อนุโมทนามาฆบูชา เทศกาลแห่งแสงสว่างของมนุษยชาติ


วันมาฆบูชา ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๖ พุทธศาสนิกชนร่วมกันระลึกถึงความสำคัญของวันมาฆบูชาด้วยการให้ทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนา ด้วยว่าเป็นปฐมเหตุแห่งวันนี้เมื่อ ๒,๕๐๐ ปีมาแล้ว เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น ๔ ประการ คือ มีการประชุมพระภิกษุ ๑,๒๕๐ รูปโดยมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นประธาน พระภิกษุที่มาประชุมกันนั้นล้วนเป็นพระอรหันต์ และเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา คือพระภิกษุที่พระพุทธองค์ทรงบวชให้ทั้งสิ้น มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย และวันที่มาประชุมกันนั้นเป็นวันที่พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ ท้องฟ้าสว่างไสวด้วยแสงจันทร์นวล

ในค่ำคืนนั้นโลกมิได้สว่างด้วยแสงจันทร์เพียงอย่างเดียว หากแต่สว่างด้วยธรรมะที่พระพุทธองค์ตรัสสอนคือ "โอวาทปาติโมกข์” ซึ่งเป็นอุดมการณ์ หลักการ และวิธีการในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา พระอรหันต์ทั้ง ๑,๒๕๐ องค์ล้วนเป็นผู้เข้าถึงความสว่างที่พระพุทธองค์ทรงประทานให้ก่อนใคร เหล่าพระอรหันตสาวกของพระพุทธองค์ซึ่งเป็นผู้นําประทีปธรรมไปสู่ใจชาวโลกอีกทอดหนึ่ง ประทีปธรรมดวงนี้จึงเป็นอุปกรณ์สําคัญสำหรับการเดินทางในวัฏสงสารอันยาวไกล




ตักบาตรตอนเช้า
เมื่อท้องฟ้าทางทิศตะวันออกเรื่อเรืองด้วยแสงตะวันยามอรุณ สาธุชนสวมชุดขาวนับหมื่นคนเดินทางหลั่งไหลมาจากทุกสารทิศ จุดหมายอยู่ที่ลานธรรม มหาธรรมกายเจดีย์ หลายท่านออกจากบ้านตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสาง สองมือหอบหิ้วอาหารคาวหวานที่เตรียมมาสําหรับใส่บาตร เดินสู่ลานพิธีด้วยใจที่แช่มชื่น เบิกบาน

พระภิกษุ-สามเณรร่วม ๑,๐๐๐ รูป เดินเรียงรายเป็นทิวแถวเพื่อรับบาตร สีเหลืองของผ้ากาสาวพัสตร์เรืองรอง ภาพที่เห็นทําให้ใจมีปีติ ยกไทยธรรมขึ้นจบอธิษฐานเหนือศีรษะ ก่อนวางลงในบาตรด้วยการนอบน้อม ความตระหนี่ถูกตัดขาดออกจากใจ แสงตะวันเรืองมิใช่ปรากฏเฉพาะที่ขอบฟ้าเท่านั้น หากยังทอแสงเจิดจ้าที่กลางใจของท่านทานบดีในฐานะ ทายกทายิกาด้วย




ปฏิบัติธรรม
เมื่อตักบาตรเรียบร้อยแล้ว ใจของทุกคนต่างอิ่มเอม ชุ่มชื่นด้วยบุญที่เกิดจากการให้ หลังจากนั้นสาธุชนมุ่งหน้าสู่สภาธรรมกายสากล เพื่อร่วมกันสวดมนต์ทําวัตรเช้า เสียงสวดมนต์สรรเสริญคุณพระรัตนตรัยดังกังวาน เสียงที่เปล่งจากใจที่ชุ่มชื่นอยู่ในบุญ หล่อหลอมกล่อมเกลาให้ทุกท่านมีจิตใจที่นุ่มนวล เยือกเย็น เตรียมพร้อมสําหรับการฝึกใจ

เวลา ๙.๓๐ น. พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ประธานสงฆ์ เดินทางมาถึงศูนย์กลางพิธี เมตตานำสาธุชนบูชาพระรัตนตรัยและนั่งสมาธิปฏิบัติธรรม ให้ถึงความสว่างภายใน ณ ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ อันเป็นต้นแหล่งแห่งความสว่างอย่างหาที่สุดมิได้ เป็นทั้งที่เกิด ที่ดับ ที่หลับ และที่ตื่น

จนถึงเวลา ๑๑.๐๐ น. เป็นพิธีถวายสังฆทาน จากนั้นสาธุชนรับประทานอาหารกลางวัน ในระหว่างนั้นเวลา ๑๒.๑๕-๑๓.๑๕ น. เป็นรายการพิเศษสัมภาษณ์ผู้ได้รับรางวัลโล่พระราชทาน-โล่เกียรติยศ และผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ให้การสนับสนุนโครงการฯ


พิธีมอบโล่พระราชทานและโล่เกียรติยศ การแข่งขันตอบปัญหาธรรมะทางก้าวหน้าครั้งที่ ๒๑
ภาคบ่าย เป็นพิธีมอบโล่พระราชทาน-โล่เกียรติยศ และทุนการศึกษาให้กับผู้ได้รับรางวัลการสอบตอบปัญหาธรรมะทางก้าวหน้าครั้งที่ ๒๑ เริ่มเวลา ๑๓.๒๐ น. พิธีอัญเชิญ “โล่พระราชทานและโล่เกียรติยศ" เข้าสู่ศูนย์กลางพิธี ท่ามกลางสาธุชนร่วมงานนับแสนคน ครั้งนี้มีทั้งหมด ๑๙ โล่ แบ่งเป็นประเภทบุคคล ๗ โล่ และประเภททีม ๑๒ โล่

ต่อมา ประธานชมรมพุทธศาสตร์สากสฯ กล่าวรายงานถึงความสําเร็จของโครงการที่ทํามาถึงปีที่ ๒๑ มีเยาวชนเข้าร่วมทั้งหมดกว่า ๑๐ ล้านคน จากนั้นอาราธนาพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโว ประธานสงฆ์ มอบโล่พระราชทานและโล่เกียรติยศ รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิจากต่างประเทศผู้สนับสนุนโล่เกียรติยศได้เดินทางมามอบโล่ด้วยตนเอง จากนั้นหลวงพ่อทัตตชีโว และผู้ทรงคุณวุฒิถ่ายภาพร่วมกับผู้ได้รับรางวัล

หลวงพ่อทัตตชีโวกล่าวให้โอวาทสรุปความว่า คนเราชีวิตจะเจริญก้าวหน้าได้มีเหตุใหญ่ๆ คือ ๑. มีความรู้ดี ๒. มีความสามารถ นําความรู้ไปใช้งานได้จริง ส่วนข้อ ๓. ต้องมีศีลธรรมกํากับใจ เพราะคนมีความรู้ไม่มีศีลธรรมกํากับใจก็เป็นอันตราย จึงได้คิดนําหลักธรรมะของมงคลชีวิต ๓๘ ประการที่บรรพบุรุษไทยใช้เป็นหลักสอนในการดําเนินชีวิตมากว่า ๗๐๐ ปี มาเผยแผ่โดยผ่านการตอบปัญหาธรรมะ ด้วยวิธีปฏิบัติให้ได้จริงตามหลักมงคลชีวิตคือ ๑.ตั้งใจเรียน ๒.เคารพครูบาอาจารย์ เพื่อให้ได้รับการถ่ายทอดความรู้และคุณธรรมได้

ดวงประทีปแห่งธรรมะได้ถูกจุดขึ้นแล้วในกลางใจของเยาวชน และครูอาจารย์ที่เข้าร่วมโครงการทางก้าวหน้า ด้วยการอ่านหนังสือมงคลชีวิต ๓๘ ประการที่สามารถนําความรู้ที่ได้รับไปเป็นแนวทางการดําเนินชีวิตที่ถูกต้องและสว่างไสว ในปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ ๒๑ มีเยาวชนได้รับความสว่างจากธรรมะกว่า ๔ ล้านคน จาก ๑๓,๐๐๐ สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ โดยใช้หนังสือมงคลชีวิต ๓๘ ประการ ฉบับกรรมาธิการการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เป็นหนังสืออ้างอิง










สร้างพระ บูชาพระคุณท่าน ทดแทนพระคุณยาย
เวลาประมาณ ๑๔.๓๐ น. หลวงพ่อธัมมชโยเดินทางมาถึงศูนย์กลางพิธี สาธุชนผู้มีใจผ่องใส ให้โอกาสเติมบุญบารมีกับตนเองอีกครั้ง ด้วยการถวายปัจจัยเพื่อสร้างพระธรรมกายประจําตัวถวายแด่พระสังฆาธิการ ๓๐,๐๐๐ วัดทั่วประเทศ พร้อมทั้งสร้างลานธรรมรอบมหาธรรมกายเจดีย์เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมพร้อมกันได้คราวละนับล้านคน ดวงบุญที่สว่างไสวเกิดขึ้นในใจสาธุชนอีกครั้ง



มาฆประทีปถวายเป็นพุทธบูชา
พิธีในภาคค่ำเริ่มต้นขึ้นหลังจากการเจริญพุทธมนต์ รัตนอัฐิธาตุคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง เสร็จสิ้นลง สาธุชนได้เดินทางจากบ้านแก้วเรือนทองของคุณยายสู่ลานธรรมรอบมหาธรรมกายเจดีย์อีกครั้ง

สายลมเย็นพัดพาไอแดดอ้าวให้คลายตัวลงอย่างรวดเร็ว สาธุชนนั่งผ่อนคลายอิริยาบถหลังโคมประทีป รอคอยพิธีจุดประทีปบูชามาฆฤกษ์ ระหว่างนั้นขบวนเกียรติยศของท่านประธานโคมเอกพิเศษสุด คุณอัมพร กิ๊บส์ ได้เดินเข้าสู่ลานธรรมตรงไปยังแท่นโคมเอกพิเศษด้วยความสง่างาม ผ่องใส น่าอนุโมทนาบุญยิ่งนัก





หลังจากนั้นพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยเดินทางมาถึงศูนย์กลางพิธี จุดไฟฤกษ์ บูชาพระรัตนตรัยและนําสาธุชนนั่งสมาธิเจริญภาวนา

เมื่อผืนฟ้าถูกห่มคลุมด้วยรัตติกาล พระจันทร์เต็มดวงลอยเด่นเป็นเอกอยู่บนฟ้า องค์พระธรรมกายเจดีย์สว่างไสวเป็นเอกอยู่เหนือผืนดินอันศักดิ์สิทธิ์ พระเดชพระคุณหลวงพ่อกล่าวเชิญผู้แทนลูกหลานคุณยายผู้มีบุญ จุดเทียน ธูป บูชาพระรัตนตรัย และนํากล่าวคําบูชามาฆฤกษ์

พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยจุดประทีปเทียนชัย ส่งต่อให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโว เพื่อจุดต่อให้กับตัวแทนอุบาสก หลังจากนั้นคณะสงฆ์นำสาธุชนเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์

หลังจากการเวียนประทักษิณแล้ว พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยนํากล่าวคําอธิษฐานและเรียนเชิญประธานโคมเอกทุกท่านจุดโคมมาฆประทีป ขณะเดียวกับที่ท่านสาธุชนต่างพร้อมใจกันจุดโคมประทีปเบื้องหน้าของตน ความสว่างไสวเกิดขึ้นพร้อมกันทั่วลานธรรม พริบตาเดียวลานดินผืนกว้างก็กลายเป็นทะเลประทีป กว้างไกลสุดสายตา ภาพแห่งความปีตินั้น ติดตาตรึงใจไปตราบนานแสนนาน




มาเถิด เรามา
ต่อเติมความกระจ่างตา
ต่อประกายเทียนให้เป็นดวงชวาลา
เป็นธรรมกายสว่างไสว
ขับความมืดมิดให้หมดไป
อาบท้องฟ้าให้เป็นสีทอง
คือธรรมกายสว่างไสว
ขับความมืดมิดในใจ
อาบชีวิตให้เป็นสีทอง


แสงสว่างของมวลมนุษยชาติ
จากอดีตจนถึงปัจจุบัน แสงสว่างจากพระธรรมคําสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทานโอวาทปาติโมกข์ เมื่อครั้งพุทธกาล ยังคงส่องสว่างเป็นแนวทาง และหลักในการดําเนินชีวิต จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสู่พระอรหันต์ จากพระอรหันต์สู่ชาวโลก จากใจหนึ่งสู่อีกใจหนึ่ง อย่างต่อเนื่องยาวนาน และในค่ำคืนของมาฆปุรณมีนี้ ความสว่างของจันทร์เพ็ญเสวยมาฆฤกษ์ ความสว่างขององค์พระมหาธรรมกายเจดีย์ และความสว่างของโคมประทีปนับหมื่นดวงที่จุดบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเสมือนสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่า ธรรมะของพระพุทธองค์เป็นแสงสว่างของมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง

วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๕ ประจำเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๖

***สามารถนำไปเผยแพร่ได้ แต่ขอให้ใส่ Cr. ผู้เขียนด้วย***

คลิกบทความได้ที่นี่ https://dhamma-media.blogspot.com/2019/09/blog-post_399.html

คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญ ในรูปแบบของ PDF
https://drive.google.com/file/d/1b--R6PBGKVpP21fPah6HSAPzJFtzjOjA/view

คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญ ในรูปแบบของ E-book
http://dhammamedia.org/YNB%202546/05YNB_4603/05YNB_4603.html

คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๕ ประจำเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้ที่นี่
คลิกอ่านหรือดาวน์โหลดวารสารอยู่ในบุญประจำเดือนของแต่ละปี (ฉบับ PDF) ได้ที่นี่


อนุโมทนามาฆบูชา เทศกาลแห่งแสงสว่างของมนุษยชาติ อนุโมทนามาฆบูชา เทศกาลแห่งแสงสว่างของมนุษยชาติ Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 20:33 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.