เวมานิกเปรตผู้โดดเดี่ยว
“บัณฑิตไม่ควรทำความชั่ว เพราะเห็นแก่ตัวเอง
หรือเห็นแก่คนอื่น
ไม่ควรปรารถนาบุตร ทรัพย์ แว่นแคว้น
หรือความสำเร็จแก่ตนโดยทางที่ไม่ชอบธรรม
ควรมีศีล มีปัญญา มั่นอยู่ในธรรม” (ขุ.ธ.)
เมื่อพระบรมศาสดาประทับอยู่ ณ เชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภอดีตหญิงโสเภณีคนหนึ่งที่ประพฤติผิดศีลแทบทุกข้อ
แต่มีบุญที่ได้ทำทานกับพระอรหันต์ไว้บ้าง
จึงทำให้ไปบังเกิดเป็นเวมานิกเปรต เปลือยกายอยู่โดดเดี่ยวท่ามกลางมหาสมุทร เรื่องของนางก็มีอยู่ว่า
ครั้งอดีตกาลในกรุงพาราณสี เธอเป็นหญิงโสเภณีผู้มีรูปงาม น่าดู น่าชม
มีผิวพรรณงดงามกว่าหญิงโสเภณีคนอื่น ๆ ยิ่งกว่านั้น เธอยังมีเส้นผมที่ละเอียด ดกดำ อ่อนนุ่ม
มีปลายผมตวัดงอน ยามใดที่ชายหนุ่มเจ้าสำราญทั้งหลายเห็นความงามเส้นผมของเธอ
ต่างก็เกิดหลงใหลถวิลหา ทำให้หญิงโสเภณีด้วยกันเกิดอิจฉาริษยาในตัวเธอยิ่งนัก
วันหนึ่ง ขณะอาบน้ำในแม่น้ำคงคา
เธอสระผมด้วยยาสระผมของเพื่อนผู้ไม่ปรารถนาดีต่อเธอ
เมื่อเธอดำน้ำเพื่อล้างยาสระผมออก ทันทีที่โผล่พ้นผิวน้ำเท่านั้น เส้นผมพร้อมทั้งรากผมก็หลุดร่วงทั้งหมด
ทำให้ศีรษะของเธอเกลี้ยงเกลาเหมือนกะโหลกน้ำเต้าขม เมื่อเส้นผมร่วงหมดก็หมดความงาม เหมือนนกพิราบถูกถอนขนหัว
ไม่สามารถประกอบอาชีพโสเภณีได้อีกต่อไป เธอจำต้องนำผ้ามาคลุมศีรษะ แล้วหันมาขายสุราและน้ำมันงาแทนอาชีพเดิม
โดยตั้งร้านอยู่ที่ปากทางเข้าเมือง นอกจากจะทำบาปด้วยการขายสุราเมรัยแล้ว
เธอยังประพฤติผิดศีลข้ออทินนาทาน คือ
จะขโมยเสื้อผ้าและของมีค่าของคนขี้เมาที่เมาได้ที่ จนหลับสนิท แล้วนำไปขายเป็นประจำ
อย่างไรก็ตามชีวิตของเธอก็ไม่ได้มืดมนไปทุกอย่าง
วันหนึ่ง เธอได้เห็นพระอรหันตเถระรูปหนึ่งบิณฑบาตผ่านมา จึงนิมนต์ท่านเข้ามาในบ้านด้วยความเลื่อมใส
พร้อมกับถวายแป้งผสมกับน้ำมันงา หลังจากพระเถระฉันเสร็จแล้วได้ทำการอนุโมทนา
ขณะเดียวกันก็แนะนำให้เธอเลิกอาชีพขายเหล้าเพราะเป็นมิจฉาอาชีวะ
การขายเหล้าเพื่อมอมเมาคนอื่น นอกจากทำให้ตัวเองได้บาปและจะต้องไปตกนรกแล้ว วิบากกรรมที่ตามมายังส่งผลให้เป็นคนด้อยปัญญา
แต่เธอก็ยังเลิกไม่ได้ โดยอ้างเหตุผลว่ายังหาอาชีพอื่นไม่ได้
ต่อมา เมื่อเธอถึงแก่กรรม บุญส่งผลให้ไปเกิดเป็นเวมานิกเปรตผู้โดดเดี่ยวอยู่ในวิมานทองกลางมหาสมุทร
มีเส้นผมสวยงามสมปรารถนา แต่ด้วยบาปกรรมที่ลักขโมยเสื้อผ้าและของมีค่าของคนขี้เมา
ส่งผลให้เธอต้องเป็นเปรตชีเปลือย ไม่มีภูษาอาภรณ์สวมใส่ เธอต้องตายแล้วเกิด ๆ
อยู่อย่างนั้นหลายครั้ง ในวิมานทองแห่งนั้นตลอดถึง ๑ พุทธันดร
เมื่อถึงสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา มีพ่อค้าชาวเมืองสาวัตถี
๗๐๐ คน ล่องเรือไปค้าขายที่สุวรรณภูมิ แล้วถูกพายุพัดพาไปถึงเกาะกลางทะเล
ซึ่งเป็นที่อยู่ของนางเวมานิกเปรตผู้โดดเดี่ยวนั้น เมื่อเปรตหญิงชีเปลือยเห็นพวกพ่อค้าซึ่งถูกพายุพัดมาถึงที่ ก็ตื่นเต้นดีใจและแสดงตนให้พวกพ่อค้าเห็นพร้อมด้วยวิมาน หัวหน้าพ่อค้าถามว่า “น้องสาว เธอเป็นใครกัน
เป็นมนุษย์หรือเทพธิดา ทำไมหลบอยู่ ไม่ยอมออกมาให้พวกเราเห็น
ช่วยเดินออกมาข้างนอกหน่อยเถอะ พวกเราอยากเห็นเธอใกล้ ๆ”
นางเวมานิกเปรตได้แต่ยื่นหน้าออกมาพลางตอบว่า “ดิฉันเป็นเวมานิกเปรตชีเปลือย มีเพียงเส้นผมปิดบังไว้เท่านั้น
รู้สึกละอายที่จะออกไปข้างนอก” พวกพ่อค้าได้ฟังแล้วก็สงสาร
จึงกล่าวว่า “น้องสาว
ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะให้เสื้อผ้าเนื้อดีแก่เธอ” เธอรีบปฏิเสธว่า “พวกท่านให้เสื้อผ้าอย่างนี้ ดิฉันนุ่งห่มไม่ได้ ขอเพียงท่านให้เสื้อผ้าแก่อุบาสกที่เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า
แล้วอุทิศส่วนกุศลมาให้ ดิฉันก็จะได้นุ่งห่มเสื้อผ้าตามที่พวกท่านปรารถนา”
เผอิญในขบวนพ่อค้ากลุ่มนี้ มีพ่อค้าผู้เป็นอุบาสกนับถือพระรัตนตรัยร่วมทางมาด้วย
พวกพ่อค้าจึงให้อุบาสกอาบน้ำ ทาด้วยของหอม แล้วให้นุ่งห่มเสื้อผ้าเนื้อดี
พร้อมกับอุทิศส่วนกุศลเจาะจงให้กับนาง
ทำให้โภชนะเครื่องนุ่งห่มเกิดขึ้นกับนางอย่างปัจจุบันทันตาเห็น นางมีร่างกายงดงามสว่างไสว
พร้อมนุ่งห่มผ้าที่สะอาด เนื้อละเอียดงดงาม เดินยิ้มแย้มออกมาจากวิมานทันที
พวกพ่อค้าเห็นเช่นนั้น ก็ปีติเบิกบานที่ได้ช่วยเหลือนางเวมานิกเปรต และสนทนากับนางด้วยจิตยินดี นางเวมานิกเปรตถือโอกาสเล่าเรื่องในอดีตด้วยความระทมทุกข์ว่า “วิมานและรูปสมบัตินี้เป็นผลบุญนิดหน่อยที่ดิฉันทำไว้กับพระเถระ
แต่อีก ๔ เดือนจากนี้ ผลบุญก็จะหมดแล้ว
จากนั้นดิฉันจะตกนรกหมกไหม้แสนสาหัสเหมือนอยู่ในคุกสี่เหลี่ยมที่แบ่งเป็นห้อง ๆ
ล้อมด้วยกำแพงเหล็ก ครอบด้วยแผ่นเหล็กที่มีพื้นลุกเป็นไฟ ซึ่งมีความร้อนแผ่ไปถึง
๑๐๐ โยชน์ ดิฉันจะต้องเสวยทุกขเวทนาในนรกอีกนาน
ดิฉันเป็นทุกข์เหลือเกิน
ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงจะพ้นจากทุกข์นี้ไปได้”
การที่นางเคยหลงทำผิดไปนั้น
เพราะไม่เชื่อคำแนะนำของพระเถระ ทำให้ต้องดำเนินชีวิตผิดพลาด ชีวิตจึงมืดมน เหมือนคนเดินหลงทางในความมืด ครั้นมาเชื่อตอนตายก็สายไปเสียแล้ว
พวกพ่อค้ารู้สึกสงสารนางมาก จึงพูดขึ้นว่า “แค่พวกเราทำบุญกับอุบาสก แล้วอุทิศส่วนกุศลให้กับเธอ
ยังส่งผลทันตาเห็นขนาดนี้ แต่ถ้าหากเธอได้ทำบุญกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เธอก็ไม่ต้องไปอบายอย่างแน่นอน ขอให้เธอทำจิตให้เลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นที่พึ่งของเราทั้งหลายเถิด”
นางเวมานิกเปรตดีใจมากที่ยังพอมองเห็นทางรอดจากมหานรกอยู่บ้าง นางจึงส่งใจนอบน้อมถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
อีกทั้งให้อุบาสกและพ่อค้ารับประทานอาหารทิพย์อย่างอิ่มหนำสำราญ
แล้วก็มอบผ้าทิพย์และรัตนชาติหลากชนิดให้แก่พวกพ่อค้าด้วย อีกทั้งยังฝากผ้าทิพย์คู่หนึ่งให้นำไปถวายพระบรมศาสดา
จากนั้นก็ใช้ฤทธานุภาพของนางส่งพวกพ่อค้ากลับบ้านโดยสวัสดิภาพ
เมื่อพ่อค้ากลับถึงบ้านแล้ว ก็รีบไปยังวัดพระเชตวัน
เพื่อถวายผ้าทิพย์คู่นั้นแด่พระพุทธองค์
พร้อมกับกราบทูลเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น จากนั้นร่วมกันถวายมหาทานถึง ๗ วัน เพื่ออุทิศส่วนกุศลเจาะจงถึงเวมานิกเปรตผู้เป็นเจ้าของทรัพย์
ด้วยผลบุญดังกล่าวทำให้นางละจากความเป็นเปรตไปบังเกิดในวิมานทองของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อันโชติช่วงไปด้วยรัตนะต่าง
ๆ และมีนางเทพอัปสรหนึ่งพันเป็นบริวาร
จะเห็นได้ว่า บุญเท่านั้นเป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์
คนมีศีล มีธรรม จะเป็นเจ้าของสมบัติ แต่คนผู้ไร้ศีลจะสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง
โทษทัณฑ์แห่งการผิดศีลจะทำลายความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต และทำให้ประสบแต่ความทุกข์ยาก
ความตกต่ำเรื่อยไป หากทุกคนในโลกมีหิริโอตตัปปะก็จะไม่มีใครกล้าทำผิด
ยิ่งถ้าได้รู้ถึงความหายนะที่จะตามมาก็จะไม่กล้าทำชั่ว แต่เพราะความไม่รู้หรือประมาทในชีวิต
เนื่องจากตามใจกิเลสจนเคย ทำให้ล่วงละเมิดศีลเป็นอาจิณ
เพราะฉะนั้น เราต้องตั้งสติให้ดี
อย่าทำลายศีลของตนเอง ต้องรู้จักอดทนอดกลั้น อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
อย่าเห็นแก่เงินทอง ลาภ ยศ สรรเสริญ ที่ไม่จีรังยั่งยืน ถ้าเรารักษาศีล
ศีลก็จะรักษาเรา อย่าลืมว่าความทุกข์ในโลกนี้มีไม่นาน แต่เราจะไปเสวยสุขในปรโลกอีกยาวนาน คือ
จะได้สมบัติใหญ่ ทั้งสวรรค์สมบัติ และนิพพานสมบัตินั่นเอง..
Cr. พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ.๙ / พระมหาวิริยะ ธมฺมสารี
ป.ธ.๙
ภาพประกอบ
: กองพุทธศิลป์
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๔๕
เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๗
คลิกอ่านกุศลกรรมบถ ๑๐ ของวารสารอยู่ในบุญปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
กุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ
เหตุแห่งความมีอายุยืน
กุศลกรรมบถ ศีล..มารดาแห่งความดี
บ่อเกิดแห่งความสุข
วิรัติวัดศีล
ศีล..สะพานข้ามสู่เทวโลก
ศีลศัลยกรรม
ศีลธรรม-มนุษยธรรม
สะอาดกาย สะอาดใจ
กลิ่นศีล กลิ่นธรรม
น้ำมหาประลัย
กลิ่นศีล กลิ่นธรรม |
น้ำมหาประลัย |
กุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ
เหตุแห่งความมีอายุยืน
กุศลกรรมบถ ศีล..มารดาแห่งความดี
บ่อเกิดแห่งความสุข
วิรัติวัดศีล
ศีล..สะพานข้ามสู่เทวโลก
ศีลศัลยกรรม
ศีลธรรม-มนุษยธรรม
สะอาดกาย สะอาดใจ
กลิ่นศีล กลิ่นธรรม
น้ำมหาประลัย
เวมานิกเปรตผู้โดดเดี่ยว
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
18:40
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: