บาปยังไม่สูญ บุญต้องหมั่นสร้าง


เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาหลวงพ่อธัมมชโย
เมื่อวันวิสาขบูชาที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖

วันนี้เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า เป็นวันของพระพุทธเจ้าเป็นวันคล้ายวันที่ท่านประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพาน ในวันเดียวกัน มาตรงกันอย่างอัศจรรย์ ซึ่งยากที่ใครๆ ในโลกจะมีวันสำคัญของชีวิตตัวเองอย่างนี้ ในฐานะที่เราเป็นชาวพุทธ เราจะต้องมีความเคารพเลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราพระองค์นี้ให้เต็มที่ หมั่นระลึกนึกถึงท่านบ่อยๆ ไม่เฉพาะเพียงวันนี้เท่านั้น

บุญเป็นสิ่งเดียวที่จะไปต่อสู้กับบาปอกุศล เราจะใช้กองทัพมีอาวุธยุทโธปกรณ์ไฮเทค (HI-TECH) แค่ไหนก็ไม่สามารถสู้รบปรบมือกับบาปอกุศลนั้นได้ เพราะว่าเป็นของละเอียดมีอานุภาพมาก บังคับสัตว์โลกทั้งหลายในปัจจุบันนี้ บังคับให้ตกอยู่ในกฎแห่งกรรม กฎของไตรลักษณ์ บุญเท่านั้นจึงจะเป็นคู่ต่อสู้ กับพญามารกับบาปได้ ที่เราทําบุญก็เอาไว้สู้กับบาปอกุศลกรรม มีความโลภ ความโกรธ ความหลงสามอย่างนี้เป็นรากเหง้าแห่งอกุศล บังคับบัญชาเราอยู่ทางกาย ทางวาจา ทางใจ บังคับเราให้ทําบาปอกุศลแล้วมีวิบากกรรมมารองรับ สิ่งที่จะสู้ได้มีอย่างเดียว คือ สร้างบุญ เพราะบุญเป็นคุณเครื่องของความสุขความสําเร็จ ซึ่งตรงข้ามกับคําว่า บาป เป็นคุณเครื่องแห่งความทุกข์ และอุปสรรคของชีวิต

เมื่อเรามาเป็นลูกของพระพุทธเจ้า แล้วต้องศึกษาสิ่งนี้ให้ดี ทําความเข้าใจให้แจ่มแจ้ง และถ้าเกิดเหตุการณ์ที่เขาลบหลู่ดูหมิ่นพระรัตนตรัย เราต้องช่วยกันปกป้องผองภัย ช่วยกันสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้ยาวนาน เพราะพระพุทธศาสนาเป็นที่พึ่งให้แก่ชาวโลก ความรักพระพุทธศาสนา ไม่ใช่ว่าจะไปเอาชนะผู้ที่เขานับถือศาสนาอื่น หรือจะไปแข่งดีกับเขา แต่เราจะรักษาคําสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอาไว้ให้เป็นประโยชน์ต่อผู้มีบุญ ต่อชาวโลกทั้งหลายที่จะได้มาศึกษามาฝึกฝน จะได้ทําความเห็นให้ตรงต่อหนทางพระนิพพาน

สิ่งนั้นก็จะเป็นทางมาแห่งบุญของเรา หน้าที่ของความเป็นมนุษย์ของเราก็จะสมบูรณ์ หน้าที่ของผู้นําบุญยอดกัลยาณมิตรก็จะสมบูรณ์ด้วย มีแต่บุญและบาปเท่านั้นที่อยู่เบื้องหลังของพวกเราทั้งหลายในภพ ๓ ในวัฏสงสาร

สิ่งนี้จึงเป็นคําตอบว่าทําไมเราต้องสร้างบุญกันบ่อย ๆ สร้างถี่ ๆ ทําไมไม่สร้างเป็นทีๆ นานๆ ทําบุญที เราทําบาปถี่แต่เราทําบุญเป็นทีๆ อย่างนี้จะไปสู้บาปได้อย่างไร

บุญบางอย่างไม่ต้องใช้ทรัพย์ เช่น ให้ธรรมทาน เป็นผู้นําบุญ เป็นยอดกัลยาณมิตร ไปแนะนำไปชักชวนเพื่อนมนุษย์ให้เขามาสร้างความดี หรือรักษาศีลของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ หรือสวดมนต์ไหว้พระเจริญภาวนาฝึกใจให้หยุดให้นิ่ง เราใช้แรงกายแรงใจของเราช่วยเหลืองานพระพุทธศาสนา อยู่ใกล้วัดไหนเราก็ไปทําความสะอาดวัดนั้นบํารุงวัดนั้น ทําวัดนั้นให้สะอาดสะอ้าน แล้วก็ไปทําหน้าที่อุบาสก อุบาสิกาที่สมบูรณ์ เข้าวัดแล้วอย่าไปเกณฑ์พระให้เอาดีแบบชาวโลก

พระมีหน้าที่ฝึกฝนตัวเองกับสั่งสอนผู้อื่น เราก็ไปขอความเมตตาจากท่านว่า วันนี้ หรือวันข้างหน้าว่า จะพาทีมมาฟังธรรมในหัวข้ออย่างนั้นอย่างนี้ ท่านก็จะได้มีเวลาเตรียมตัวเทศน์ มีเวลาศึกษาค้นคว้าทบทวน ต้ารับตํารา เมื่อจะไปฟังเทศน์ก็บอกท่านล่วงหน้าไว้ก่อน อาทิตย์หน้าต้องการฟังหัวข้อนี้ อาทิตยโน้นต้องการฟังเรื่องโน้น วันธรรมดาอยากจะมาสวดมนต์ไหว้พระ อยากจะมาทําความสะอาดวัดวาอารามเรา ก็ทําไปอย่างนี้ เราควรจะเปลี่ยนวิธีการใหม่ได้แล้วนะลูกนะ พระพุทธศาสนาจะได้เจริญรุ่งเรือง

โยมก็ทําหน้าที่ของโยมได้สมบูรณ์ พระก็ทําหน้าที่ของพระได้สมบูรณ์ สมความตั้งใจที่มาบวชเป็นพระในคราวนี้นะ ศีล สมาธิ ปัญญาของท่านจะได้สูงขึ้นเป็นอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา เราก็ได้เนื้อนาบุญและอายุ พระศาสนานะลูกนะ มันต้องแก้กันตรงจุดไปพร้อมๆ กัน อย่าไปเกณฑ์ให้ท่านมาดูหมอ ผูกดวงชะตา ให้ไปหาโหราจารย์ที่ชำนาญเถิดมันเป็นอาชีพเขา

อย่าไปขอร้องให้ท่านรดน้ำมูกน้ำมนต์ เราก็รดน้ำมนต์ของเราเองได้ เช่น สวดมนต์ไปอาบน้ำไปรดไป เดี๋ยวตัวเราก็สะอาดสะอ้านใจเราก็จะใส เราอย่านําของไปให้ท่านเจิม หรือนิมนต์ท่านไปเจิมป้ายที่บริษัท ห้างร้าน ไม่ใช่กิจของท่าน ให้ท่านทําภาวนา อธิษฐานจิตอยู่ที่วัดให้เราเจริญรุ่งเรือง แต่ให้ท่านสอนวิธีทํามาหากินว่า ต้องขยัน ต้องชื่อสัตย์ ต้องอดทน ต้องมีสติ มีปัญญา อย่าดูแต่ได้อย่างเดียวให้ดูเสียด้วย ให้ไว้ใจตัวเองเป็นหลัก รู้เท่าเสียครึ่งรู้ไม่ถึงเสียหมด ต้องรู้เท่าทันในสิ่งแวดล้อมทั้งหลาย เดี๋ยวก็ ทํามาหากินเจริญรุ่งเรือง อะไรที่เป็นอบายมุขเราก็อย่าไปใช้จ่ายเพราะมันเป็นทางแห่งความเสื่อม เบื้องต้นสนุกสนานแต่ปลายทางไปอบาย

ถ้าอยากมีมงคลเราก็ปฏิบัติตามมงคล ๓๘ ประการ เป็นมงคลของผู้รู้ไม่ใช่เป็นมงคลของนักคิด เราก็อย่าไปขอของขลังจากท่าน แต่ของขวัญไม่เป็นไร เพราะเป็นเครื่องระลึกนึกถึงบุญ ถึงความดีใจเราจะได้อยู่ในบุญกุศลอยู่ในพระรัตนตรัย หากเจ็บป่วยไข้ก็ไปหาหมอ ไม่ต้องไปขอร้องให้ท่านมารักษา เพราะว่าไม่ใช่หน้าที่ของท่าน เมื่อเราขอร้องให้ท่านรักษา ท่านสงสารก็รักษาให้ เท่ากับว่าเราไปดึงเวลาทําภาวนาของท่าน ลดภาวะจากเนื้อนาบุญมาเป็นหมอยา

ถ้าช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างนี้แล้ว พุทธศาสนาที่จะเจริญ เราจะได้เห็นพระดี พระก็จะได้เห็นโยมดีแทนที่จะไปจับพระสึก ควรจะจับโยมบวชมากกว่า วัดร้างก็จะเป็นวัดรุ่ง เพราะเราเป็นเจ้าของพระพุทธศาสนากันแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านมอบมรดกทางธรรมเป็นคำสอน ฝากไว้กับพุทธบริษัท ๔ เพื่อเป็นแสงสว่างส่องทางชีวิต ที่จะทําให้จิตของเราหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ เป็นมรดกธรรมสําหรับชนรุ่นหลังที่จะตามมา เราเป็นชาวพุทธต้องคิดกันอย่างนี้นะลูกนะ

เรื่อง : พระธรรมเทศนาหลวงพ่อธัมมชโย
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๘ ประจำเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๖

***สามารถนำไปเผยแพร่ได้ แต่ขอให้ใส่ Cr. ผู้เขียนด้วย***

คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญ ในรูปแบบของ PDF
https://drive.google.com/file/d/1EtUZWpKVqgo1SJnen3GzV7mfQqehpHia/view

คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญ ในรูปแบบของ E-book
http://dhammamedia.org/YNB%202546/08YNB_4606/08YNB_4606.html

คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๘ ประจำเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้ที่นี่
บาปยังไม่สูญ บุญต้องหมั่นสร้าง บาปยังไม่สูญ บุญต้องหมั่นสร้าง Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 23:34 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.