“สัมมาอะระหัง” จิตใจสบาย ค้าขายดี


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในขุททกนิกาย ธรรมบท ว่า

มนุษย์เป็นอันมาก เมื่อถูกภัยคุกคามย่อมยึดเอาภูเขา ป่าไม้ ว่าเป็นที่พึ่ง แต่ที่พึ่งนั้น  ไม่เกษม ไม่อุดม เพราะบุคคลอาศัยแล้วย่อมไม่พ้นจากทุกข์ไปได้  ส่วนผู้ใดถึงพระพุทธ  พระธรรม และพระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่ง ที่พึ่งนั้นแลเป็นที่พึ่งอันเกษม เป็นที่พึ่งอันอุดม เมื่อบุคคลอาศัยที่พึ่งนั้นแล้ว ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้

พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันแท้จริงของสรรพสัตว์ทั้งหลาย  นอกจากจะสามารถปกป้องคุ้มครองและนำความปลอดภัยมาสู่ชีวิตได้แล้ว จิตใจที่ยึดมั่นอยู่กับพระรัตนตรัยยังมีอานุภาพดึงดูดโภคทรัพย์สมบัติหรือความอุดมสมบูรณ์พูนสุขได้ด้วย  ดังเรื่องราวในสมัยพุทธกาลเรื่องหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นในกรุงราชคฤห์...

มีเด็กชาย ๒ คน เป็นเพื่อนกัน คนหนึ่งเป็นลูกของผู้มีสัมมาทิฐิ อีกคนหนึ่งเป็นลูกของผู้มีมิจฉาทิฐิ เด็กทั้ง ๒ คนนี้ ชอบเล่นขลุบด้วยกันเสมอ เด็กคนแรกจะระลึกถึงคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยกล่าวว่า นะโม พุทธัสสะทุกครั้งก่อนจะทอดขลุบ ส่วนเด็กอีกคนหนึ่งจะระลึกถึงคุณของเดียรถีย์ก่อนจะทอดขลุบเช่นกัน

ผลการแข่งขันปรากฏว่า เด็กที่เป็นลูกผู้มีสัมมาทิฐิชนะทุกครั้ง เด็กที่นับถือเดียรถีย์จึงคิดว่า เพื่อนคนนี้ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าก่อนทอดขลุบ จึงชนะเราทุกครั้ง เราจะต้องทำอย่างนั้นบ้าง เขาจึงเริ่มระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าบ้าง ซึ่งเป็นการสั่งสมพุทธานุสติโดยที่เขาไม่รู้ตัวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

วันหนึ่ง พ่อของเขาเทียมเกวียนออกไปตัดฟืนนอกเมือง โดยพาเขาไปด้วย ขากลับหยุดพักและปล่อยโคให้พักกินน้ำกินหญ้า  ต่อมาโคของเขาตามฝูงโคอื่นเข้าไปในเมือง พ่อจึงให้ลูกชายเฝ้าเกวียนไว้ ส่วนตนเข้าไปตามหาโคในเมืองจนเย็น แต่ประตูเมืองปิดเสียก่อน จึงออกนอกเมืองไม่ได้ ฝ่ายลูกรอจนง่วง จึงคลานเข้าไปนอนหลับอยู่ใต้เกวียนเพียงลำพัง

สมัยนั้น ในกรุงราชคฤห์เวลากลางคืนเต็มไปด้วยอมนุษย์ คืนนั้นมียักษ์ ๒ ตน ออกหากินในป่าช้า ตนหนึ่งเป็นสัมมาทิฐิ อีกตนหนึ่งเป็นมิจฉาทิฐิ ยักษ์มิจฉาทิฐิเห็นเด็กนอนหลับ ก็ตรงเข้าไปจะจับเด็กกิน ยักษ์สัมมาทิฐิรีบห้ามไว้ แต่ยักษ์มิจฉาทิฐิไม่ฟัง ตรงเข้าไปลากเด็กคนนั้นออกมา เด็กตกใจจึงอุทานด้วยความคุ้นเคยว่า นะโม พุทธัสสะเพราะความที่ตนสั่งสมพุทธานุสติอยู่เนืองนิตย์ ทันทีที่ยักษ์ได้ยินพระนามของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น ก็สะดุ้งหวาดกลัวรีบถอยห่างออกมาทันที

ยักษ์สัมมาทิฐิจึงบอกว่า พวกเราทำกรรมหนักเสียแล้ว ล่วงเกินเด็กผู้มีพระพุทธเจ้าอยู่ในใจ จะต้องทำความดีเพื่อไถ่บาปยักษ์สัมมาทิฐิจึงยืนคุ้มครองเด็กน้อย ส่วนยักษ์มิจฉาทิฐินำอาหารรสเลิศ ซึ่งเป็นของพระราชามาให้เด็กกิน เมื่อเด็กน้อยกินอิ่มก็หลับต่ออย่างสุขสบาย

ยักษ์ทั้งสองยืนอารักขาเด็กชายตลอดทั้งคืน ครั้นรุ่งเช้าก่อนที่จะอันตรธานหายไป ยักษ์ได้จารึกเรื่องราวทั้งหมดที่ถาดอาหาร พลางอธิษฐานว่า ขอให้พระราชาเท่านั้นที่เห็นตัวอักษรเหล่านี้

รุ่งขึ้น พวกราชบุรุษตามหาถาดทองคำของพระราชา พบถาดบนเกวียนที่เด็กนอนหลับอยู่ จึงจับเด็กไปเข้าเฝ้าพระราชา พระเจ้าพิมพิสารทอดพระเนตรเห็นตัวอักษรที่ถาดทองคำ จึงตรัสถามว่า นี่คืออะไรเด็กกราบทูลว่า ข้าพระองค์ไม่ทราบ แต่เมื่อคืนมารดาบิดาของข้าพระองค์นำถาดอาหารนี้มาให้ แล้วยืนดูแลอยู่ ข้าพระองค์ทราบเพียงเท่านี้ พระเจ้าข้า

เมื่อมารดาบิดาของเด็กตามมาพบลูกในพระราชวัง พระราชาทรงถามเรื่องราวทั้งหมด แล้วทรงพาคนทั้งสามไปเฝ้าพระบรมศาสดา และกราบทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระพุทธเจ้ามีคุณอย่างน่าอัศจรรย์ ข้าพระองค์อยากทราบว่า พุทธานุสติเท่านั้นหรือที่สามารถปกป้องคุ้มครองรักษาผู้ที่ระลึกถึง ถ้าหากเจริญอนุสติอื่น ๆ เป็นสรณะ จะสามารถช่วยป้องกันภัยได้หรือไม่ พระเจ้าข้า

พระบรมศาสดาตรัสว่า มหาบพิตร ไม่ใช่แต่เพียงพุทธานุสติเท่านั้น แต่จิตของชนเหล่าใดที่อบรมดีแล้วด้วยฐานะทั้ง ๖ ชนเหล่านั้นไม่ต้องใช้มนต์หรือโอสถอื่นมารักษาเลยแล้วตรัสพุทธพจน์ว่า

สติของชนเหล่าใด เป็นไปแล้วในพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ และในกายเป็นนิจ  มีใจยินดีแล้วในความไม่เบียดเบียน ยินดีในการภาวนา ชนเหล่านั้นเป็นสาวกของเรา เขาย่อมตื่นอยู่ด้วยดีในกาลทุกเมื่อ

เมื่อจบพระธรรมเทศนา เด็กชายและมารดาบิดาบรรลุธรรมเป็นโสดาบันบุคคล ต่อมาภายหลังคนทั้งสามได้บวช และบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์

เรื่องที่ปรากฏในพระไตรปิฎกข้างต้น เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างชัดเจนในอานุภาพของการสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัย เพียงภาวนาว่า นะโม พุทธัสสะเท่านั้น  นอกจากจะได้ทั้งความปลอดภัยแล้ว ยังเป็นเหตุปัจจัยให้ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ในที่สุด และไม่เพียงแต่ในสมัยพุทธกาลเท่านั้น แม้ในยุคปัจจุบัน ผู้ภาวนาจิตรำลึกนึกถึงพระรัตนตรัยด้วยการภาวนา  สัมมาอะระหังยังประสบแต่ความโชคดี ปลอดโรค ปลอดภัย ค้าขายร่ำรวย ดังเรื่องราว ต่อไปนี้...

กัลฯกานต์มณี แก้วบุตรดี
ผู้ช่วยสัตวแพทย์โรงพยาบาลสัตว์ กม.๘ กรุงเทพมหานคร


มีคุณหมอมาแนะนำให้ภาวนา สัมมาอะระหัง๑ ถึง ๕๐๐ ครั้งค่ะ ครั้งแรกยังนับไม่ถึง ๕๐๐ ครั้ง แต่ครั้งต่อไปก็ทำได้ ๓๐๐-๔๐๐ ครั้ง แล้วนิ่งไปเลย จนเห็นองค์พระใส ๆ ในตัว เริ่มแรกที่ทำไม่ได้ เพราะไม่ได้ทำต่อเนื่อง แต่พอได้ทำต่อเนื่อง คือ ทำงานไปด้วย ภาวนา สัมมาอะระหังไปด้วย กลับไปบ้านก็ทำ พอนั่งสมาธิมันสว่าง

เมื่อก่อนหนูเคยเป็นซีสต์ก้อนใหญ่ที่คอ ก่อนที่จะนั่งสมาธิ แต่พอนั่งไปได้ ๒ วัน ซีสต์ก็ยุบลงไป แฟนหนูถามว่า ทำไมช่วงนี้เธอไม่บ่นอะไรเลย หนูตอบว่าไม่มีเวลาบ่นแล้ว ต้อง สัมมาอะระหังแฟนก็หัวเราะ
         

เมื่อก่อนคุณหมอบอก หนูก็ไม่เชื่อว่าจะดีจริง แต่พอนั่งแล้วเห็นทั้งแสงสว่างทั้งองค์พระจริง ๆ เลยค่ะ มีความปีติค่ะ ตัวเบา โล่ง สบาย มีความสุข ครอบครัวก็มีความสุขด้วย

กัลฯเบญจวรรณ นันชัย
เจ้าของบริษัท เอ็น. ซี. เอส. โกลด์เบรด จังหวัดระยอง


ตอนนี้เปิดร้านขายเครื่องดื่ม ขายกาแฟ ซาลาเปา ชื่อร้านอิ่มสุข หลวงพี่ท่านบอกว่า ต้องอิ่มทั้งกายทั้งใจ ก็เลยชวนพนักงานให้ สัมมาอะระหังผลโดยรวมก็คือ ดีขึ้น ยอดขายกระเตื้องขึ้น

ปกติร้านเราค่อนข้างเงียบ เปิดร้านมายอดขายไม่กี่พันบาท แต่ตอนนี้ ขึ้นเป็นหมื่น คงดีขึ้นตามกำลังบุญ บรรยากาศก็ดีขึ้น เมื่อก่อนพนักงานอยู่กันไม่นานก็ออกไป ตอนนี้รู้สึกว่าอยู่นานขึ้นและดีขึ้น เราก็เลยมีกำลังใจ และอยากให้น้อง ๆ เขาได้บุญ ได้เข้าใจเรื่องการทำสมาธิ ได้ท่อง  สัมมาอะระหังซึ่งเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ อย่างเราใจร้อนหรือหงุดหงิดอะไรมา พอท่องแล้วรู้สึกเบา หายหงุดหงิด แล้วธุรกิจการค้าก็ดีขึ้น จึงพยายามท่องบ่อย ๆ ค่ะ

กัลฯจิรภา นันชัย
ผู้จัดการร้านอิ่มสุข จังหวัดระยอง


ท่อง สัมมาอะระหัง๕๐๐ ครั้ง ต่อหนึ่งวัน ตอนนี้เวลาขับรถไปไหน ก็ท่องตลอดเลย ทำแล้วจิตใจของดิฉันก็ดีขึ้น ปกติเป็นคนใจร้อน  ขี้หงุดหงิด พอท่อง สัมมาอะระหังจิตใจก็ดีขึ้น และใจเย็นขึ้นเยอะค่ะ

นอกจากนี้ ที่ร้านดิฉันปกติที่ผ่านมาขายไม่ค่อยได้ แต่เดือนนี้จดไว้ทุกวัน ปรากฏว่ายอดขึ้นเป็นที่น่าพอใจ เมื่อก่อนยังไม่ท่อง สัมมาอะระหังยอดน้อย บางวันยังไม่ถึง ๕ พัน แต่เวลานี้ ๕ พันขึ้นไป บางที ๗-๘ พัน บางวันก็ขึ้นเป็น ๕ หลัก มีอยู่วันหนึ่ง ขาหมูขายไม่ออกเลย รุ่งเช้าขึ้นมาเลยท่อง สัมมาอะระหังแล้วมาเปิดประตู ขอให้วันนี้ขายขาหมูออกเยอะ ๆ ปรากฏวันนั้นขาหมูขายดีมาก ๆ เป็นที่น่าพอใจ

อยากจะฝากไว้ ถ้าใครอยากให้กิจการของตัวเองรุ่งเรืองขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็ให้ท่อง สัมมาอะระหังกันทุก ๆ คน

กัลฯภาสกร เดชะ
ฝ่ายผลิตร้านอิ่มสุข จังหวัดระยอง


ภาวนา สัมมาอะระหังตลอด ก่อนนอนก็ภาวนา สัมมาอะระหังไปเรื่อย ๆ บางวันก็ครบ ๕๐๐ ครั้ง บางวันไม่ครบ นั่งไปเรื่อย ๆ ประมาณ ๒ ชั่วโมง พอตื่นขึ้นมารู้สึกว่าไม่ง่วง สดใส ทำให้เราทำงานมีความสุข

ต่อมาไปบอกพี่สาวที่ขายของอยู่ทางใต้ ให้เขาลองท่องดูว่าจะเกิดอานุภาพไหม เขาก็ลองทำดู เมื่อคืนเขาโทร.มาบอกว่า สัมมาอะระหังดี มีอานุภาพมาก ทำให้เขาขายของหมดทุกวันเลย

นี่คือ อานุภาพอันไม่มีประมาณของการภาวนา สัมมาอะระหังตรึกระลึกนึกถึงพระรัตนตรัย ดังนั้นพวกเราทั้งหลายที่ได้เกิดมาเป็นชาวพุทธ  ได้พบแล้วซึ่งพระรัตนตรัยและวิชชาธรรมกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือว่ามีความโชคดี เป็นบุญลาภอย่างยิ่ง  ดังนั้นเมื่อพบแล้วพึงมั่นใจและพึงใส่ใจในการปฏิบัติ โดยการหมั่นภาวนา สัมมาอะระหังตรึกระลึกนึกถึงพระรัตนตรัยตลอดเวลา แล้วความปลอดโรค ปลอดภัย ไร้ทุกข์ ความสุขอันแท้จริงจักบังเกิดแก่ชีวิตตนเอง ดังพุทธพจน์ว่า

สติของชนเหล่าใด เป็นไปแล้วในพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ และในกายเป็นนิจ มีใจยินดีแล้วในความไม่เบียดเบียน ยินดีในการภาวนา ชนเหล่านั้นเป็นสาวกของเรา เขาย่อมตื่นอยู่ด้วยดีในกาลทุกเมื่อ”..


Cr. พระปลัดบริบูรณ์  ธมฺมวิชฺโช
วารสารอยู่ในบุญ  ฉบับที่  ๑๓๕  เดือนมกราคม  พ.ศ. ๒๕๕๗

รอลงบทความ

                               
                  สัมมาอะระหัง ศักดิ์สิทธิ์นัก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

คลิกอ่านอานุภาพสัมมาอะระหังของวารสารอยู่ในบุญปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
สัมมาอะระหัง ศักดิ์สิทธิ์นัก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
“สัมมาอะระหัง” ดีอย่างไร พิสูจน์ได้ด้วยตนเอง
ภาวนา พาสุขใจ
ลมหายใจมีคุณค่า ด้วย “สัมมาอะระหัง”
“สัมมาอะระหัง” ดีจริง ๆ
“สัมมาอะระหัง” นี่สิเป็นทางมรรคผล เพราะไปนิพพานได้
แก้ปัญหาด้วยการภาวนา “สัมมาอะระหัง”
ชีวิตราบรื่น ค้าขายร่ำรวย ด้วยการภาวนา “สัมมาอะระหัง”
“สัมมาอะระหัง” คือ เนื้อมนต์วิเศษโดยแท้
จะเกิดอะไรก็ช่าง ท่อง “สัมมาอะระหัง” อย่างเดียว
“สัมมาอะระหัง” จิตใจสบาย ค้าขายดี “สัมมาอะระหัง” จิตใจสบาย ค้าขายดี Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 01:28 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.