เส้นทางสู่พระโพธิญาณ
เหล่าเทวดาในหมื่นโลกธาตุได้กล่าวสาธุการแด่สุเมธดาบสโพธิสัตว์ว่า
"พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายพึงบำเพ็ญบารมี ๑๐ ทัศ ให้เต็มเปี่ยมฉันใด
ข้าแต่ท่านมหาวีระ ขอท่านจงบำเพ็ญบารมี ๑๐ ทัศ ให้เต็มเปี่ยมฉันนั้นเถิด"
บารมีคืออะไร... ใครบ้างที่ต้องสร้างบารมี...
ทำไมต้องสร้างบารมี...
สร้างบารมีแล้วจะได้อะไร...
บารมี หมายถึง ความเต็มเปี่ยม
สูงสุดหรือสมบูรณ์ที่สุด ความสมบูรณ์ของชีวิตนั้นจะเกิดขึ้นได้
ต้องอาศัยการสั่งสมบุญกุศล บุญที่เราทำทีละเล็ก ทีละน้อย เมื่อกลั่นตัวมากเข้าจากดวงบุญก็กลายเป็นดวงบารมี
ซึ่งจะต้องทุ่มเทสุดฤทธิ์สุดเดช ชนิดเอาชีวิตเป็นเดิมพันจึงจะกลายเป็นบารมี
คนที่มีบารมี หมายถึงคนที่เข้าถึงความสมบูรณ์ของชีวิตทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ
คุณสมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ และมรรคผลนิพพาน
การสร้างบารมีเป็นหน้าที่หลักของมนุษย์ทุกคน
ซึ่งเป้าหมายหลักก็เพื่อหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ ถ้ามีบารมีมากก็สามารถเป็นที่พึ่งให้กับสรรพสัตว์ได้อีกด้วย
บารมีหลัก ๆ ที่พระโพธิสัตว์ประพฤติปฏิบัติกันมาคือ ทานบารมี ศีลบารมี
เนกขัมมบารมี ปัญญาบารมี วิริยบารมี ขันติบารมี สัจจบารมี อธิษฐานบารมี เมตตาบารมี
และอุเบกขาบารมี
พระโพธิสัตว์เจ้านั้นท่านมีความคิดที่ยิ่งใหญ่เหนือมนุษย์ธรรมดา
ยอมทำตนเป็นดุจสะพานให้คนอื่นข้าม ยอมทนทุกข์เพื่อความสุขของคนอื่น ท่านได้สละเลือดเป็นทานมากกว่าน้ำในมหาสมุทร
สละเนื้อมากกว่าแผ่นดินบนพื้นชมพูทวีป ควักลูกนัยน์ตาเป็นทานมากกว่าดวงดาวบนท้องฟ้า
และตัดศีรษะเป็นทานมากกว่าผลมะพร้าวในชมพูทวีป ด้วยความมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกลว่า
ตนเองได้เวียนตายเวียนเกิดอย่างนี้มานับภพนับชาติไม่ถ้วนแล้ว ถ้าทุกข์กาย
ก็เหมือนยอมผ่าตัดเพื่อให้หายจากโรค ถ้าตายก็เป็นเพียงการเปลี่ยนภพภูมิใหม่ที่ดีกว่าเดิม
การได้โอกาสสร้างบารมีนั้นนับเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง เมื่อโอกาสดีมาถึงตัวแล้ว ท่านจึงไม่พลาดที่จะสร้างบารมีให้ยิ่ง
ๆ ขึ้นไป
บารมีเปรียบเสมือนธรรมาวุธอันวิเศษที่สนับสนุนให้ก้าวขึ้นสู่ความเต็มเปี่ยมของชีวิต
คือ หมดกิเลสเป็นพระอรหันต์ หากสร้างบารมีแบบพระบรมโพธิสัตว์จะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเหมือนท่านสุเมธดาบสผู้ที่หากฟังธรรมจากพระทีปังกรพุทธเจ้า
เพียงพระคาถา ๑ บท ก็จะได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ แต่เพราะจิตปรารถนาพุทธภูมิ
อยากช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้หลุดพ้นจากทุกข์ จึงไม่ได้ฟังธรรม แต่เฟ้นหาพุทธการกธรรม
ซึ่งเป็นธรรมที่จะทำให้เป็นพระพุทธเจ้า และมุ่งหน้าสร้างบารมีชนิดเอาชีวิตเป็นเดิมพันเรื่อยมา
ซึ่งท่านมีประวัติความเป็นมาที่ยิ่งใหญ่มาก
สมัยนั้น สุเมธดาบสเกิดเป็นลูกชายคนเดียวของพราหมณ์
เรียนจบไตรเพท มีปัญญามาก เนื่องจากบิดามารดาเสียชีวิตตั้งแต่ท่านยังเป็นหนุ่ม
ผู้จัดการกองมรดกจึงนำบัญชีทรัพย์สินมาให้ท่านดู
และเปิดห้องหลายห้องที่เต็มไปด้วยรัตนะต่าง ๆ มีทอง เงิน แก้วมณี แก้วมุกดามากมาย
อีกทั้งชี้แจงว่า ทรัพย์ทั้งหมดเหล่านี้เป็นของที่สืบทอดกันมา ๗ ชั่วอายุขัยของบรรพบุรุษ
ขอให้ท่านเป็นผู้สืบทอดมรดกคนต่อไป
เมื่อท่านเห็นสมบัติเหล่านั้นแล้ว
แทนที่จะตื่นเต้นดีใจที่จะได้ใช้สมบัติเหล่านั้นอย่างฟุ่มเฟือย
ท่านกลับสั่งสอนตนเองได้ว่าการเกิดใหม่บ่อย ๆ เป็นทุกข์ การแตกดับแห่งสรีระในสถานที่เกิดแล้วเกิดเล่าเป็นทุกข์
เกิดมาก็ต้องแก่ต้องเจ็บต้องตายเหมือนชาวโลกทั่วไป ควรแสวงหาทางที่ไม่ต้องมีการเกิด
การตายท่านอุปมาไว้ว่า "เมื่อความเกิดมีอยู่ ความไม่เกิดก็ต้องมี เมื่อความร้อนมีอยู่
ความเย็นอันระงับความร้อนยังมีได้ สถานที่ระงับกองไฟคือกิเลสก็ต้องมีแน่นอน เมื่อภพมีอยู่ ภาวะที่ไม่ใช่ภพก็น่าจะมี
คนบางคนเอาสมบัติมากมายเดินทางไปกับหมู่โจร เขาจำเป็นที่จะต้องละทิ้งพวกโจรไป
เพราะกลัวสูญเสียทรัพย์ และเลือกเส้นทางที่เกษมปลอดภัยฉันใด
กายอันเน่าเปื่อยนี้ก็ฉันนั้น เปรียบเสมือนโจรปล้นทรัพย์
ถ้าเรายึดมั่นถือมั่นในกายนี้ ทรัพย์คืออริยมรรคและกุศลธรรมของเราก็จักสูญไป
เพราะฉะนั้นจึงควรละทิ้งกายนี้ แล้วเข้าสู่นิพพานอันเป็นแดนเกษมจากโยคะ"
จากนั้นท่านคิดต่อไปอีกว่า
"บิดามารดารวบรวมกองทรัพย์ใหญ่นี้ไว้
เมื่อไปปรโลกแม้แต่กหาปณะเดียวก็เอาไปไม่ได้ ส่วนเราควรเปลี่ยนทรัพย์หยาบ ๆ
นี้ให้เป็นอริยทรัพย์ที่จะติดตามตัวเราไปข้ามภพข้ามชาติ" ท่านให้ตีกลองร้องป่าวไปทั่วเมืองว่า
"ใครอยากได้ทรัพย์สมบัติอะไร ก็ให้มาขนไปได้เลย" จากนั้นท่านก็เริ่มบริจาคมหาทานบารมี
ใช้เวลาแจกจ่ายทรัพย์อยู่ ๗ วัน จึงได้ออกจากปราสาทไปบวชเป็นฤๅษีอยู่ตามลำพัง
เนื่องจากท่านมีความตั้งใจมาก เพียง ๗ วันเท่านั้น ก็สามารถทำอภิญญาสมาบัติให้บังเกิดขึ้น
สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ เป็นมหาฤๅษีที่มีตบะกล้ามาก
ท่านหมั่นเจริญเมตตาไปยังสรรพสัตว์ทุกหมู่เหล่า
เสวยสุขอยู่ในฌานสมาบัติเป็นเวลายาวนาน
เมื่อท่านออกจากป่าและพบเห็นมหาชนทั้งหลายกำลังสร้างถนนหนทาง
เพื่อใช้เป็นที่เสด็จไปของพระทีปังกรพุทธเจ้า ท่านรู้สึกปีติยินดียิ่ง
และอยากได้บุญใหญ่ในครั้งนั้นด้วย จึงขอร่วมทำถนนด้วยเรี่ยวแรงของตนเอง
ทั้งที่หากใช้ฤทธิ์ที่มีอยู่ จะเนรมิตถนนให้ดีเลิศแค่ไหนก็ได้
ท่านกลับนอนทอดร่างเป็นสะพานให้พระพุทธเจ้าได้เสด็จข้ามไป
ซึ่งในวันนั้นสุเมธดาบสได้รับพุทธพยากรณ์ว่า อีก ๔ อสงไขยแสนมหากัป
จะได้เป็นพระพุทธเจ้าพระนามว่า สมณโคดม เมื่อได้ฟังดังนั้น ท่านมีความปีติเบิกบานประหนึ่งว่า
จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในวันรุ่งขึ้นทีเดียว
นี่คือประวัติย่อๆ ของท่านสุเมธดาบสโพธิสัตว์
ผู้เห็นทุกข์เห็นโทษของการเกิดและการอยู่ครองเรือนว่า เป็นการต่อสังสารวัฏให้ยาวไกลออกไปอีก
จนไม่สามารถมองเห็นฝั่งแห่งพระนิพพาน จึงออกบวช
และสั่งสมบารมีเรื่อยมาเพื่อทำทศบารมีให้เต็มเปี่ยม ถึงขนาดมีอุปมาว่า "ธรรมดาของพระโพธิสัตว์เจ้า
แม้รู้ว่าจักรวาลทั้งหลายเต็มไปด้วยถ่านเพลิงซึ่งปราศจากเปลว
เกลื่อนกล่นด้วยหอกและหลาวที่มีหนามแหลมเต็มไปหมด หากสามารถก้าวข้ามได้
จะได้ตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ตัดสินใจที่จะทอดเท้าก้าวข้ามไป
เพื่อให้ได้มาซึ่งสัพพัญญุตญาณอันประเสริฐ"
เพื่อเป็นการเจริญพุทธานุสติ
สรรเสริญพระคุณอันไม่มีประมาณ และรำลึกถึงวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของพระบรมโพธิสัตว์ว่า
กว่าจะนำหมู่สัตว์ข้ามพ้นสังสารวัฏไปได้
ต้องฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรคอะไรบ้าง เดือนหน้าผู้เขียนจะขอน้อมนำประวัติการสร้างบารมีของท่านจากพระไตรปิฎกมาถ่ายทอดให้สาธุชนผู้รักการสร้างบารมีทั้งหลายได้ศึกษากัน
โดยหวังว่าจะก่อให้เกิดพลังใจในการสร้างบารมี เกิดพลังศรัทธาที่เปี่ยมล้นต่อพระบรมศาสดาว่ากว่าจะผ่านด่านพุทธการกธรรมมาได้นั้น
เป็นสิ่งที่ต้องเอาชีวิตเข้าแลกทั้งสิ้น
เมื่อตระหนักในพุทธคุณแล้วจะได้กราบนอบน้อมด้วยจิตเลื่อมใส และยิ่งถ้าปรารถนาจะสร้างบารมีไปสู่ที่สุดแห่งธรรมตามมหาปูชนียาจารย์
ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพันอย่างไรบ้าง โปรดติดตามอ่านได้ในเดือนต่อไป..
พุทฺธา
อจินฺติยา พุทฺธธมฺมา อจินฺติยา
อจินฺติเยสุ
ปสนฺนานํ วิปาโก โหตฺยจินฺติโย
พระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นอจินไตย
พระธรรมของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นอจินไตย เมื่อบุคคลเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า และพระธรรมอันเป็นอจินไตย
ย่อมมีวิบากเป็นอจินไตย
Cr. พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ. ๙ /
พระมหาวิริยะ ธมฺมสารี ป.ธ.๙
ภาพประกอบ
: กองพุทธศิลป์
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๑๑
เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
คลิกอ่านปกิณกธรรมของวารสารอยู่ในบุญ ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
ทานบารมี ต้นทางสู่โพธิญาณ
มหาทาน สนั่นโลกธาตุ
ศีลบารมี ยอมตายไม่ยอมเสียศีล
เนกขัมมบารมี วิถีสมณะ
ปัญญาบารมี ความรู้เพื่อการดับทุกข์
วิริยบารมี ยอมตายไม่ยอมแพ้
สัจจบารมี ยอมตายไม่ยอมคด
อธิษฐานบารมี ยอมตายไม่ยอมทิ้งเป้าหมาย
เมตตาบารมี เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
อุเบกขาบารมี ใจหยุดคือที่สุดของอุเบกขา
ทานบารมี ต้นทางสู่โพธิญาณ |
รอลงบทความ |
คลิกอ่านปกิณกธรรมของวารสารอยู่ในบุญ ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
ทานบารมี ต้นทางสู่โพธิญาณ
มหาทาน สนั่นโลกธาตุ
ศีลบารมี ยอมตายไม่ยอมเสียศีล
เนกขัมมบารมี วิถีสมณะ
ปัญญาบารมี ความรู้เพื่อการดับทุกข์
วิริยบารมี ยอมตายไม่ยอมแพ้
สัจจบารมี ยอมตายไม่ยอมคด
อธิษฐานบารมี ยอมตายไม่ยอมทิ้งเป้าหมาย
เมตตาบารมี เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
อุเบกขาบารมี ใจหยุดคือที่สุดของอุเบกขา
เส้นทางสู่พระโพธิญาณ
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
18:55
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: