“สัมมาอะระหัง” นี่สิเป็นทางมรรคผล เพราะไปนิพพานได้
คุณครูไม่ใหญ่เคยเล่าว่า
ในสมัยที่พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ยังมีชีวิตอยู่
สมัยนั้นหลวงพ่อวัดลำพญาท่านเป็นเด็กวัด อายุ ๑๒ ขวบ มีหน้าที่ช่วยหลวงปู่รับแขก
วันหนึ่งมีพระธุดงค์ ๓ รูป ห่มจีวรสีกรักออกมาจากป่า
มาขอเรียนวิชาไสยเวทจากหลวงปู่ และขอร้องให้หลวงปู่แสดงวิชาให้ดู
หลวงปู่ท่านเลยปั้นตุ๊กตาดินเหนียว ๒ ตัว วางไว้ห่าง ๆ กัน
ซึ่งปกติแล้วเวลาปั้นเสร็จ จอมขมังเวททั่วไปจะต้องท่องคาถาหรือเสกก่อน
ตุ๊กตาถึงจะขยับได้ แต่สำหรับหลวงปู่ ท่านแค่มองเฉย
ๆ ไม่ต้องเสก ไม่ต้องเป่า แต่จู่ ๆ ตุ๊กตาดินเหนียวก็พุ่งเข้าชนกัน จากนั้นหลวงปู่ก็สาธิตวิธีการทำนะหน้าทอง
หลักการของวิชานี้ก็คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้แผ่นทองคำเปลวเข้าไปอยู่ในร่างกายมนุษย์
ซึ่งส่วนมากเขาจะเสกให้ไปอยู่ที่กระหม่อมและตามส่วนต่าง ๆ ของใบหน้า
พอเสกเข้าไปแล้ว แผ่นทองนี้จะอยู่ในร่างกายไปจนตาย ในการเสกนั้น พวกที่มีอาคมแก่ในระดับเทพ
แค่เอาแผ่นทองคำเปลวที่ยังไม่ได้ลอกกระดาษหุ้มวางไว้ที่มือตามจำนวนที่ต้องการ
แล้วเสกคาถา เป่าทีเดียวทองก็จะเข้าไปในร่างกายคนทันที
แต่ถ้าเป็นพวกที่อาคมแก่กล้าสุด ๆ จะสามารถเป่าให้ทองเข้าไปติดกะโหลกมาตั้งแต่เกิด
และจะติดไปจนตาย เวลาเอาศพไปเผา กะโหลกจะไม่ไหม้ และจะเป็นสีทอง
แต่การทำนะหน้าทองของหลวงปู่นั้น
ท่านเริ่มจากการไม่มีทองคำเปลวเลยสักแผ่น
ท่านให้หลวงพ่อวัดลำพญาวิ่งไปเอาผ้าอาบน้ำฝนที่ตากไว้ที่ราวมาให้ แล้วเอาผ้าอาบน้ำฝนลูบขึ้นไปบนหน้าของท่าน
พอเอาผ้าออก หน้าท่านกลายเป็นทองสุกปลั่งทั้งใบหน้า และพอท่านเอาผ้าลูบลง
หน้าทองนั้นก็หายไป พอพระธุดงค์ทั้ง ๓ รูป
เห็นหลวงปู่ทำนะหน้าทองได้โดยไม่ต้องใช้แผ่นทองคำเปลวเหมือนปรมาจารย์ท่านอื่น ก็เลยรีบก้มกราบหลวงปู่กันยกใหญ่ และขอเรียนวิชา
แต่หลวงปู่ท่านไม่สอน ท่านบอกว่า “อย่าเลย เรียนแล้วมันไปเพิ่มกิเลส ไม่ใช่วิชชาของพระพุทธเจ้า
เรียนแล้วก็ไปนิพพานไม่ได้ แต่ ‘สัมมาอะระหัง’ นี่สิเป็นทางมรรคผล เพราะไปนิพพานได้”
เรื่องราวดังกล่าวเป็นสิ่งยืนยันคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงปู่ว่า
การภาวนา “สัมมาอะระหัง” นั้น “ศักดิ์สิทธิ์และมีความสำคัญ” จริง ๆ และแม้ในปัจจุบัน การภาวนา “สัมมาอะระหัง” ก็ยังคงสร้างความอัศจรรย์ให้บังเกิดขึ้นแก่ผู้ประพฤติปฏิบัติตลอดมา
ดังเรื่องราวของผู้มีบุญต่อไปนี้...
พระธวัชชัย
ญาณสนฺโต
ศูนย์อบรมเยาวชนวัดส่องแดด
จังหวัดอุตรดิตถ์
เริ่มแรกหลวงพี่นั่งสมาธิไม่ค่อยได้
เคยลองภาวนา “สัมมาอะระหัง” แต่ภาวนาได้ไม่ถึง ๑๐๐ ครั้ง
ก็หลับบ้าง ง่วงบ้าง ต่อมาได้ดู DMC พอดีพระอาจารย์ปรเมษฐ์ท่านเล่าถึงญาติโยมที่ภาวนา
“สัมมาอะระหัง” แล้วมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี
ก็เลยนึกว่า โยมทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้ แค่
“สัมมาอะระหัง” วันละ ๕๐๐ ครั้ง เท่านั้น
หลังจากนั้นจึงลองดู
เริ่มแรกภาวนาไป ๒๐๐ ครั้ง รู้สึกว่าตัวโล่ง โปร่ง เบาสบาย แต่ก็ยังเผลอหลับไป
วันต่อมาเริ่มภาวนาใหม่ “สัมมาอะระหัง ๆ ๆ” ถึง ๔๐๐ ครั้ง รู้สึกว่าตัวลอย ตอนนั้นตกใจมาก ก็เลยลืมตาขึ้นมา
พระอาจารย์ท่านให้นั่งและภาวนา “สัมมา
ะระหัง” ใหม่อีกครั้ง พอภาวนา “สัมมาอะระหัง” ไปถึง ๕๐๐ ครั้งแล้ว
รู้สึกว่าตัวเราหายไป แล้วก็โล่ง โปร่ง เบาสบาย เหมือนไร้น้ำหนัก
จิตก็นิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกาย
พอลองกับตัวเองได้ผล ก็เลยบอกคนข้าง ๆ
และโทร.ไปบอกโยมแม่ว่า “พระอาจารย์ท่านเปิด VCD เรื่องการภาวนา “สัมมาอะระหัง” ให้ดู ภาวนาแล้วเพลี้ยไม่ลงนาข้าว” พอดีที่บ้านทำนาอยู่ประมาณ ๑๐ กว่าไร่
โยมแม่ก็เลยลองภาวนา “สัมมาอะระหัง” บ้าง แรก ๆ
ก็ไม่ค่อยเชื่อว่าภาวนาแล้วจะช่วยได้จริง แต่ก็ภาวนาไปเรื่อย
ๆ ดูแล้วข้าวก็ไม่น่าจะได้ผลดี ทุกปีได้ประมาณ ๓-๔ เกวียน แต่พอได้ภาวนา “สัมมาอะระหัง” ไม่รู้ผลผลิตเพิ่มมาเป็น ๖ เกวียน
ได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ปีนี้ไม่ค่อยมีน้ำด้วย อัศจรรย์มาก โยมพ่อโยมแม่ปลื้มมาก
พอได้ผลดี
หลวงพี่ก็ลองไปบอกแม่ค้าที่ขายข้าวแกงที่จังหวัดนครสวรรค์ ที่รู้จักกันตอนเป็นโยม
เขาบอกว่า ขายข้าวแกงไม่ดีเลย หลวงพี่บอกให้เขาท่อง “สัมมาอะระหัง” วันละ ๕๐๐ ครั้ง
และบอกว่าหลายคนเขาลองมาแล้วได้ผล ตอนนั้นหลวงพี่มีโปสเตอร์รูปหลวงปู่นั่งบนเทวรถ
ที่มีคำว่า “สัมมาอะระหัง” อยู่ ก็เลยให้เขาติดที่หน้าร้าน
โยมเขาก็ภาวนาไปเรื่อย ๆ แค่ครึ่งชั่วโมง ยังไม่ทันคุยกันรู้เรื่องเลย
ลูกค้าเข้ามาเต็มร้าน นี่คือ อานุภาพ “สัมมาอะระหัง”
ที่หลวงพี่เจอมา
ก็เลยอยากให้ทุกคนได้ลองภาวนากัน
คุณกรเดช
จันทรัตน์
จังหวัดกำแพงเพชร
ตอนแรกผมไม่รู้ว่าอานุภาพของ “สัมมาอะระหัง” ดีอย่างไร แต่พอได้ปฏิบัติไปนิดหน่อยก็เริ่มทึ่งว่า
ทำไมมีอานุภาพเยอะจัง และเมื่อได้ยินพระอาจารย์ท่านมาเล่าให้ฟังก็มีศรัทธาแรงขึ้น
จึงนำไปเล่าให้ลูกสาวฟัง ลูกสาวก็ได้พบประสบการณ์ดี ๆ เขาบอกว่า เวลานั่งสมาธิ
ภาวนา “สัมมาอะระหัง” ไปเพียง ๒๕๐ ครั้ง รู้สึกว่าตัวลอย
แต่ของผมภาวนาได้วันละเช้า ๕๐๐ ครั้ง เย็นอีก ๕๐๐ ครั้ง
ตั้งแต่ผมภาวนา “สัมมาอะระหัง” มานี้ อานุภาพก็เกิดขึ้นเรื่อย ๆ
ผมก็เลยมั่นใจมาก และเอาไปแนะนำคนทั่วไป ตอนที่ผมไปคุยงานที่พัทยา
ผมไปเจอร้านก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่งที่กำลังจะเจ๊ง ผมเลยบอกให้คนขายลองภาวนา“สัมมาอะระหัง” หลังจากนั้นพอผมย้อนกลับไปอีกที
เขาบอกว่า “ผมขายของดีน่าดูเลย ตอนนี้ผมไม่ต้องย้ายแล้ว”
อีกรายอยู่ที่อำเภอขาณุ (ขาณุวรลักษบุรี)
เป็นพ่อค้าขายกาแฟที่ตลาดนัด ตอนแรกขายไม่ค่อยได้
ผมเลยบอกว่าให้ภาวนา “สัมมาอะระหัง” อย่างเดียวเลย แล้วจะมีเงินเยอะ
กำไรก็ดี รสชาติอร่อย ตอนนี้เขามาบอกผมว่าขายดีแล้ว และมีเงินเก็บด้วย
เราก็เลยบอกให้ภาวนาไปเรื่อย ๆ กิจการจะดีทำอะไรก็จะสำเร็จอย่างอัศจรรย์
เมื่อปรากฏอย่างชัดเจนแล้วว่า การภาวนา “สัมมาอะระหัง” เพื่อยังจิตใจของเราให้สะอาดบริสุทธิ์
ผ่องใส ดียิ่งถึงเพียงนี้ เราจึงไม่ควรรอรีในการภาวนา “สัมมาอะระหัง” แม้แต่สักวินาทีเลย
ดังนั้นนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป เรามาเริ่มภาวนา “สัมมาอะระหัง ๆ ๆ”..และวางใจนิ่ง ๆ เบา ๆ สบายๆ
ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ กันดีกว่า..
Cr. พระปลัดบริบูรณ์ ธมฺมวิชฺโช
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๔๒
เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
คลิกอ่านอานุภาพสัมมาอะระหังของวารสารอยู่ในบุญปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
สัมมาอะระหัง ศักดิ์สิทธิ์นัก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
“สัมมาอะระหัง” ดีอย่างไร พิสูจน์ได้ด้วยตนเอง
ภาวนา พาสุขใจ
ลมหายใจมีคุณค่า ด้วย “สัมมาอะระหัง”
“สัมมาอะระหัง” ดีจริง ๆ
“สัมมาอะระหัง” จิตใจสบาย ค้าขายดี
แก้ปัญหาด้วยการภาวนา “สัมมาอะระหัง”
ชีวิตราบรื่น ค้าขายร่ำรวย ด้วยการภาวนา “สัมมาอะระหัง”
“สัมมาอะระหัง” คือ เนื้อมนต์วิเศษโดยแท้
จะเกิดอะไรก็ช่าง ท่อง “สัมมาอะระหัง” อย่างเดียว
“สัมมาอะระหัง” ดีจริง ๆ |
แก้ปัญหาด้วยการภาวนา “สัมมาอะระหัง” |
คลิกอ่านอานุภาพสัมมาอะระหังของวารสารอยู่ในบุญปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
สัมมาอะระหัง ศักดิ์สิทธิ์นัก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
“สัมมาอะระหัง” ดีอย่างไร พิสูจน์ได้ด้วยตนเอง
ภาวนา พาสุขใจ
ลมหายใจมีคุณค่า ด้วย “สัมมาอะระหัง”
“สัมมาอะระหัง” ดีจริง ๆ
“สัมมาอะระหัง” จิตใจสบาย ค้าขายดี
แก้ปัญหาด้วยการภาวนา “สัมมาอะระหัง”
ชีวิตราบรื่น ค้าขายร่ำรวย ด้วยการภาวนา “สัมมาอะระหัง”
“สัมมาอะระหัง” คือ เนื้อมนต์วิเศษโดยแท้
จะเกิดอะไรก็ช่าง ท่อง “สัมมาอะระหัง” อย่างเดียว
“สัมมาอะระหัง” นี่สิเป็นทางมรรคผล เพราะไปนิพพานได้
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
00:36
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: