ให้ “สัมมาอะระหัง” นำทางใจ นำทางไปสู่ความสุข
จิตใจของเราเป็นเรื่องที่สำคัญ
จะเหตุดีเหตุร้ายก็ล้วนแต่เริ่มจากจิตใจทั้งสิ้น ดังพระพุทธวจนะที่ว่า
จิตฺเตน
นียติ โลโก จิตฺเตน ปริกสฺสติ
จิตฺตสฺส
เอกธมฺมสฺส สพฺเพว วสมนฺวคู.
โลกถูกจิตนำไป
ถูกจิตชักไป, สัตว์ทั้งปวงไปสู่อำนาจแห่งจิตอย่างเดียว.
(พุทฺธ) สํ. ส. ๑๕/๕๔.
ดังนั้น
เราพึงต้องหมั่นตามรักษาจิตของตนให้ใสสะอาด ให้เป็นกุศลธรรม เพราะอำนาจแห่งจิตที่เป็นกุศลธรรมนี้เองจะนำพาชีวิตให้พบกับความดีงาม
และการภาวนา “สัมมาอะระหัง” ก็คือ การเอาจิตของเราไปผูกพันกับธรรมภาคกุศลอย่างแน่นแฟ้น
เพราะคำภาวนาว่า “สัมมาอะระหัง” มีความหมายที่เชื่อมโยงกับผู้รู้
ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ซึ่งมีฤทธิ์ มีเดช มีอานุภาพ เป็นผลให้จิตใจเราใส สะอาด สว่าง
มีพลัง และมีอำนาจที่จะแก้ไขอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ นานาในชีวิตของเราได้
ดังตัวอย่างเรื่องราวของผู้นำไปปฏิบัติต่อไปนี้...
ที่พึ่งภายใน
คุณวรนันท์
ตินนันท์ กรุงเทพมหานคร
อาชีพเภสัชกร
ดิฉันเพิ่งจะผ่าตัดได้ประมาณอาทิตย์กว่า ๆ
พอดีตรวจพบเนื้องอกที่มดลูก มีเนื้องอกอยู่ ๓ ก้อน แม้จะไม่ได้เป็นเนื้อร้าย
แต่ก็มีผลทำให้ประจำเดือนมามากผิดปกติจนตัวซีดและเสียเลือดมาก คุณหมอดูแล้วบอกว่าไม่ควรเก็บเอาไว้
จึงให้ตัดมดลูกออก พอเริ่มรู้ตัวว่าจะต้องตัดมดลูกออกก็ท่อง “สัมมาอะระหัง” ตลอด ๑ อาทิตย์ก่อนเข้าห้องผ่าตัด
แต่ก่อนหน้านั้นก็ท่อง “สัมมาอะระหัง” มาโดยตลอดอยู่แล้ว
แต่ส่วนใหญ่เพื่อเรื่องของเศรษฐกิจ การทำมาค้าขาย เป็นต้น
เมื่อเราจะเข้าห้องผ่าตัดก็ทำให้เราคิดได้หลาย
ๆ อย่างว่า เราไม่มีที่พึ่ง ดังนั้นเราก็ต้องพึ่งตนเอง
และตอนนั้นก็นึกถึงคำพูดของพระอาจารย์ที่ให้ข้อคิดว่า “ให้คิดเสียว่า ในวิกฤตย่อมมีโอกาส
ให้ฝึกให้นึกในใจว่า สักวันความตายก็จะมาถึงเราจริง ๆ
วันนี้เราซ้อมตายก็แล้วกัน”
จึงทำให้เราได้คิดว่าพึ่งใครไม่ได้เลย
วินาทีสุดท้ายของชีวิตเราต้องพึ่งพาตัวเอง
ต้องอยู่กับตัวเอง ถ้าหากจะพึ่งหมอก็คงเป็นไปได้ยาก เพราะว่าหมอก็มีหน้าที่ของเขา
เขาไม่ได้มารับรู้กับเราว่าเราเจ็บเราปวดอย่างไร
ในวินาทีก่อนที่ยาสลบจะหมดฤทธิ์
ดิฉันก็นึกถึงหลวงปู่ แล้วก็ “สัมมาอะระหัง” ไปเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าหมดสติไปตอนไหน
มารู้ตัวอีกทีในห้องพักฟื้น ความรู้สึกในตอนนั้นก็ยังคง “สัมมาอะระหัง” อยู่ แล้วก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา มีความรู้สึกแค่ว่า
มันเจ็บตรงหน้าท้อง ระบมไปหมด แต่ก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา แล้วก็เห็นดวงผุดขึ้นมาอีกครั้ง
และในดวงก็มีองค์พระ เห็นแล้วปีติจนน้ำตาไหล คิดในใจว่าเราสอบผ่านแล้ว อย่างน้อยวันหนึ่งถ้าหากเราตายไปจริง
ๆ เราน่าจะเอาตัวรอดได้ จากนั้นก็มองดวง มององค์พระไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ข้าง ๆ
ห้องมีแต่เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ในตอนนั้นเราก็ปวดเหมือนกัน แต่เราอยู่กับ “สัมมาอะระหัง” จนทำให้ไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไร
วันนี้ก็เลยได้รู้ว่า พอถึงวิกฤตของชีวิตจริง ๆ
เราต้องมีที่พึ่ง ที่พึ่งก็อยู่ที่ตัวเราเท่านั้น เป็นที่พึ่งภายในที่เราได้ปฏิบัติ
ไม่มีสิ่งอื่นใดที่จะมาช่วยเหลือเราในยามที่จะต้องเผชิญกับความตาย
ดังนั้น การหาที่พึ่งภายในด้วยการท่อง “สัมมาอะระหัง” จะทำให้เราได้เข้าใจว่า
ความตายนั้นไม่ได้น่ากลัวอะไร เพราะเรามีที่พึ่ง
“สัมมาอะระหัง” เปลี่ยนชีวิต พลิกนิสัยลูก
คุณหัทยาภักดิ์
เหลาคม จ.สุรินทร์
อาชีพเกษตรกร
ฉันมีลูกที่ดื้อมาก ๆ ไม่ยอมเชื่อฟัง พอเพื่อนที่เป็นผู้นำบุญจากวัดพระธรรมกายทราบว่า
ลูกของฉันไม่เชื่อฟัง ก็เลยมาแนะนำให้ฉันลองท่อง “สัมมาอะระหัง” ในตอนแรกฉันก็ฟังเฉย ๆ ไม่ใส่ใจ
วันต่อมาเพื่อนนัดมากินข้าวเที่ยง และแนะนำให้ลองท่อง “สัมมาอะระหัง” อีก เธอบอกว่าท่องได้เท่าไรก็ท่องไป
ในวันแรกฉันท่องได้ถึง ๒๐๐ ครั้ง พอวันที่ ๒
ท่องได้ประมาณ ๕๐๐ ครั้ง ในขณะที่ท่องไปมีความรู้สึกว่าสดชื่น โล่ง สบาย แล้วในช่วงประมาณ ๒-๓ อาทิตย์ต่อมา
ก็ท่องได้ประมาณ ๑,๐๐๐ ครั้ง ต่อวัน
ต่อจากนั้นฉันก็เริ่มท่องทุกวัน
พอเริ่มท่องก็มีความรู้สึกว่าตัวเบา หายปวดหัว
แต่ก่อนเป็นคนที่ใจร้อนมาก หงุดหงิด ขี้โมโห ใครพูดอะไรไม่เข้าหูก็จะระเบิดอารมณ์ใส่คนนั้นไปเลย แต่พอเริ่มท่องไปประมาณ ๑ เดือน ฉันมีความรู้สึกว่า ฉันเปลี่ยนเป็นคนใหม่ เริ่มคิดได้
ต่อมา ฉันไปถามเพื่อนอีกว่า
จะช่วยครอบครัวด้วยการท่อง “สัมมาอะระหัง” ได้อย่างไร เพื่อนบอกว่า หลังจากท่อง “สัมมาอะระหัง” ไปแล้ว ให้กล่าวชื่อลูกของฉันที่ดื้อ
แล้วอธิษฐานจิตว่า ให้เขาเลิกจากสารเสพติดทุกชนิด เลิกจากการเล่นเกม
เลิกทุกอย่างที่เป็นอบายมุข
หลังจากที่ฉันท่อง “สัมมาอะระหัง” แล้ว ก็อธิษฐานจิตไปด้วยได้ประมาณ ๒-๓
อาทิตย์ ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ฉันแปลกใจ โดยปกติแล้วลูกชายไม่เคยช่วยงานบ้านเลย
แต่วันนั้นตอนฉันกลับมาจากที่ทำงาน เห็นลูกชายมา กวาดบ้าน ถูบ้าน เก็บที่นอน ฯลฯ
ฉันมีความรู้สึกว่า ลูกชายของฉันดีขึ้นเรื่อย ๆ
ปกติแล้วเขาจะเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง
ไม่ค่อยออกจากห้องมาหาคนในครอบครัวที่อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน แต่หลังจากที่ฉันท่อง
“สัมมาอะระหัง” และอธิษฐานจิต
ลูกชายของฉันก็เริ่มออกมาทักทาย เป็นมิตรกับฉันและครอบครัวมากขึ้น
ทำให้ฉันรู้และเข้าใจว่าการท่อง “สัมมาอะระหัง” ดีอย่างไร สามารถช่วยเหลือครอบครัวได้อย่างไร
ดังนั้นฉันก็ขอฝากให้คุณแม่ คุณพ่อ และพี่น้องทุก ๆ คน มาท่อง “สัมมาอะระหัง”
ซึ่งจะเป็นผลดีกับครอบครัวของเรา
เพราะถ้านิสัยลูกเปลี่ยน ชีวิตของเราก็เปลี่ยน
ชีวิตเราจะสุขได้ก็ต่อเมื่อใจเป็นสุข
และใจจะเป็นสุขโดยแท้จริงได้ หากว่าใจดวงนั้นขาวใส สะอาด สว่าง นุ่มนวล
ภายใต้การคุ้มครองแห่งกุศลธรรม ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลใดเลยที่ชีวิตของผู้ปรารถนาความสุข
จะละเลยการเจริญภาวนา และเราก็ประจักษ์แล้วว่า การภาวนา “สัมมาอะระหัง”
สร้างสุขได้จริง ..เรามาเริ่มภาวนา “สัมมาอะระหัง” นับตั้งแต่วินาทีนี้กันเลยดีไหม “สัมมาอะระหัง” ๆ ๆ ๆ ๆ...
Cr. พระบริบูรณ์ ธมฺมวิชฺโช
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๔๘
เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๘
คลิกอ่านอานุภาพสัมมาอะระหังของวารสารอยู่ในบุญ ปี ๒๕๕๘ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
เมื่อมะเร็งกำลังมารุม-มรณภัยกำลังขย้ำ “สัมมาอะระหัง”... ช่วยได้
ชีวิตนี้ดีแน่แค่ “สัมมาอะระหัง”
ที่สุดแห่งถ้อยคำ
เปลี่ยนโลก เปลี่ยนชีวิต ภาวนา “สัมมาอะระหัง” เพิ่มอีกนิด ชีวิตก็เปลี่ยน!
พุทธบุตร...ต้องสวมหัวใจความเป็นพระแท้ด้วย “สัมมาอะระหัง”
จัดระเบียบใจด้วยการภาวนา "สัมมาอะระหัง"
ใจที่ภาวนา “สัมมาอะระหัง” คือ ใจที่อยู่ในบุญ ใจที่อยู่ในความสุขความสําเร็จทั้งปวง
ภาวนา “สัมมาอะระหัง” เติมพลังให้บุญธาตุ
ภาวนา “สัมมาอะระหัง” ใจตั้งมั่นในพระรัตนตรัย ความสำเร็จทันใช้จะหลั่งไหลเข้ามา (ปีถัดไป)
เมื่อมะเร็งกำลังมารุม-มรณภัยกำลังขย้ำ |
|
คลิกอ่านอานุภาพสัมมาอะระหังของวารสารอยู่ในบุญ ปี ๒๕๕๘ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
เมื่อมะเร็งกำลังมารุม-มรณภัยกำลังขย้ำ “สัมมาอะระหัง”... ช่วยได้
ชีวิตนี้ดีแน่แค่ “สัมมาอะระหัง”
ที่สุดแห่งถ้อยคำ
เปลี่ยนโลก เปลี่ยนชีวิต ภาวนา “สัมมาอะระหัง” เพิ่มอีกนิด ชีวิตก็เปลี่ยน!
พุทธบุตร...ต้องสวมหัวใจความเป็นพระแท้ด้วย “สัมมาอะระหัง”
จัดระเบียบใจด้วยการภาวนา "สัมมาอะระหัง"
ใจที่ภาวนา “สัมมาอะระหัง” คือ ใจที่อยู่ในบุญ ใจที่อยู่ในความสุขความสําเร็จทั้งปวง
ภาวนา “สัมมาอะระหัง” เติมพลังให้บุญธาตุ
ภาวนา “สัมมาอะระหัง” ใจตั้งมั่นในพระรัตนตรัย ความสำเร็จทันใช้จะหลั่งไหลเข้ามา (ปีถัดไป)
ให้ “สัมมาอะระหัง” นำทางใจ นำทางไปสู่ความสุข
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
00:58
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: