นักสร้างบารมีที่แท้ ไม่มีคำว่า แค่นี้พอก่อน


เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย

วันนี้เป็นวันสําคัญวันหนึ่งในทางพระพุทธศาสนาวันมาฆบูชา วันมหาสังฆสมาคม รุ่นแรก ๑,๒๕๐ รูป มารับพุทธโอวาท ว่าด้วยหลักการ วิธีการ แล้วก็แนวทางปฏิบัติ เพื่อจะได้นําไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อประโยชน์สุขของมวลมนุษยชาติทั้งหลาย หมู่มนุษย์ก็จะได้สร้างบารมี ได้ดำเนินชีวิตเป็น เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่นั้นไม่ได้รู้เลยว่า เกิดมาทําไม แล้วก็ไม่รู้ว่า โลกมนุษย์นี้ เป็นโลกแห่งการเกิดมาสร้างบารมี เป็นโลกที่เกิดมาเพื่อทําพระนิพพานให้แจ้ง เพราะขึ้นชื่อว่าเกิดมา ได้อัตภาพมนุษย์นี้แล้ว ต่างก็มีวัตถุประสงค์หรือภารกิจหลักเพื่อมาทําพระนิพพานให้แจ้ง ผู้รู้คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านตรัสเอาไว้ว่า นิพพานํ ปรมํ สุขํ นิพพานเป็นบรมสุข คือ สุขอย่างยิ่ง นิพพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา พระพุทธเจ้าทั้งหลาย กล่าวว่า พระนิพพานน่ะ เป็นเยี่ยม นี่เป็นคําสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ซึ่งท่านผ่านประสบการณ์ชีวิตอันยาวนาน มาทุกระดับ ตั้งแต่จนสุดไปรวยสุดกระทั่งเป็นถึงพระเจ้าจักรพรรดิ

ถ้ารู้ว่าโลกใบนี้เป็นโลกแห่งการสร้างบารมี สัมปรายภพคือโลกหน้า เป็นโลกแห่งการเสวยผล ถ้าตอนที่เป็นมนุษย์ได้ทําบาปอกุศลเอาไว้ สัมปรายภพก็เป็นทุคติ มีความทุกข์ทรมาน แต่ถ้าได้สั่งสมบุญบารมีเอาไว้ ตั้งใจละชั่ว ทําความดี ทําใจให้ผ่องใส สัมปรายภพก็จะมีสุคติเป็นที่ไป ซึ่งความเข้าใจในพุทโธวาท ที่ทรงสอนให้ละชั่ว ทําความดี ทําใจให้ใสนี้น่ะ เป็นคําสอนที่สําคัญมาก จะบ่งบอกถึงอนาคตที่รุ่งโรจน์ หรือร่วงโรยได้ ดังนั้น เราต้องปฏิบัติให้ถูกหลักวิชชา ในการดํารงชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ต้องอยู่ด้วยความไม่ประมาท ต้องสร้างบารมี ต้องสร้างคุณงามความดีอย่างเดียว โดยวัตถุประสงค์ หรือเป้าหมายคือ ทําพระนิพพานให้แจ้ง ฉะนั้นน่ะ เราก็จะต้องใช้ทุกอนุวินาที สร้างบุญ สร้างบารมี สร้างความดีกันให้เต็มที่ เต็มกําลัง ถ้าทุ่มเททําจนหมดใจ จะไม่มีวันหมดตัว ถ้าอดทนสร้างบารมี จะมีนิพพานเป็นที่ไป ถ้าใจใสๆ จะแก้ไขอะไรก็ได้ทุกอย่าง

และการสร้างบารมีในโลกนี้จะมีการชิงช่วง และก็ช่วงชิงอยู่ตลอดเวลา ระหว่างกุศลกับอกุศล ระหว่างความตระหนี่กับการสละออก เป็นต้น ความตระหนี่เป็นภัยในปรโลก ความประมาทในชีวิตเป็นอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตในวัฏสงสาร ถ้าเราจะหนีวัฏฏะ หรือเราจะรื้อวัฏฏะ ก็ต้องทุ่มเทสร้างบารมีกันให้สุดใจ ต้องไม่ตระหนี่เสียดายทรัพย์ เราถึงจะได้สมบัติอจินไตย สมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่องในภพชาติต่อๆ ไป อย่าลืมว่า ความตายไม่ได้มีนิมิตหมาย ไม่มีใครรู้ว่าจะตายวันไหน เวลาไหน สถานที่ไหน ด้วยอาการอย่างไร เพราะฉะนั้นน่ะ แม้มีทรัพย์มาก แต่ถ้าไม่ได้สละออก ก็นำเอาติดตัวไปไม่ได้ นักสร้างบารมีที่แท้จริงต้องไม่คิดว่า เราทําบุญมามากแล้ว คราวนี้ทําแค่นี้ พอก่อน แล้วก็หวงแหนทรัพย์เอาไว้ไปทําอย่างอื่น ที่ไม่เป็นเหตุหรือไม่เป็นทางมาแห่งบุญบารมี ถ้าเป็นยอดนักสร้างบารมีที่แท้จริง คําว่าแค่นี้ พอก่อน ก็จะไม่มีอยู่ในหัวใจของนักสร้างบารมี นักรบกองทัพธรรมเลย แต่จะทุ่มเทเอาชีวิตเป็นเดิมพันในการสร้างบารมี เพราะว่าความตาย ไม่มีนิมิตหมาย ใสกับหมองกำลังชิงช่วงกันอยู่ บุญกับบาป กุศลกับอกุศล กําลังชิงช่วงกันอยู่ เราต้องชิงช่วงมาสร้างบารมี ก่อนที่จะถูกช่วงชิงไป เพื่อให้มีบารมีมากๆ จะได้ทําพระนิพพานให้แจ้ง เพราะว่าพระนิพพานนั้นน่ะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ตรัสยืนยันเหมือนกันหมดว่าเป็นเยี่ยมจริงๆ

วันนี้วันมาฆบูชา เราจะต้องปฏิบัติตามพุทโธวาท เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการเกิดมาเป็นมนุษย์ ให้ได้เข้าไปถึงพระรัตนตรัยภายใน คือ พุทธรัตนะ ธัมมรัตนะ สังฆรัตนะ รัตนตรัยทั้ง ๓ นี้ เป็นที่พึ่งที่ระลึกอันประเสริฐของพวกเราทั้งหลาย สิ่งอื่นที่จะเป็นที่พึ่งที่ระลึกเท่านี้ หรือยิ่งไปกว่านี้น่ะ ไม่มีอีกแล้ว พระรัตนตรัยนี้เป็นแก่นของพระพุทธศาสนา เป็นหลักของพระพุทธศาสนา และเป็นหลักชัยในชีวิตของเรา และชาวโลกทั้งหลาย
วันอาทิตย์ที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๖
(ภาคเช้า)

เรื่อง : พระธรรมเทศนา หลวงพ่อธัมมชโย
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๕ ประจำเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๖


***สามารถนำไปเผยแพร่ได้ แต่ขอให้ใส่ Cr. ผู้เขียนด้วย***

คลิกบทความได้ที่นี่ https://dhamma-media.blogspot.com/2019/09/blog-post_940.html

คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญ ในรูปแบบของ PDF
https://drive.google.com/file/d/1b--R6PBGKVpP21fPah6HSAPzJFtzjOjA/view

คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญ ในรูปแบบของ E-book
http://dhammamedia.org/YNB%202546/05YNB_4603/05YNB_4603.html

คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๕ ประจำเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้ที่นี่
คลิกอ่านหรือดาวน์โหลดวารสารอยู่ในบุญประจำเดือนของแต่ละปี (ฉบับ PDF) ได้ที่นี่
นักสร้างบารมีที่แท้ ไม่มีคำว่า แค่นี้พอก่อน นักสร้างบารมีที่แท้ ไม่มีคำว่า แค่นี้พอก่อน Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 01:41 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.