แก้ปัญหาด้วยการภาวนา “สัมมาอะระหัง”


ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต จงแก้ไขปัญหาด้วยการภาวนา สัมมาอะระหังซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด!

การภาวนาควบคู่กับการนั่งสมาธินั้น มีคุณเป็นอย่างมากต่อการปฏิบัติธรรมให้บรรลุผลและการนำพาชีวิตให้พ้นจากภัยทั้งปวง  ยกตัวอย่างเช่น  พระจูฬปันถก ซึ่งได้รับการยกย่องจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าเป็นเลิศทางมโนมยิทธิ ซึ่งแต่เดิมท่านจูฬปันถกมีสติปัญญาและความจำไม่ค่อยดีนัก พระพี่ชายท่านให้ท่องคาถาบทหนึ่ง ท่านท่องอยู่ ๔ เดือน แต่ก็จําไม่ได้ จึงถูกพระพี่ชายไล่ออกจากวัด ด้วยความน้อยใจท่านจึงคิดจะลาสิกขา  คราวนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรวจดูเวไนยสัตว์ ทอดพระเนตรเห็นพระจูฬปันถก จึงเสด็จมาหา เมื่อพระพุทธองค์ทรงทราบสาเหตุ ก็ทรงมอบผ้าที่สะอาดให้พระจูฬปันถกผืนหนึ่ง พร้อมกับให้ภาวนาคาถาว่า ระโชหะระนัง ๆภาวนาไปด้วยและลูบผ้าไปด้วย  ในที่สุดท่านก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์

อีกเรื่องราวหนึ่งเป็นเรื่องของนกแขกเต้าตัวหนึ่ง ซึ่งถูกทิ้งไว้ในสำนักของนางภิกษุณี แต่มีสามเณรีเมตตาเลี้ยงดูเอาไว้ที่กุฏิ และตั้งชื่อให้ว่า พุทธรักขิต

วันหนึ่งพระมหาเถรีมาเจอพุทธรักขิตจึงสอนว่า เจ้ามาอยู่ในสำนักที่มีการเจริญภาวนา เจ้าก็ควรที่จะบริกรรมภาวนาสักบทหนึ่งเถิด เอาบทง่าย ๆ ที่เหมาะกับเจ้า คือ อัฐิ อัฐิ(กระดูก)  เท่านี้ก็พอ

พุทธรักขิตก็ตั้งใจภาวนาด้วยความเคารพ จะไปไหนมาไหนก็ภาวนาอยู่มิได้ขาด วันหนึ่ง มีเหยี่ยวตัวหนึ่งบินตรงเข้าโฉบพุทธรักขิตไป หมายจะกินเป็นอาหาร  เมื่อพุทธรักขิตถูกเหยี่ยวโฉบไปก็ไม่ได้คิดเรื่องอื่น ได้แต่ภาวนาว่า อัฐิ อัฐิแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น สามเณรีที่เห็นเหตุการณ์รีบจับฉวยสิ่งของที่พอหาได้ขว้างปาเหยี่ยว เหยี่ยวตกใจกลัวจึงปล่อยพุทธรักขิต แล้วรีบบินหนีไป พุทธรักขิตจึงรอดชีวิต

ต่อมา เมื่อพุทธรักขิตตายไป ด้วยใจที่เป็นกุศลจดจ่อต่อการภาวนา ทำให้ไปเกิดเป็นมนุษย์ในตระกูลมั่งคั่งแห่งเมืองอนุราธบุรี ประเทศศรีลังกา ครั้นเจริญวัยขึ้น วันหนึ่งได้เห็นพระภิกษุรูปหนึ่งมีศีลาจารวัตรงดงามก็รู้สึกศรัทธา และต่อมาได้ออกบวช  ด้วยความคุ้นเคยกับการภาวนาจึงเป็นปัจจัยให้ท่านได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาญาณในที่สุด

ดังนั้น การหมั่นเจริญภาวนาให้จิตผ่องใสจึงเป็นวิถีแห่งการดำเนินชีวิตอย่างผู้มีบุญโดยแท้ ซึ่งในยุคปัจจุบันก็มีผู้มีบุญจำนวนไม่น้อยที่หมั่นเจริญภาวนาอยู่เสมอ

สุขใจ ได้เห็นธรรม
กัลฯ จีรนันท์  รักหาญ
ธรรมทายาทหญิง รุ่นที่ ๓๑

โดยปกติแล้วพอนั่งสมาธิหนูจะคิดแค่ว่า นั่งหลับตาไปเรื่อย ๆ  หลับบ้าง ฟุ้งบ้าง พอตื่นขึ้นมาก็สวดมนต์ แต่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หนูมีโอกาสฟังวิธีการวางใจโดยใช้การภาวนา สัมมาอะระหังจาก       พระอาจารย์ปรเมษฐ์ ปรมสจฺโจ  เมื่อก่อนหนูเคยภาวนา พุทโธควบคู่กับการกำหนดลมหายใจ หลังจากที่พระอาจารย์มาบรรยาย ตอนค่ำ ๆ หนูก็กลับไปลองปฏิบัติ โดยนั่งสมาธิก่อนนอน และภาวนา สัมมาอะระหัง, “สัมมา อะระหัง, ภาวนาไปเรื่อย ๆ จนถึง ๕๐๐ ครั้ง ก็รู้สึกเหมือนว่าข้างในเราจดจ่อกับการภาวนาและนิ่งมากขึ้น



หลังจากนั้น หนูก็ทำมาตลอด พอทำไปเรื่อย ๆ รู้สึกว่า การภาวนา สัมมาอะระหังทำให้เรามีสมาธิในการนั่งมากขึ้น  แม้ใจเราอาจจะจดจ่อกับอย่างอื่น แต่พอเรา สัมมาอะระหังปุ๊บ เราก็จะนิ่ง พอภาวนา สัมมาอะระหังไปนาน ๆ ใจเราจะนิ่งจนลืมคำภาวนาไปเลย

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วหนูมีโอกาสไปปฏิบัติธรรมกับเพื่อน ๆ ร่วมรุ่นธรรมทายาทหญิง รุ่นที่ ๓๑ ที่สนแก้ววนาราม จ.เชียงใหม่ ตอนแรก ๆ  ที่นั่งสมาธิ ก็มืดตื้อ มืดมิด ไม่เห็นอะไร แต่ก็นั่งไปเรื่อย ๆ จากที่มืด ๆ สักพักหนึ่งก็เห็นแสงสว่างเป็นจุด ๆ เหมือนดาวประกาย สักพักหนึ่งจากที่เป็นประกายเหมือนดาวกระจายก็รวมเป็นจุดเดียวตรงกลาง และจากจุดเดียวนั้นก็เปล่งแสงสว่างมากขึ้น ๆ

พอนั่งไปเรื่อย ๆ ก็รู้สึกว่า ดวงแก้วขยายขึ้น ยิ่งนิ่งมากเท่าไรก็จะมีดวงแก้วอีกดวงหนึ่งผุดขึ้นมาจากตรงกลางแสงนั้น ผุดขึ้นมาเรื่อย ๆ ทีละดวง ๆ ยิ่งนิ่งเท่าไรก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้น และตรงจุดประกายเล็ก ๆ เห็นเป็นเหมือนสามเหลี่ยม ถ้าเราลุ้นมาก ๆ หรือใจเริ่มเขว คำภาวนา สัมมาอะระหังก็เริ่มผุดขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่หนูไม่ได้ สัมมาอะระหังเลย แค่นั่งนิ่ง ๆ ทีนี้ภาพที่เห็นเป็นสามเหลี่ยมนั้นก็ปรากฏชัดเป็นรูปองค์พระแก้วใสที่อยู่ตรงกลางของดวงแก้ว และดวงแก้วนั้นก็ค่อย ๆ ผุดขึ้นเรื่อย ๆ องค์พระก็ผุดตามมา คือผุดซ้อนกันมาเรื่อย ๆ ให้เราเห็น ให้เรามีความสุข

หนูรู้สึกมีความสุขมากจนลืมเวลาว่าเรานั่งไปนานเท่าไรแล้ว แล้วก็รู้สึกเหมือนร่างกายเราวื้ด ๆ แล้วก็ขยายแบบอธิบายไม่ถูก ขยายเหมือนมีพลังอยู่ข้างใน หลังจากนั้นประสบการณ์ใหม่ ๆ ก็เกิดขึ้น ยิ่งเรานั่งสมาธิมากขึ้น ใจเราก็นิ่งมากขึ้น เหมือนกับว่าเราจะรู้จังหวะของการวางใจว่า วางอย่างไรจะไม่เขว นั่งปุ๊บเราจะเริ่มสบาย นึกเรื่องสบายก่อน ประสบการณ์ภายในใหม่ ๆ ก็เริ่มเข้ามาเรื่อย ๆ โดยที่ไม่ได้ตั้งตัวมาก่อน บอกได้เลยว่าเป็นประสบการณ์ที่มีความสุขมาก ๆ ค่ะ

หายปวด หายป่วย ด้วย สัมมาอะระหัง”  
กัลฯ จำเนียร  บัวน้ำจืด
อดีตพยาบาลโรงพยาบาลรถไฟ กรุงเทพมหานคร

ดิฉันมีอาการปวดเอวแล้วร้าวไปที่ขา ปวดมากจนต้องไปหาหมอ หมอให้อยู่โรงพยาบาลเพื่อทำกายภาพบำบัด และสั่งยาคลายกล้ามเนื้อให้ทานเนื่องจากดิฉันเคยเรียนพยาบาลมา ก็พอจะรู้ว่ายาพวกนี้มีอันตราย ถ้าทานต่อเนื่องจะมีผลกับตับและไต เลยไม่อยากทาน นอกจากนี้หมอยังสั่งยาแก้ปวดให้ทานครั้งละ ๒ เม็ด



รุ่งขึ้นวันแรก หมอให้ไปทำกายภาพบำบัด ด้วยการอบความร้อนที่สะโพกและนวดโดยใช้ไฟฟ้า แต่เราก็ยังปวดอยู่ เวลาเดินต้องใช้ walker และเนื่องจากดิฉันอยู่ในห้องพิเศษคนเดียวก็เลยกลัว พอเกิดความกลัวก็เลยภาวนา สัมมาอะระหังและอธิษฐานกับหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยายว่า ช่วยลูกด้วยเถิด มันปวดแล้วก็นั่งภาวนา สัมมาอะระหัง ๆแต่เวลาปวดทำใจนิ่งไม่ได้ ยอมรับว่า ตัวเองภาวนา สัมมา อะระหังไม่ถึง ๕๐๐ ครั้ง พอหลุดไปก็จำไม่ได้แล้วว่าภาวนาถึงเท่าไร แต่ก็นั่ง สัมมาอะระหังไปเรื่อย ๆ อาราธนาบารมีหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยายว่า ช่วยลูกด้วย มันปวดแล้วก็นั่งไปเรื่อย ๆ

แรก ๆ ดิฉันก็ทำไปอย่างนั้นแหละ ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือเปล่า แต่ก็เชื่อมั่นบารมีครูบาอาจารย์จึงทำไปเรื่อย ๆ แต่หลัง ๆ พอง่วงก็ลงนอนหลับ อย่างสบาย ไม่ต้องทานยาอะไรเลย นอกจากยาหลังอาหารที่เขาจัดให้เพราะว่าพยาบาลเขาเอามาให้หลังอาหารทันทีเลย

รุ่งเช้าหมอมาดูรายงานของพยาบาล เห็นว่าดิฉันไม่ขอยาแก้ปวด หมอเลยถามว่า พี่ไม่ปวดเลยหรือ? ทำไมไม่ขอยาแก้ปวด?” ดิฉันบอกว่า ทำสมาธิหมอก็บอกว่า อ้าว! พี่ปวดเข่า ปวดสะโพก นั่งสมาธิได้อย่างไรดิฉันเลยนั่งให้เขาดู หมอคิดอย่างไรไม่รู้ แต่ดิฉันก็ทำไปเรื่อย ๆ ว่างเมื่อไรก็ทำ ระหว่างที่อยู่โรงพยาบาลภาวนาได้วันละ ๔,๐๐๐ กว่า ถึง ๕,๐๐๐ กว่าครั้ง จนกระทั่งกลับบ้านก็ไม่ต้องทานยาแก้ปวดเลย อยากชวนทุกคนมาภาวนา สัมมาอะระหังเพราะจะทำให้เราสุขภาพแข็งแรง สร้างบารมีกันไปได้นาน ๆ อย่างที่หลวงพ่อบอก และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การภาวนา  สัมมาอะระหังดีที่สุด...

หลวงพ่อธัมมชโย เมตตาแสดงพระธรรมเทศนาเอาไว้ว่า คำภาวนา สัมมาอะระหังเป็นพุทธานุสติ สัมมาแปลว่า ชอบหรือถูกต้อง  อะระหังหมายถึง  พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ผู้ห่างไกลจากกิเลสอาสวะ  สัมมาอะระหังจึงหมายถึงการส่งใจไปถึงพระพุทธเจ้าผู้ห่างไกลแล้วจากกิเลส ผู้ตรัสรู้แล้วเองโดยชอบ  การส่งใจไปถึงองค์พระแก้วใส และบริกรรมภาวนาว่า สัมมาอะระหังอยู่เสมอ จะทำให้เราเข้าถึงพระธรรมกายภายใน มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งอย่างแท้จริง เมื่อใดที่เราปรารถนาความสุข พึงระลึกถึงพุทธคุณเมื่อนั้น ระลึกถึงเพียงหนึ่งนาที ย่อมเป็นนาทีทองแห่งความสุข นาทีแห่งบุญกุศล ระลึกถึงหนึ่งชั่วโมง ก็มีความสุขตลอดหนึ่งชั่วโมง  ถ้าหากระลึกถึงอยู่ตลอดเวลา ก็จะมีความสุขตลอดเวลา เป็นสุขทุกทิวาราตรีกาล เพราะฉะนั้นให้ยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึก ด้วยการฝึกฝนใจให้หยุดนิ่ง ทำตามหลักที่หลวงปู่วัดปากนํ้าท่านสอนไว้ แล้วเราจะได้เข้าถึงพระรัตนตรัยกันทุก ๆ คน

ดังนั้น ในพรรษานี้พวกเราจะต้องยึดถือปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อ โดยหมั่นเจริญภาวนา สัมมาอะระหังให้ได้ตลอดเวลา อย่าให้บุญตกหล่นเลยแม้สักนาทีเดียว..

Cr. พระปลัดบริบูรณ์ ธมฺมวิชฺโช
วารสารอยู่ในบุญ  ฉบับที่ ๑๔๓  เดือนกันยายน  พ.ศ. ๒๕๕๗   


“สัมมาอะระหัง” นี่สิเป็นทางมรรคผล ฯ
                           
                           ชีวิตราบรื่น ค้าขายร่ำรวย ด้วยการภาวนา ฯ 




คลิกอ่านอานุภาพสัมมาอะระหังของวารสารอยู่ในบุญปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
สัมมาอะระหัง ศักดิ์สิทธิ์นัก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
“สัมมาอะระหัง” ดีอย่างไร พิสูจน์ได้ด้วยตนเอง
ภาวนา พาสุขใจ
ลมหายใจมีคุณค่า ด้วย “สัมมาอะระหัง”

“สัมมาอะระหัง” ดีจริง ๆ
“สัมมาอะระหัง” จิตใจสบาย ค้าขายดี
แก้ปัญหาด้วยการภาวนา “สัมมาอะระหัง” แก้ปัญหาด้วยการภาวนา “สัมมาอะระหัง” Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 22:41 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.