ธรรมยาตรา ๔๐๐,๐๐๐ องค์ ในพุทธกาล
หากไม่ได้ศึกษาข้อมูลในพระไตรปิฎก
ก็ยากนักที่จะทราบว่า...
ในครั้งพุทธกาลมีธรรมยาตราครั้งยิ่งใหญ่
ที่สั่นสะเทือนเลื่อนลั่นไปถึงหมื่นโลกธาตุ
!!!
ผู้เขียนเข้าใจความรู้สึกดีนะว่า
หากผู้อ่านไม่ชอบวัดพระธรรมกาย แล้วจะให้มาเออออ..ห่อหมก...กับกิจกรรมงานบุญต่าง ๆ
ที่วัดจัดขึ้นนั้นเป็นเรื่องยากมาก
แต่บทความนี้ไม่ได้เขียนขึ้นเพื่อให้ใครหันกลับมารักวัดพระธรรมกายแต่อย่างใด
เพียงแต่ผู้เขียนอยากให้ลองมาศึกษาข้อมูลในพระไตรปิฎกไปด้วยกัน เผื่อในอนาคตเกิดสนใจอยากศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง
หรือคิดจะไปร่วมกิจกรรมธรรมยาตรากับวัดอื่น ๆ ก็จะได้เห็นถึงอานิสงส์และประโยชน์สูงสุดที่จะเกิดขึ้นแก่ตัวเองและพระพุทธศาสนาโดยรวม
สืบเนื่องจากการที่มีบางคนไม่ชอบวัดพระธรรมกาย
และพอช่วงวัดจัดธรรมยาตราทีไร ก็มักจะมีกระแสดรามา (Drama) ถามในเรื่องเดิม ๆ วน ๆ เข้ามาว่า..จัดอีกแล้วหรือ ? ทำไมไม่ไปเดินในป่า ? ทั้ง ๆ ที่ธรรมยาตราเป็นพุทธประเพณีที่มีมาแต่ครั้งพุทธกาล
แล้วที่สำคัญ…การที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จนำพระภิกษุธรรมยาตราเข้าเมืองในหลาย
ๆ ครั้ง ก็เป็นกุศโลบายในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้กว้างไกลและได้ผลที่สุดวิธีหนึ่ง
!!! เพราะผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้อาศัยอยู่ในป่า ถ้าจะให้เข้าป่า..ก็คงเจอแต่สิงสาราสัตว์
ฉะนั้นหากพระพุทธองค์ทรงต้องการจะเทศน์โปรดคนจำนวนมาก ๆ ในคราวเดียวกัน
ก็เป็นธรรมดาที่จะเสด็จเข้าเมืองดังในหลาย ๆ ครั้งที่ปรากฏ เช่น...
ทรงนำพระภิกษุ
๑,๐๐๓ รูป ธรรมยาตราเข้ากรุงราชคฤห์ไปโปรดพระเจ้าพิมพิสารและชาวเมือง ผลลัพธ์ก็คือ
ทำให้พระเจ้าพิมพิสาร ชาวเมือง และเหล่าเวไนยสัตว์บรรลุธรรมถึง ๘๔,๐๐๐ ชีวิต และเป็นเหตุให้พระเจ้าพิมพิสารถวายวัดเวฬุวัน ซึ่งถือเป็นการกำเนิดวัดแรกในพระพุทธศาสนา
และผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่มากไปกว่านั้นก็คือ
ข่าวการธรรมยาตราที่ทำให้คนบรรลุธรรมขนาดนี้ได้แพร่สะพัดขจรขจายล่วงรู้ไปถึงพระเจ้าสุทโธทนะ
(พระบิดาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) จึงเป็นเหตุให้พระเจ้าสุทโธทนะทรงส่งทูตมากราบนิมนต์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จนทำให้เกิดธรรมยาตราครั้งยิ่งใหญ่กว่าเดิม คือ พระพุทธองค์ทรงนำพระภิกษุมากถึง
๒๐,๐๐๐ รูป ธรรมยาตราไปโปรดพระประยูรญาติและชาวเมืองกบิลพัสดุ์
ซึ่งผลลัพธ์ก็คือ ทำให้พระเจ้าสุทโธทนะ
พระประยูรญาติ ชาวเมือง และเหล่าเวไนยสัตว์บรรลุธรรมถึง ๘๔,๐๐๐ ชีวิต (อ่านเพิ่มเติมที่ พระไตรปิฎกเล่มที่
๓๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๕ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก
พุทธวงศ์ รัตนะจงกรมกัณฑ์ ว่าด้วยพระพุทธองค์ทรงเนรมิตที่จงกรมแก้ว)
นอกเหนือจากนี้
พระพุทธองค์ยังทรงนำพระภิกษุ ๕๐๐ รูป ธรรมยาตราไปโปรดชาวเมืองเวสาลี ผลลัพธ์ก็คือ
ภัยพิบัติหมดไป มีเหล่าเวไนยสัตว์บรรลุธรรมถึง ๘๔,๐๐๐ ชีวิต (อ่านเพิ่มเติมที่ อรรถกถา
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ รัตนสูตรในขุททกปาฐะ พรรณนารัตนสูตร)
และที่พิเศษสุดไปกว่านั้น...
ยังมีธรรมยาตราที่ยิ่งใหญ่มากอีกครั้งที่หลายคนไม่รู้ ทั้ง ๆ ที่ธรรมยาตราครั้งนี้มีผลกระทบถึงคนทั้งโลกที่นับถือพระพุทธศาสนาในขณะนี้
เพราะธรรมยาตราที่จะกล่าวถึงนี้ ส่งผลต่อการบังเกิดขึ้นของพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา
!!! ซึ่งธรรมยาตราครั้งนี้ ก็คือ ครั้งที่พระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จนำเหล่าพระอรหันต์ ๔๐๐,๐๐๐ องค์ ธรรมยาตราจาริกเข้าไปในเมืองรัมมนคร
จนชาวเมืองปลื้มปีตีโกลาหลแห่กันไปเข้าเฝ้า
อีกทั้งยังทูลนิมนต์เพื่อเสวยภัตตาหารในวันรุ่งขึ้น
จากนั้นชาวเมืองก็รีบตระเตรียมมหาทานและประดับตกแต่งหนทางเสด็จกันอย่างอลังการ
ตั้งแต่ทำพื้นดินให้ราบเรียบ โรยทรายอันมีสีดังแผ่นเงิน โปรยข้าวตอกดอกไม้
เอาผ้าย้อมสีต่าง ๆ ประดับเป็นธงทิวปลิวไสว ตั้งต้นกล้วย และหม้อน้ำเรียงเป็นแถวตามหนทาง
ครั้นเมื่อสุเมธดาบสเหาะผ่านมาเห็น
จึงเกิดความประหลาดใจ แล้วเข้าไปถามชาวเมืองจนทราบข่าวการเสด็จมาของพระพุทธองค์
จึงขอแบ่งพื้นที่จากชาวเมือง เพื่อตนจะได้ถมตกแต่งทำหนทางถวายการต้อนรับพระพุทธองค์ด้วย
แต่ขณะที่สุเมธดาบสยังถมทางที่เป็นหลุมเป็นเปือกตมยังไม่เสร็จ
พระพุทธองค์และเหล่าพระอรหันต์ทั้ง ๔๐๐,๐๐๐ องค์ ก็กำลังมาถึง
ทำให้สุเมธดาบสเห็นถึงความอัศจรรย์ของพระวรกายของพระพุทธองค์ที่งดงามด้วยมหาปุริสลักษณะ
๓๒ ประการ และอนุพยัญชนะ ๘๐ ประการ อีกทั้งพระวรกายยังเปล่งพระพุทธรัศมีด้านละวา
ทำให้สุเมธดาบสเกิดจิตเลื่อมใสอย่างท้วมท้น และคิดว่า..วันนี้เราจะถวายชีวิตโดยการสละกายนอนทอดร่างให้พระพุทธองค์ทรงเหยียบผ่านไปพร้อมกับพระอรหันต์
๔๐๐,๐๐๐ องค์ โดยมิให้ทรงเหยียบเปือกตม เพื่อเอาบุญนี้ตั้งความปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้าให้จงได้
ด้วยผลบุญนี้ พระพุทธเจ้าทีปังกรจึงใช้พระอนาคตังสญาณตรวจตราและพยากรณ์ว่า อีกสี่อสงไขยกับอีกแสนกัป
สุเมธดาบสท่านนี้จะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า โคดม...
เมื่อเป็นเช่นนี้
ทั่วทั้งหมื่นโลกธาตุ ทั้งผืนดิน ผืนน้ำ ทุกพิภพเกิดการสะเทือนเลื่อนลั่น บรรดาสรรพสัตว์ต่างแห่กันออกมา
เหล่าเทวดาทั่วทั้งหมื่นโลกธาตุต่างสาธุการด้วยความยินดีปรีดา ไฟนรกในหมื่นโลกธาตุดับ
มีน้ำพวยพุ่งขึ้นจากแผ่นดิน ฯลฯ
และที่วิเศษไปกว่านั้น
มหาชนจำนวนมหาศาลต่างปลื้มปริ่มและมีความหวัง ตั้งความปรารถนาอธิษฐานจิตว่า..ถ้าเราไม่บรรลุธรรมในสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทีปังกร
ก็ขอให้เราบรรลุธรรมในยุคของพระสมณโคดมในภายภาคหน้าด้วยเถิด (อ่านเพิ่มเติมที่ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๕ (ฉบับมหาจุฬาฯ) ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๒ -พุทธวังสะ-จริยาปิฎก ๒. สุเมธกถา ว่าด้วยสุเมธดาบส, อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๑. พุทธวรรค ๑. พุทธาปทาน,
อรรถกถา เอกกนิบาตชาดก อปัณณกวรรค นิทานกถา ว่าด้วยทูเรนิทาน
อวิทูเรนิทาน สันติเกนิทาน อปัณณกชาดก ว่าด้วยการรู้ฐานะและมิใช่ฐานะ)
ลองคิดดูเถิด..การที่พระพุทธเจ้าทีปังกรเสด็จธรรมยาตรานำพระอรหันต์มากถึง ๔๐๐,๐๐๐ องค์ เข้าเมืองในครั้งนี้
เป็นเหตุการณ์ที่มีคุณอนันต์แก่โลกและจักรวาลนี้มากขนาดไหน เพราะทำให้สุเมธดาบสในครั้งนั้นได้มาบังเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในครั้งนี้
ที่เราได้มาพึ่งคำสอนของพระพุทธศาสนาในยุคพระองค์ท่าน
มากไปกว่านั้น...
ธรรมยาตราครั้งนี้ ยังเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งได้มาเจอกับว่าที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต
และการเจอกันในครั้งนี้ ก็เป็นการเปลี่ยนภูมิของสุเมธดาบสจากอนิยตโพธิสัตว์ขึ้นเป็นนิยตโพธิสัตว์
ซึ่งก็คือ พระโพธิสัตว์ที่รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า
และจะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตแน่ ๆ
เห็นไหมว่า ธรรมยาตราแต่ละครั้งเกิดสิ่งดีงามขึ้นบนโลกใบนี้มากมาย เพราะการเห็นพระจำนวนมาก
ๆ มาสร้างกุศลกรรม ถือเป็น ทัสนานุตริยะ ซึ่งหมายถึง
การเห็นที่ยอดเยี่ยมกว่าการเห็นทั้งหลาย เป็นการเห็นที่เป็นไปเพื่อความบริสุทธิ์
เพื่อความดับสูญแห่งทุกข์ และเพื่อทำให้แจ้งซึ่งนิพพาน คือ
เมื่อเห็นแล้วเราจะอยากประกอบกุศลกรรมที่ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพราะชั่วแว็บเดียวที่เราเกิดศรัทธาขึ้นมาอย่างท่วมท้นแล้วอธิษฐานจิต
มันเปลี่ยนผังชีวิตเรานับจากนั้นเลยทีเดียว ซึ่งในอนาคตคนคนนั้นอาจเป็นเราก็ได้
ใครจะไปรู้... (อ่านเพิ่มเติมที่ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย
ปัญจก-ฉักกนิบาต ๑๐. อนุตตริยสูตร)
เรื่อง : ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์
คลิกอ่านบทความได้ที่นี่ https://dhamma-media.blogspot.com/2019/12/cover0163.html
***สามารถนำไปเผยแพร่ได้ แต่ขอให้ใส่ Cr. ผู้เขียนด้วย***
คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญในรูปแบบของ PDF
https://drive.google.com/file/d/1LXoPXF9DiGdw6C-Tsi98SFSI9kHyaDHh/view
https://drive.google.com/file/d/1LXoPXF9DiGdw6C-Tsi98SFSI9kHyaDHh/view
คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญในรูปแบบของ E-book
http://dhammamedia.org/YNB%202563/205%20YNB_6301/YNBJAN63__Hi.html#p=1
คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๒๐๕ ประจำเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้ที่นี่
http://dhammamedia.org/YNB%202563/205%20YNB_6301/YNBJAN63__Hi.html#p=1
คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๒๐๕ ประจำเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้ที่นี่
- ชาวอิสปานิกพบสันติสุขภายใน
- ธรรมยาตรา ๔๐๐,๐๐๐ องค์ ในพุทธกาล
- ตักบาตร ๓๐,๐๐๐ รูป ณ มัณฑะเลย์ ที่โลกต้องจารึก
- ทอดผ้าป่าต้นสมบัติจักรพรรดิ ๒๑๔ ศูนย์ส่งเสริมศีลธรรมทั่วโลก
- ปลื้มใจในโครงการอุปสมบทหมู่บูชาธรรม ๗๙ ปี หลวงพ่อทัตตชีโว
- ขอบคุณประเทศไทย
- ข่าวสารเครือข่ายคณะศิษย์
- International Forum on Tri-tradition Buddhism
- ทำอย่างไรให้การทำงานเป็นทีมประสบความสำเร็จ ?
- ย้อนอดีต...ท่องประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา (ตอนที่ ๒๕)
- ๕ คุณสมบัติของนายจ้างและลูกน้องที่ดี
ธรรมยาตรา ๔๐๐,๐๐๐ องค์ ในพุทธกาล
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
19:05
Rating:
สาธุๆ สาธุครับ
ตอบลบขอเชิญพุทธศาสนิกชนผู้มีบุญ มาร่วมต้อนรับพระภิกษุธรรมยาตรา 1,136 รูป เส้นทางพระผู้ปราบมาร ปีที่ 8 เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์
เสริมความเป็นสิริมงคล ต้อนรับศักราชใหม่ สร้างบุญใหญ่ให้แผ่นดิน
ในวันที่ 2 - 31 มกราคม พ.ศ. 2563
สาธุคะ
ตอบลบสาธุ สาธุ สาธุ
ตอบลบปลื้ม ปลื้ม ปลื้ม มาต้อนรับพระธรรมยาตราด้วยกัน สาธุ ขอกราบอนุโมทนาบุญ
ตอบลบนำเสนอข้อมูลได้ดีมาก แต่ขอความกรุณาทบทวนข้อมูลตรงที่ว่า จำนวนผู้บรรลุธรรมตอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดพระเจ้าพิมพิสาร เท่าที่้เคยได้ศึกษามามีผู้ฟังธรรม ๑๒ นหุต (นหุตละหนึ่งหมื่น) ผู้มีดวงตาเห็นธรรม ๑๑ นหุต คือ ๑๑๐,๐๐๐ คน ไม่ใช่ ๘๔,๐๐๐ คน อีก ๑ นหุตขอถึงไตรสรณคมน์ หรือเป็นอุบาสก
ตอบลบ