การฝึกตนเป็นนักสร้างบารมี จะต้องทำความเข้าใจเรื่องใดให้ชัดเจนก่อน?


เมื่อเราตั้งใจจะเป็นนักสร้างบารมี นั่นหมายความว่า เราตั้งใจจะสร้างความดีอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน โดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตก็ตาม ก็จะทำแต่ความดีเรื่อยไป ไม่เลิกล้มความตั้งใจเด็ดขาด ด้วยเหตุนี้  เราจึงมีภาพรวมสำคัญที่จะต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนตั้งแต่วันนี้ ซึ่งจะเป็นอุปการคุณต่อการทำความดีไปจนกระทั่งถึงวันสุดท้ายของชีวิต นั่นคือเรื่อง "บุญ"

ทุกลมหายใจในโลกนี้ล้วนต้องใช้บุญ

"บุญ" ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เพราะทุกลมหายใจของเราต้องใช้บุญอยู่ตลอดเวลา อย่าว่าแต่ในตอนที่กำลังตื่นอยู่เลย แม้ในขณะนอนหลับก็ต้องใช้บุญ ถ้าเข้านอนคืนนี้แล้วหมดบุญละก็ พรุ่งนี้ไม่ได้ตื่นแน่นอน ขนาดนอนเฉย ๆ ก็ยังต้องใช้บุญ

นอกจากใช้บุญธรรมดาแล้ว บางคนต้องใช้บุญเปลืองกว่าธรรมดาอีกด้วย คน ๆ หนึ่ง ในปีเดียวกันแต่ต่างฤดูก็ใช้บุญต่างกัน ฤดูหนาวจำเป็นจะต้องเพิ่มความอบอุ่น อาจจะต้องหาผ้าห่มหนา ๆ หรือเสื้อกันหนาว เสื้อหนา ๆ มาใส่ หรืออาจจะต้องเอาฮีตเตอร์ (heater) มาใช้ทำความอบอุ่นในห้องด้วย การนอนในคืนนั้นจึงจำเป็นต้องใช้บุญมากกว่าคืนก่อน ๆ ยิ่งในประเทศที่มีฤดูหนาวยาวนาน หรือประเทศที่มีหิมะปกคลุมอยู่ตลอด ฤดูหนาวของเขาแต่ละคน ก็ต้องใช้บุญเปลืองยิ่งกว่าธรรมดา

แต่ละคนลำพังแค่เรื่องนอนเรื่องเดียวยังใช้บุญไม่น้อย ยิ่งมีเรื่องกินเข้ามาร่วมด้วย ยิ่งใช้บุญ เพิ่มขึ้น เพราะในบางฤดูกาล อาหารมีราคาแพง บางฤดูอาหารมีราคาถูก ทำให้อาหารแต่ละมื้อในแต่ละฤดูกาล ก็ใช้บุญไม่เท่ากัน

บุญจะหมดเมื่อไรไม่มีใครรู้

สิ่งที่มนุษย์ทั้งโลกไม่รู้เหมือนกันคือ ไม่รู้ว่าเสบียงบุญที่เป็นต้นทุนอยู่ในตัวเรามีอยู่เท่าไร เมื่อไม่รู้ว่ามีเท่าไร มันก็พร้อมจะหมดได้ตลอดเวลา ถ้าไม่ระวังตัว

รถยนต์มีมาตรบอกระดับน้ำมันให้เรารู้ว่ามีน้ำมันเหลืออยู่ในถังเท่าไร แต่บางทีก็ยังไม่วายเผลอใช้น้ำมันจนหมดกลางทาง รถยนต์เลยต้องจอดตายอยู่กลางถนน รถยนต์มีเครื่องบอก ยังไม่วายพลาด แต่บุญในตัวไม่มีเครื่องหมายบอกให้รู้ โอกาสที่จะพลาดย่อมมีมากกว่า

เรื่องนี้เราต้องเตือนตัวเองบ่อย ๆ เพราะเรื่องบุญคือเรื่องที่เราจะพลาดได้ง่าย ๆ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงเตือนว่า ความตายไม่มีเครื่องหมายบอกให้รู้ล่วงหน้า เท่ากับบอกว่า ลูกเอ๋ย บุญ จะหมดเมื่อไรไม่รู้ล่วงหน้านะ อย่าประมาทในการสร้างความดี

ไปโลกหน้าก็ใช้บุญ

คนเราตายแล้วไม่สูญ ชีวิตหลังความตายมีอยู่จริง ขณะที่เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้ยังต้องใช้บุญทุกลมหายใจ เมื่อละโลกไปอยู่โลกหน้าก็ต้องใช้บุญอีกเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น เวลาตายจากโลกนี้แล้ว จะไปไหนก็ขึ้นอยู่กับว่ามีบุญน้อยหรือมีบุญมาก ถ้ามีบุญเต็มที่ในยุคนี้ ก็ไปสวรรค์ชั้นดุสิต (สวรรค์ชั้นที่เป็นที่ชุมนุมของพระโพธิสัตว์) ซึ่งเราใช้ศัพท์เรียกกันแบบชาวบ้านว่า “ดุสิตบุรี” แต่มีบางคนที่กำลังบุญหย่อน ตายแล้วไปเกิดเป็นยักษ์บ้าง ภุมเทวาบ้าง ได้อยู่ที่เชิงป่าหิมพานต์เท่านั้น ไม่ได้ไปสวรรค์ชั้นดุสิต เพราะมีบุญน้อย เลยอยู่ได้แค่นั้น

บางคนนอกจากบุญน้อยแล้วยังทำบาปไว้มากอีกด้วย เมื่อละโลกไปแล้วก็ไปตกนรก ไปเกิดเป็นสัตว์นรก ถูกยมบาลลงทัณฑ์ ถามว่าสัตว์นรกใช้บุญหรือไม่? ใช้ แต่เพราะว่าบาปมันมากจึงต้องมาตกนรก ยิ่งบาปมากเท่าไร ยิ่งตกนรกขุมลึก ๆ มากเท่านั้น เพราะฉะนั้น แม้เป็นสัตว์นรกอยู่ในนรกก็ต้องใช้บุญ ยิ่งกว่านั้น แม้อยู่ในสวรรค์ก็ต้องใช้บุญ เคยมีเรื่องปรากฏมาแล้ว บางคนขณะที่ไปอยู่ในสวรรค์ใหม่ ๆ ก็ปลื้มอกปลื้มใจกับทิพยสมบัติ วิมาน และรัศมีสีสันของกายทิพย์ แต่พอเหลียวซ้ายแลขวา วิมานอื่น ๆ เขามีสมบัติมากกว่าเรา รัศมีสีสันเขาสว่างกว่าเรา ทิพยสมบัติของเรากระจอกงอกง่อยเสียเหลือเกิน หน้าม่อยไปเลย แต่ถ้ามีลูก ๆ หลาน ๆ กรวดน้ำไปให้ วิมานก็สว่างพรึบพรับขึ้นมาด้วยทิพยสมบัติพัสถาน หน้าบานไปเลย แต่ถ้าไม่มีใครกรวดน้ำไปให้ หน้าม่อยเลยก็แล้วกัน เพราะฉะนั้น แม้เกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ก็ยังต้องใช้บุญ

อย่ากลัวการสร้างบุญ

เมื่อเราทราบดังนี้แล้วว่าไปเกิดอยู่ในสวรรค์ก็ต้องใช้บุญ ไปเกิดอยู่ในนรกก็ต้องใช้บุญ การมีชีวิตอยู่ในโลกนี้และโลกหน้าก็ต้องใช้บุญ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ๆ ก็ต้องใช้บุญ แม้ที่สุดจะไปบรรลุมรรค ผล นิพพาน ก็ต้องใช้บุญ แต่บุญเก่าของเรามีอยู่เท่าไรก็ไม่รู้ จะหมดตอนไหนก็ไม่รู้ นี่คือเรื่องที่อันตรายสุด ๆ แต่คนไม่ค่อยจะได้คิดกัน

เพราะเหตุนี้ เมื่อตอนที่คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง มีชีวิตอยู่ ท่านจึงหมั่นเตือนว่าให้หมั่นสร้างบุญ คุณยายท่านถึงกับใช้คำว่า “ยายงกบุญ” ท่านใช้คำนี้ เพราะท่านไปเห็นชีวิตหลังความตายอย่างที่ว่ามานี้

เพราะฉะนั้น ก็ให้ทุกคนรีบงกบุญตามคุณยายเถิด ชาตินี้จะได้สบาย ชาติหน้าก็สบายอีก แล้วหลังจากชาติหน้าไปอีกจะเป็นอย่างไร เราก็ต้องสร้างบุญกันให้เยอะ ๆ ตุนไว้ภพชาติเบื้องหน้า พร้อมทั้งอธิษฐานล้อมคอกให้แน่นหนา ให้เกิดมาเป็นนักสร้างบารมีไปทุกภพทุกชาติ เกิดมาสร้างบุญอย่างเดียว เพื่อเอาบุญไปต่อบุญ เสบียงบุญในตัวเราจะได้มากขึ้นไปทุกภพทุกชาติ จนกระทั่ง ไม่มีอุปสรรคใด ๆ มาขัดขวางหนทางแห่งการสร้างบารมีได้อีก แล้วเราก็จะเป็นผู้ที่มีบุญบารมีอย่างเต็มเปี่ยม เหมือนดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทำได้สำเร็จมาก่อน และจะได้พบกับความสำเร็จสมใจ ที่ได้เกิดมาเป็นนักสร้างบารมี อย่างต่อเนื่องมาหลายภพหลายชาติ


Cr. หลวงพ่อทัตตชีโว
วารสารอยู่ในบุญ  ฉบับที่ ๑๒๒  เดือนธันวาคม  พ.ศ. ๒๕๕๕

ธรรมชาติของกรรมเป็นอย่างไร?

รอลงบทความ






คลิกอ่านหลวงพ่อตอบปัญหาของวารสารอยู่ในบุญปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
บุคลิกของคนมีสัจจะเป็นอย่างไร?
ทำงานอย่างไร... ให้มีกำลังใจ ไม่ท้อแท้ท้อถอย?
ทำงานเป็นทีมอย่างไร ให้ประสบความสำเร็จได้ตลอดรอดฝั่ง?
ชาวพุทธจะยืนหยัด รักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้อย่างไร

เวลาพระให้พร ท่านให้อะไร? ผู้ทำบุญได้อะไร?

"ศรัทธา " มีความหมายอย่างไร ในพระพุทธศาสนา?
วันพระ มีความเป็นมาอย่างไร?
การเลี้ยงดูพัฒนาเด็ก ควรจะเริ่มต้นอย่างไร ?
อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สังคมแตกแยก ?

ทำไมเราต้องศึกษา เรื่องกฎแห่งกรรม ?

ธรรมชาติของกรรมเป็นอย่างไร?
การฝึกตนเป็นนักสร้างบารมี จะต้องทำความเข้าใจเรื่องใดให้ชัดเจนก่อน? การฝึกตนเป็นนักสร้างบารมี  จะต้องทำความเข้าใจเรื่องใดให้ชัดเจนก่อน? Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 00:28 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.