วันอาสาฬหบูชา : วันที่ปณิธานถูกเติมเต็ม


อาสาฬหบูชา อ่านว่า อาสานหะบูชาหรืออาสานละหะบูชา แปลว่า การบูชาในวันเพ็ญกลางเดือนอาสาฬหะหรือเดือน ๘ ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกวันหนึ่งเรียกว่า วันอาสาฬหบูชา ในวันนี้มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นเมื่อครั้งพุทธกาล ๓ อย่างคือ

๑) เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมครั้งแรก ชื่อ ธัมมจักกัปปวัตนสูตร
๒) เป็นวันที่พระสงฆ์ซึ่งเป็นพระรัตนตรัยภายนอกเกิดขึ้นครั้งแรกในโลก คือพระอัญญาโกณฑัญญะ เมื่อท่านฟังธัมมจักกัปปวัตนสูตรแล้ว ก็บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันและขอบวชในพระพุทธศาสนา
๓) หลังจากท่านอัญญาโกณฑัญญะบวชแล้ว จึงทำให้วันนี้เป็นวันที่พระรัตนตรัยครบบริบูรณ์เป็นครั้งแรก คือมีครบทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์

การที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมครั้งแรกและการบังเกิดขึ้นของพระสงฆ์ในวันนี้ ทำให้วันอาสาฬหบูชามีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานเลย เพราะจากเรื่องราวของการสร้างบารมีเป็นพระพุทธเจ้า เราจะพบว่ามีความแตกต่างประการหนึ่งระหว่างผู้ที่เป็นพระพุทธเจ้าแบบพระปัจเจกพุทธเจ้า กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ พระปัจเจกพุทธเจ้านั้น ตรัสรู้แล้วแต่ไม่สอนผู้อื่น ขณะที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อตรัสรู้แล้ว ก็จะสอนผู้อื่นให้รู้ตาม ซึ่งระยะเวลาในการสั่งสมบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้าทั้ง ๒ ประเภทนี้ แตกต่างกันหลายเท่าตัว คือพระปัจเจกพุทธเจ้าสั่งสมบารมี ๒ อสงไขย แสนมหากัป ก็เป็นพระพุทธเจ้าได้ ในขณะที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประเภทปัญญาธิกพุทธเจ้าต้องสั่งสมบารมีอย่างน้อยที่สุด ๒๐ อสงไขยแสนมหากัป พระสัทธาธิกพุทธเจ้าและพระวิริยาธิกพุทธเจ้าต้องสั่งสมบารมี ๔๐ อสงไขย และ ๘๐ อสงไขยกับเศษแสนมหากัปตามลำดับ เหตุผลสำคัญของการสั่งสมบารมีที่แตกต่างอย่างมากมายมหาศาลของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อเทียบกับพระปัจเจกพุทธเจ้า ก็เพราะการจะเป็นผู้นำที่สามารถขนสรรพสัตว์ไปสู่นิพพานได้นั้น จะต้องทำให้ตนเองสมบูรณ์ทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา ความบริสุทธิ์ และมีจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมหากรุณา จนกระทั่งภพชาติสุดท้าย สามารถที่จะเปล่งอาสภิวาจาว่า เราเป็นผู้เลิศแห่งโลก เราเป็นผู้เจริญที่สุดแห่งโลก เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดแห่งโลก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้การเกิดอีกมิได้มีเมื่อได้คุณสมบัติที่เป็นเลิศเช่นนี้ การทำหน้าที่ผู้นำรื้อสัตว์ขนสัตว์ก็จะสามารถทำได้ไม่ยาก

การที่พระโพธิสัตว์ต้องบำเพ็ญทานแบบยิ่งยวด ดุจคนถือหม้อแล้วคว่ำหม้อลงจนไม่เหลืออะไร ยอมสละอวัยวะ เลือดเนื้อ ชีวิตและสั่งสมบารมีต่าง ๆ อย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพันมานับภพนับชาติไม่ถ้วน ก็เพื่อรอให้ภพชาติสุดท้าย สามารถทำหน้าที่ได้ดีที่สุด คือการรื้อสัตว์ขนสัตว์ไปพระนิพพาน 


สมดังปณิธานในการตั้งความปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าที่ว่า โลกก็คือคุกใบใหญ่ ตัวเราและสรรพสัตว์ต่างถูกจับขังให้เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในโลกนี้ไม่รู้จักจบสิ้น เราจะต้องหาทางพาตัวเองออกไปจากคุกนี้ให้ได้และเนื่องจากมีความกรุณาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายด้วย จึงได้ตั้งความปรารถนาว่า หากวันใดเราแหกคุกนี้ไปได้ เราจะไม่ไปคนเดียว แต่จะขนคนไปให้หมดทั้งโลก

แม้เวลาในการสั่งสมบารมีนั้นยาวนานมากจนเทียบไม่ได้กับเวลาชีวิตที่ใช้เพื่อการรื้อสัตว์ขนสัตว์ อย่างเช่นพระสมณโคดมพุทธเจ้าสร้างบารมี ๒๐ อสงไขยแสนมหากัป แต่ทำหน้าที่รื้อขนสัตว์อยู่ได้แค่ ๔๕ พรรษา แต่ช่วงเวลาเพียงเท่านั้นก็คุ้มค่าแล้วสำหรับปณิธานที่ถูกตั้งมาอย่างยาวนาน เพื่อการเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้รื้อขนสรรพสัตว์

วันอาสาฬหบูชาที่เราชาวพุทธกำหนดให้เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และระลึกถึงการแสดงธัมมจักกัปปวัตนสูตร ที่ทำให้บังเกิดพระรัตนตรัยครบถ้วนบริบูรณ์ จึงมีความสำคัญและยิ่งใหญ่ เพราะเป็นวันที่ปณิธานที่พระพุทธองค์ตั้งความปรารถนามายาวนานถึง ๒๐ อสงไขยแสนมหากัป ถูกเติมเต็มอย่างครบถ้วนบริบูรณ์ คือพระองค์ได้กระทำหน้าที่ประกาศสัจธรรม จนทำให้เกิดพระสาวกผู้บรรลุธรรมเช่นเดียวกับพระองค์ ประดุจดังนาวาธรรมที่พระพุทธองค์พากเพียรสร้างจนกระทั่งสำเร็จและเริ่มแล่นไปในมหาสมุทรแห่งวัฏฏะทุกข์ที่มีสรรพสัตว์ว่ายวนเวียนรอคอยการขึ้นฝั่งมากมาย พระอัญญาโกณฑัญญะเปรียบเสมือนผู้ที่ได้ขึ้นนาวาธรรมท่านแรก และมีผู้ที่ได้ขึ้นนาวาธรรมนี้อีกมากมายจนกระทั่งเต็มลำ และพระองค์ก็นำพาสรรพสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นไปสู่ฝั่ง คือ พระนิพพาน แต่กระนั้นก็ยังมีสรรพสัตว์อีกจำนวนมากที่พลาดโอกาสไม่ได้ขึ้นนาวาธรรมลำนี้ และรอคอยนาวาธรรมลำต่อไปที่จะมารับ

โบราณาจารย์ให้ความสำคัญกับวันอาสาฬหบูชา ในฐานะเป็นวันที่ธรรมจักรถูกขับเคลื่อนไป ทำให้ศาสนาหรือคำสอนหนึ่งเกิดขึ้นบนโลก เราเรียกศาสนานั้นว่า ศาสนาพุทธ หรือ ศาสนาของผู้รู้ ตราสัญลักษณ์ธรรมจักรอันสื่อมาจากธัมมจักกัปปวัตนสูตรจึงถูกใช้เป็นเครื่องหมายแทนศาสนาของพระพุทธเจ้า คือ พระพุทธศาสนานั่นเอง

ดังนั้น วันอาสาฬหบูชาจึงเป็นวันสำคัญที่ชาวพุทธควรหันมาศึกษาธัมมจักกัปปวัตนสูตรในฐานะต้นกำเนิดแห่งพระพุทธศาสนาและเป็นบทธรรมที่พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ล้วนประกาศแสดงแก่พระสาวก ความหมายสัจธรรมและคำสอนที่ปรากฏในธัมมจักกัปปวัตนสูตร มีนัยลึกซึ้งมากกว่าเพียงตัวอักษรที่เราอ่านและทำความเข้าใจ นั่นคือชาวพุทธควรจะได้ปฏิบัติและเข้าไปให้ถึงสัจธรรมที่เก็บไว้ในธัมมจักกัปปวัตนสูตร และนั่นจะเป็นคุณค่าสูงสุดของการได้ระลึกนึกถึงวันอาสาฬหบูชาวันที่ปณิธานได้ถูกเติมเต็ม

และเมื่อได้ระลึกนึกถึงวันอาสาฬหบูชาแล้ว ก็ควรใช้โอกาสสำคัญนี้ ปรารภเหตุสำหรับการสั่งสมความดีในช่วงเข้าพรรษา ซึ่งเป็นวันสำคัญต่อจากวันอาสาฬหบูชา ช่วงเข้าพรรษาเป็นช่วงที่ชาวพุทธควรจะได้ใช้วันเวลาให้อยู่กับการทบทวนธรรมะและปฏิบัติตนให้อยู่ในศีลธรรม เป็นช่วงที่จะได้ตอกย้ำและสร้างเสริมคุณธรรมความดีให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้น เหมือนที่พระภิกษุท่านปรารภเข้าจำพรรษา เพื่อทำความบริสุทธิ์แห่งจิตให้เกิดพร้อม ๆ กับการศึกษาพระธรรมวินัยจากครูบาอาจารย์เป็นประจำทุกปี

ดังนั้น ในช่วงเข้าพรรษานี้ เราควรจะปรารภกันสร้างบุญใหญ่ ทำความดีเพื่อตัวของเราเอง เช่น ตั้งใจสวดธรรมจักรทุกวัน ตั้งใจรักษาศีลทุกวัน หรือตั้งใจนั่งสมาธิให้ได้ทุกวัน หรือสร้างกุศลกรรมอื่น ๆ ที่จะยกระดับจิตใจของเราให้สูงขึ้น และยังเป็นการรักษาประเพณีที่ดีงามไว้ให้อนุชนรุ่นหลังสืบต่อไป

Cr. พระมหาวุฒิชัย วุฑฺฒิชโย ป.ธ.๙
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๗๕ เดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐

ศีลกับเป้าหมายชีวิต
แนวคิดการสร้างพระเจดีย์

คลิกอ่าน DOU ความรู้สากลของวารสารอยู่ในบุญ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
การเดินทางไปสู่ปรโลก (ปีก่อนหน้า)
จิตเกษมในยุคชาวศิวิไลซ์
ทุกข์โทษภัยของวจีกรรม
ความสันโดษ ทรัพย์อันประเสริฐ
ศีลกับเป้าหมายชีวิต
แนวคิดการสร้างพระเจดีย์
วันอาสาฬหบูชา : วันที่ปณิธานถูกเติมเต็ม วันอาสาฬหบูชา : วันที่ปณิธานถูกเติมเต็ม Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 08:24 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.