหาพุทธเจดีย์
อานิสงส์ถวายดอกบัวและธงชัย
อานิสงส์บูชาสิ่งแทนพระพุทธองค์
อานิสงส์การบูชาเจดีย์ด้วยดอกไม้ ๘ ดอก
นกน้อยผู้มีจิตเลื่อมใส (ปีถัดไป)
อานิสงส์การบูชาด้วยดอกมะลิ
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
23:51
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: