ขอบคุณประเทศไทย


“พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประสูติที่ประเทศเนปาล เมื่อพระองค์ตรัสรู้ ทรงเป็นดั่งแสงสว่างให้แก่โลก ตรัสสอนธรรมะอย่างมีเหตุมีผล จนผู้คนทั้งหลายต่างพากันยกย่องว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เป็นที่สุดแห่งวิทยาศาสตร์

“อาตมาเกิดบนดินแดนพุทธภูมิเฉกเช่นเดียวกับพระองค์ท่าน และมาบวชเจริญรอยตามท่าน เพราะต้องการเรียนรู้ความจริงอันแสนประเสริฐเหล่านั้น และเพื่อค้นหาความสมดุลและความชัดเจนแห่งชีวิต”

“อาตมาชื่อ พระอะคัสห์ อคฺคปญฺโญ (Aakash Shahi) อายุ ๓๐ ปี เป็นชาวเนปาล ก่อนมาบวชมีอาชีพเป็นครู และนับถือศาสนาอื่นอยู่ก่อน ถึงแม้จะเคยรู้อยู่แล้วว่าพระพุทธเจ้าประสูติที่ประเทศเนปาลนี้เช่นกัน แต่อาตมากลับไม่เข้าใจพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง ลึก ๆ แล้วอาตมาสนใจในการทำสมาธิและการค้นหาความจริงของชีวิต จึงหาโอกาสเรียนรู้เพิ่มเติมด้วยการบวชเป็นพระภิกษุอยู่ร่วม ๑๐ ครั้ง ในสถานที่ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในการบวชหลาย ๆ ครั้งนั้น แม้จะเกิดความประทับใจ แต่กลับรู้สึกว่ายังไม่ใช่สิ่งแวดล้อมที่ถูกอัธยาศัย แต่แล้ววันหนึ่งเพื่อนของอาตมาก็แนะนำให้รู้จักกับโครงการ IDOP ของวัดพระธรรมกาย และนี่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญครั้งใหญ่ในชีวิต..

“อาตมาเดินทางมาประเทศไทยเพื่อบวชในโครงการนี้ เพราะคิดว่าการบวชที่นี่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตตามคำสอนของพระพุทธเจ้าได้ ดังเช่น การแก้ทุกข์ การให้อภัยทาน และการมีเมตตา เป็นต้น และต้องการที่จะฝึกฝนการทำสมาธิเพิ่มเติมให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

“อาตมาพัฒนาสติในทุก ๆ วัน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามา ได้เรียนรู้เทคนิควิธีปฏิบัติสมาธิที่ถูกต้องและถูกอัธยาศัย เมื่อได้ทำสมาธิมากขึ้น ๆ สมาธินี้ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของอาตมาไปจากแต่ก่อนจนเพื่อนหลาย ๆ คนของอาตมาประหลาดใจ แต่ก่อนที่เคยชอบโดดเด่นกว่าผู้อื่นและเป็นคนมักโกรธ ไม่ค่อยฟังความเห็นจากผู้อื่น กลับกลายเป็นผู้มีสติ กำหนดรู้เท่าทันอารมณ์ตัวเองได้ว่องไวและเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น ซึ่งอาตมาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากแต่ก่อน จนอาตมาเองยังเห็นชัดด้วยตัวเองว่าชีวิตแต่ก่อนนั้นด่างพร้อยเพียงไร แต่ตอนนี้อาตมามีใจที่สงบเยือกเย็นขึ้นมาก มีสติควบคู่กับความสบาย และคิดบวกมากขึ้น จึงทำให้เป็นคนยิ้มง่าย สนุกกับชีวิต และมีความสุขอย่างแท้จริงมากขึ้นจากประสบการณ์ภายใน

“การมาบวชในครั้งนี้จึงเหมือนได้เป็นคนใหม่ อีกทั้งยังได้เจอพระเพื่อนดี ๆ มากมายจาก ๒๓ ประเทศ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ทั้งชีวิตไม่เคยมีมาก่อน และยังเป็นดั่งการให้โอกาสตัวเองในการเรียนรู้วิถีชีวิตของพระสงฆ์ที่ดี และได้เรียนรู้คำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างละเอียดลึกซึ้ง จนถึงขั้นนำมาปฏิบัติให้ถ่องแท้ได้ ซึ่งการทำสมาธินี้สำคัญเป็นอย่างมากที่จะช่วยพัฒนาให้ชีวิตของเราดีขึ้นและเจริญรุ่งเรืองขึ้น

“อาตมาขอขอบคุณประเทศไทยที่มีคนไทยทั้งชาติช่วยกันอนุรักษ์ รักษา และส่งเสริมพระพุทธศาสนามาโดยตลอด และยังมีน้ำใจแจกจ่ายเผยแผ่คำสอนของพระพุทธองค์ไปทั่วโลก จนความรู้ที่แท้จริงกลับมาถึงผู้คนในประเทศเนปาลอย่างอาตมา และอาตมาขอร้องอย่างจริงใจไปยังผู้คนทั่วโลกผู้ที่กระตือรือร้นที่จะพัฒนาชีวิตและปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนเองให้ดียิ่งขึ้น ขอสักครั้งในชีวิตให้มาบวชในโครงการ IDOP ของวัดพระธรรมกายนี้ เพื่อที่จะได้โอกาสสำคัญที่สุดในชีวิต คือ การเรียนรู้ความสำคัญของการเกิดมาเป็นมนุษย์และการมีความรักสากลต่อเพื่อนมนุษย์ ซึ่งท่านจะได้ค้นพบความสงบที่แท้จริงภายในใจและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนที่ดีที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นได้"

“คนเช่นเราไม่ใช่ไร้ปัญญา ชั่วก็รู้ ดีก็เห็น เราจะฆ่าตัวเองเพราะความปรารถนาลามกทำไม บางคนคงจะไม่รู้จักคำว่า “ธรรมกาย” มีอยู่ที่ไหน หมายเอาใคร ที่เขาพูดหาว่าเราอย่างนั้น เขาอาศัยความไม่รู้มาว่าเราผู้ตั้งใจปฏิบัติชอบ เมื่อผู้ไม่รู้ติเตียนเรา ความไม่รู้ของเขาจะลบล้างสัจธรรมของพระพุทธศาสนาได้อย่างไร ถ้าจะลบก็ลบได้เพียงชั่วคราว ไม่ช้าดวงแก้วของพระพุทธศาสนาก็จะเปล่งรัศมีให้ผู้มีปัญญาเห็นด้วยสายตาของตนเอง... ธรรมะจะต้องชนะอธรรมเสมอ เราไม่เดือดร้อนใจ เพราะ “ธรรมกาย” ของพระพุทธศาสนาเป็นของแท้ ไม่ใช่ของเก๊หรือของเทียม ธรรมกายจะปรากฏเป็นของจริงแก่ผู้เข้าถึง...”


พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)

เรื่อง : พระมหาภูรัช ทนฺตวํโส
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๒๐๕ ประจำเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓





คลิกอ่านบทความได้ที่นี่ https://dhamma-media.blogspot.com/2019/12/llp0163.html

***สามารถนำไปเผยแพร่ได้ แต่ขอให้ใส่ Cr. ผู้เขียนด้วย***


คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญในรูปแบบของ PDF
https://drive.google.com/file/d/1LXoPXF9DiGdw6C-Tsi98SFSI9kHyaDHh/view

คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญในรูปแบบของ E-book
http://dhammamedia.org/YNB%202563/205%20YNB_6301/YNBJAN63__Hi.html#p=1

คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๒๐๕ ประจำเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้ที่นี่

คลิกที่รูป หรือ สแกน QR-CODE เพื่ออ่านบทความนี้

ขอบคุณประเทศไทย ขอบคุณประเทศไทย Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 18:58 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.