รู้จักมนุษย์ในจักรวาลวิทยา
มนุษย์มาจากคำว่า “มน” (อ่านว่า
มะนะ) แปลว่า ใจ รวมกับคำว่า อุษย์
หรือ อุตม (อุดม) แปลว่า สูง มนุษย์จึงหมายถึง ผู้มีใจสูง ใจรุ่งเรือง
และกล้าแข็ง ภพภูมิมนุษย์จัดเป็นภูมิหนึ่งใน
๓๑ ภูมิ หรือหากจัดอยู่ในภพสาม มนุษย์ก็อยู่ในกามภพ
อันเป็นที่เกิดของผู้ที่ยังเกี่ยวข้องอยู่ในกาม
ภพนี้เป็นภพของผู้ที่ยังมีความใคร่ ความอยาก ความพึงพอใจอยู่ในจิตใจ
ซึ่งภูมิที่อยู่ในภพนี้มีทั้งหมด ๑๑ ภูมิ ได้แก่ มนุสสภูมิ ๑ อบายภูมิ ๔ และเทวภูมิ ๖
มนุสสภูมิ คือ โลกซึ่งเป็นที่อาศัยของสัตว์ผู้มีใจสูง
จัดเป็นภูมิที่เป็นศูนย์กลางของการสร้างบุญและบาป
เป็นกลไกสำคัญในการนำสัตว์ทั้งหลายไปเกิดในภูมิฝ่ายสุคติและทุคติ
ซึ่งเป็นที่เสวยผลบุญและบาป
ตามหลักจักรวาลวิทยาในพระพุทธศาสนา
ที่อยู่ของมนุษย์หรือมนุสสภูมิอยู่บนพื้นดินในระดับเดียวกับไหล่เขาพระสุเมรุ
ตั้งอยู่ทั้ง ๔ ทิศ ของเขาพระสุเมรุซึ่งเป็นแกนกลางของจักรวาล ผืนแผ่นดินใหญ่ทั้ง
๔ เรียกว่า “ทวีป” มีชื่อว่า ปุพพวิเทหทวีป อปรโคยานทวีป อุตตรกุรุทวีป และชมพูทวีป
ที่ตั้งของโลกมนุษย์ทั้ง ๔ ทวีป มีดังนี้
๑.
ปุพพวิเทหทวีป อยู่ตรงกับไหล่เขาด้านทิศตะวันออก
มีพื้นเป็นเงิน แสงสีเงินสะท้อนไปยังทวีปซีกนั้น
๒.
อปรโคยานทวีป อยู่ตรงกับไหล่เขาทางด้านทิศตะวันตก
มีพื้นเป็นแก้วผลึก แสงใส ๆ สะท้อนไปยังทวีปซีกนั้น
๓.
อุตตรกุรุทวีป อยู่ตรงกับไหล่เขาด้านทิศเหนือ
มีพื้นเป็นทองคำ แสงสีทองสะท้อนไปยังทวีปซีกนั้น
๔.
ชมพูทวีป อยู่ตรงกับไหล่เขาด้านทิศใต้
มีพื้นเป็นมรกต แสงสีเขียวสะท้อนไปยังทวีปซีกนั้น
เพราะเหตุนี้ ในทวีปทั้งสี่จึงมีสีของต้นไม้ ใบไม้ น้ำในทะเล
มหาสมุทร ท้องฟ้า ตามสีของรัตนะที่ไหล่เขาพระสุเมรุสะท้อนแสง แต่ละทวีปมีทวีปน้อย
๕๐๐ ทวีป เป็นบริวาร คนที่อาศัยอยู่ในทวีปน้อยมีความเป็นไปต่าง ๆ
ตามผู้คนที่อยู่ในทวีปใหญ่
รูปใบหน้าของมนุษย์มีลักษณะตามสัณฐานของทวีป
มนุษย์ในทวีปทั้งสี่
เมื่อกล่าวโดยรวมมีรูปร่าง สัณฐาน
และหน้าตา อยู่ในลักษณะเดียวกัน ต่างกันตรงขนาด ความได้ส่วนสัด
และความประณีตสวยงาม เช่น มนุษย์ในชมพูทวีปมีใบหน้ารูปไข่ มนุษย์ในอปรโคยานทวีปมีใบหน้ากลมเหมือนดวงจันทร์วันเพ็ญ
มนุษย์ในปุพพวิเทหทวีปมีใบหน้าเหมือนมะนาวตัดหรือพระจันทร์ครึ่งซีกส่วนมนุษย์ในอุตตรกุรุทวีปมีใบหน้าเป็นรูปสี่เหลี่ยม
(รูปหน้าของมนุษย์ทวีปใดก็จะมีลักษณะเหมือนสัณฐานของทวีปนั้น)
มนุษย์ในชมพูทวีปมีความสวยงามและแตกต่างกันมากมายตามแต่กุศลและอกุศลที่เจ้าตัวกระทำไว้มาให้ผลส่วนมนุษย์ในทวีปอื่นอีก ๓ ทวีป
ความสวยงามของผู้คนไม่แตกต่างกัน เนื่องจากมีคุณธรรมในจิตใจเสมอเหมือนกันโดยทั่วไป
คุณสมบัติ ๓ ประการ ที่คนในชมพูทวีปประเสริฐกว่าคนในทวีปอื่นและเทวดาชั้นดาวดึงส์
คือ
๑.
สูรภาวะ มีจิตใจกล้าแข็งในการกระทำความดี
เช่น บำเพ็ญทาน รักษาศีล เจริญภาวนา
๒.
สติมันตะ มีสติตั้งมั่นในคุณพระรัตนตรัย
๓.
พรหมจริยวาส สามารถประพฤติพรหมจรรย์
คือบวชได้
นอกจากนี้คนในชมพูทวีปยังมีลักษณะพิเศษ
๔ ประการ ที่ประเสริฐกว่าคนในทวีปอื่นอีก คือ
๑.
มีจิตใจกล้าแข็ง ทั้งในด้านประกอบกรรมดีและกรรมชั่ว
ทางฝ่ายดีนั้นสามารถปฏิบัติตนให้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า
พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอัครสาวก พระสาวก
พระเจ้าจักรพรรดิ เป็นต้น ฝ่ายชั่วก็สามารถกระทำได้ถึงขั้นฆ่ามารดา ฆ่าบิดา
ฆ่าพระอรหันต์ ทำโลหิตุปบาท ทำสังฆเภท เป็นต้น ซึ่งคนในอีก ๓ ทวีป ไม่สามารถกระทำกล้าแข็งได้ถึงเพียงนี้
๒.
มีความเข้าใจในสิ่งที่เป็นเหตุ ทั้งที่สมควรและไม่สมควร รู้จักพิจารณาหาเหตุที่ทำให้เกิดสิ่งต่าง
ๆ เป็นอย่าง ๆ ได้ ทั้งฝ่ายที่เป็นนามธรรมและรูปธรรม
๓. มีความเข้าใจในสิ่งที่มีประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ รู้จักทั้งโลกิยประโยชน์ และโลกุตรประโยชน์ โลกิยประโยชน์ ได้แก่ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข
มนุษยสมบัติ เทวสมบัติ เป็นต้น โลกุตรประโยชน์ ได้แก่ การบรรลุมรรค ผล นิพพาน ส่วนความเข้าใจจะลึกซึ้งมากน้อยระดับใด
ขึ้นอยู่กับศรัทธา วิริยะ ปัญญา บารมี และการคบหาสมาคม
๔.
มีความเข้าใจในสิ่งที่เป็นกุศลและอกุศล ทั้งโลกิยกุศลและโลกุตรกุศล ฝ่ายกุศล ได้แก่ ทาน
ศีล ภาวนา เป็นต้น ฝ่ายอกุศล ได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น
สำหรับคนที่อยู่ในอุตตรกุรุทวีปมีคุณสมบัติพิเศษสูงและประเสริฐกว่าคนที่อยู่ในชมพูทวีปและเทวดาชั้นดาวดึงส์
๓ ประการ คือ ๑) ไม่ถือเอาเงิน ทอง
ทรัพย์สมบัติ ว่าเป็นของตน ๒)
ไม่หวงแหนหรือถือเอาว่า ผู้นั้นผู้นี้เป็นบุตร ภรรยา สามีของตน ๓) มีอายุยืนถึง ๑,๐๐๐ ปี เสมอ
สำหรับเรื่องของปุพพวิเทหทวีปและอปรโคยานทวีปไม่มีอะไรพิเศษ
ชีวิตความเป็นไปต่าง ๆ คล้ายคนในชมพูทวีป เว้นแต่ความเจริญของโลกและจิตใจของผู้คน
ถึงจะสูงก็ไม่สูงเท่าคนในชมพูทวีป แม้จะต่ำก็ไม่ต่ำเท่าคนในชมพูทวีป
เป็นไปในฐานะกลาง ๆ พระโพธิสัตว์ก็ดี พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันตสาวกทั้งหลายก็ดี
เมื่อจะบังเกิด จะอุบัติขึ้นเฉพาะในชมพูทวีปเท่านั้น
ไม่เกิดสร้างบารมีที่โลกมนุษย์ทวีปอื่น ๆ
เหตุที่สัตว์ผู้เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏได้มาเกิดเป็นมนุษย์
เพราะเป็นผู้มีมนุษยธรรม คือ ธรรมที่ทำให้เป็นมนุษย์ ซึ่งก็คือศีลทั้ง ๕ ข้อ หากเป็นผู้ที่บกพร่องในการรักษาศีลแล้ว
ก็ยากที่จะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ได้อีก
พวกเราทุกคนในโลกใบนี้ได้ชื่อว่าเป็นมนุษย์ในชมพูทวีป
ซึ่งถือเป็นทวีปที่มีความพิเศษดังกล่าวข้างต้น จึงนับเป็นความโชคดีประการหนึ่ง
และจะโชคดียิ่งกว่านั้น หากเราได้อยู่บนโลกใบนี้อย่างมีเป้าหมายเพื่อตักตวงบุญบารมีเพื่อเป็นเสบียงในการข้ามวัฏสงสารอันยาวไกลนี้ไป
เรื่องราวของมนุษย์ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย
ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากรายวิชา GL101 จักรวาลวิทยา
Cr. พระมหาวุฒิชัย วุฑฺฒิชโย ป.ธ. ๙
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๔๖
เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
คลิกอ่าน DOU ความรู้สากลของวารสารอยู่ในบุญปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
พระสถูปเจดีย์ คือ สัญลักษณ์แสดงความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา
อโศกมหาราช...
ความอาภัพ ๑๘ ประการ
การทำบุญกับพระอรหันต์ในบ้าน
ความแตกต่างบนความเหมือนของการเกิดเป็นมนุษย์
การกลับมาของมหาวิทยาลัยนาลันทา... ศูนย์กลางแห่งพุทธปรัชญาเมื่อ ๘๐๐ ปีก่อน
เวลากับชีวิต
ตามรอยมหาปูชนียาจารย์ (บทความปีถัดไป)
เวลากับชีวิต |
ตามรอยมหาปูชนียาจารย์ |
คลิกอ่าน DOU ความรู้สากลของวารสารอยู่ในบุญปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
พระสถูปเจดีย์ คือ สัญลักษณ์แสดงความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา
อโศกมหาราช...
ความอาภัพ ๑๘ ประการ
การทำบุญกับพระอรหันต์ในบ้าน
ความแตกต่างบนความเหมือนของการเกิดเป็นมนุษย์
การกลับมาของมหาวิทยาลัยนาลันทา... ศูนย์กลางแห่งพุทธปรัชญาเมื่อ ๘๐๐ ปีก่อน
เวลากับชีวิต
ตามรอยมหาปูชนียาจารย์ (บทความปีถัดไป)
รู้จักมนุษย์ในจักรวาลวิทยา
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
23:24
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: