เห็นพระธรรมกายด้วยตาเนื้อ ณ น่านฟ้าวัดปากน้ำ
เรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่เป็นที่โจษขานกันเป็นอย่างมาก
ซึ่งจะถือว่าเป็นเรื่อง Talk of the Town ในช่วงนั้นก็ได้
เพราะสมัยที่หลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่ หนังสือพิมพ์ก็ได้ตีพิมพ์รูปของท่าน
และเรื่องราวความมหัศจรรย์ในวันวิสาขบูชา จนกลายเป็นความฮือฮาที่แพร่สะพัดไปทั่วประเทศ
โดยเล่าถึงการปรากฏของพระพุทธเจ้าบนท้องฟ้า ในวันเวียนเทียนสมโภช
ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีการตีพิมพ์เรื่องราวของท่านลงหนังสือพิมพ์
หลวงปู่ท่านก็มีกิตติศัพท์เลื่องลือกึกก้องว่า
ท่านเป็นพระที่เก่งในทางวิปัสสนามากถึงระดับที่ว่า
สามารถอาราธนาพระพุทธเจ้าในอายตนนิพพานมาให้เห็นด้วยตาเนื้อได้แบบจะ ๆ
ซึ่งเรื่องราวนี้..เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเป็นประจำในพิธีเวียนเทียนในวันวิสาขบูชา
และวันมาฆบูชา ซึ่งในช่วงพิธีเวียนเทียน ตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็น
หลวงปู่จะให้พวกที่ทำวิชชาทั้งหมดมาพร้อมกันในโรงงานทำวิชชา
แม้ว่าช่วงเวลานั้นจะไม่ใช่เวรของตนก็ตาม
จากนั้นก็ใช้วิชชาธรรมกายช่วยกันอาราธนาพระธรรมกายให้มาปรากฏเหนือน่านฟ้าวัดปากน้ำ
อีกทั้งยังกลั่นแก้ธาตุธรรมของผู้มาเวียนเทียนให้สะอาดบริสุทธิ์ และเปิดเห็น จำ
คิด รู้ เพื่อให้เห็นพระธรรมกาย ซึ่งผู้ที่จะเห็นปรากฏการณ์นี้ได้นั้น
จะต้องอยู่ในอาการสงบ สำรวมกาย วาจา ใจ ต้องทำจิตให้เป็นสมาธิในขณะเวียนเทียนด้วย
ซึ่งในแต่ละปี ก็จะมีสาธุชนจำนวนมากได้ปาฏิหาริย์ ณ น่านฟ้าวัดปากน้ำแบบจะ ๆ ซึ่งบางคนก็เห็นพระปฏิมากรลอยอยู่เหนือน่านฟ้า
ปางสมาธิบ้าง ปางประทานพรบ้าง บางคนก็เห็นองค์พระจำนวนมหาศาลลอยอยู่เต็มท้องฟ้า
ซึ่งพอเห็นแล้วก็ปีติขนลุกชูชัน จนบางคนถึงกับปล่อยโฮร้องไห้ออกมาด้วยความดีอกดีใจ
หรือบางคนแม้เลิกเวียนเทียนแล้ว ขณะนั่งเรือจ้างออกจากวัดไปถึงท่าน้ำตลาดพลู
แต่พอเหลียวหลังกลับไปดูเหนือพระอุโบสถ ก็ยังสามารถเห็นพระพุทธเจ้าแก้วใสลอยอยู่เหมือนเดิม ซึ่งเรื่องนี้มีพยานที่มีตัวตนจริงที่ได้พบเห็นเป็นจำนวนมากมาย
อีกทั้งยังมีหลักฐานอยู่ในหนังสือของหลวงภูมินาถสนิท (สืบ ตังครัตน์)
ซึ่งเป็นมหาดเล็กคนโปรดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ว่า...
“ครั้งหนึ่งก่อนวันวิสาขบูชา
พ.ศ. 2489 ข้าพเจ้าได้รับคำบอกเล่าจากหลวงพ่อวัดปากน้ำว่า
พิธีเวียนเทียนในวันวิสาขบูชาปีนี้ หลวงพ่อได้อาราธนา อัญเชิญเสด็จพระพุทธองค์
ให้เสด็จมาปาฏิหาริย์ มาทรงเป็นประธานในพิธีด้วย ทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิตรวม 300 คน
เดินเวียนไปจวนจะครบสามรอบ มีอุบาสกผู้หนึ่งเอะอะขึ้นว่า
เขาได้เห็นพระพุทธนิมิตปาฏิหาริย์ปรากฏอยู่บนท้องฟ้า และชี้ให้ทุกคนดูในขณะนั้น”
...และที่น่าทึ่งมากไปกว่านั้น
มีบุคคลที่ไม่เชื่อและไม่ศรัทธา เดินทางมาพิสูจน์เป็นจำนวนมาก เช่น
คุณสุธรรม
จันทร์กลัด อดีตผู้พิพากษา หัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ ซึ่งได้กล่าวยืนยันว่า
ปกติท่านเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ ถึงขนาดทักท้วงว่า พระพุทธเจ้าท่านเสด็จปรินิพพานไปนานถึง
2,500 กว่าปีแล้ว ทำไมยังสามารถเสด็จมาให้เห็นได้อีก และด้วยเหตุนี้
จึงทำให้ท่านเดินทางไปพิสูจน์ โดยพาภรรยา คือ คุณพะยอม ไปเวียนเทียนด้วยกัน
และสุดท้ายก็ได้เห็นปาฏิหาริย์เหนือน่านฟ้าจริง ๆ ด้วยตาตัวเอง และทันทีที่เห็น
ท่านก็รีบคุกเข่ากราบลงกับพื้นพระอุโบสถวัดปากน้ำทันที 3 ครั้ง
จากนั้นก็รีบตรงเข้าไปในพระอุโบสถ แล้วไปก้มกราบที่หน้าตักของหลวงปู่
ทั้งที่ขนยังลุกซู่ไม่หาย แล้วก็ตั้งจิตอธิษฐานฝากเนื้อฝากตัว
ขอให้ได้เกิดมาเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ทุกชาติ
หรือแม้แต่ คุณโชติ วนิกเกียรติ
เดิมเป็นคนที่ไม่เลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่วัดปากน้ำเลย ถึงขนาดพูดกับพี่สาวของตัวเอง
คือ คุณชัช วินิกเกียรติ ที่มาวัดปากน้ำเป็นประจำว่า วัดใกล้ ๆ บ้านก็มี
ทำไมต้องไปทำบุญที่วัดปากน้ำด้วย เป็นเพราะติดใจพระรูปใดรูปหนึ่ง
หรือถูกหลวงปู่หลอกหรือเปล่า... แต่พอคุณโชติได้เดินทางมาพิสูจน์ และได้มาเห็นปาฏิหาริย์เหนือน่านฟ้าในวันเวียนเทียนด้วยตาตัวเองแบบจะ ๆ
ก็เลยเข้าใจ และรีบเข้าไปขออนุญาตกราบที่เท้าหลวงปู่ท่าน เพื่อขออโหสิกรรมที่เข้าใจผิด
และหลังจากนั้น คุณโชติก็เปลี่ยนใจหันมาเข้าวัด ปฏิบัติธรรม
และกลายเป็นอุปัฏฐากวัดปากน้ำ โดยมาทำบุญถวายน้ำอ้อยแด่หลวงปู่อยู่เป็นประจำ...
จากปรากฏการณ์เหนือน่านฟ้านี้เอง
เป็นการประกาศอนุภาพของพระรัตนตรัย และยกใจมหาชนผู้ที่ยังไม่เลื่อมใส
ให้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา หรือที่เลื่อมใสแล้ว ให้เกิดความเลื่อมใสยิ่ง ๆ ขึ้นไป
ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านได้ดำเนินรอยตามการประกาศธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่พระองค์ทรงใช้วิธีการสอนอยู่ 3 อย่าง ที่เรียกว่า ปาฏิหาริย์
3 เพื่อลดทิฐิมานะผู้เห็นผิดให้กลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้อง
ซึ่งปาฏิหาริย์ 3 อย่าง ได้แก่ อิทธิปาฏิหาริย์ (การแสดงฤทธิ์ที่พ้นวิสัยของสามัญมนุษย์ได้อย่างน่าอัศจรรย์) อาเทสนาปาฏิหาริย์ (การดักใจทายใจคนได้อย่างน่าอัศจรรย์) และ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ (คำสั่งสอนจูงใจคนให้นิยมเชื่อถือตามได้อย่างน่าอัศจรรย์)
ดังในครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ ตอนที่เสด็จไปโปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และเสด็จกลับลงมาในวันมหาปวารณา ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้พุทธานุภาพเปิดโลกทั้ง 3 ทำให้มนุษย์และเหล่าเวไนยสัตว์ทั้งหลาย สามารถมองเห็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นฟ้าที่มาส่งพระองค์ ซึ่งเป็นเหมือนกองทัพชาวสวรรค์ที่เลื่อนลอยลงมาจากนภากาศ มีความยิ่งใหญ่ประดุจพระเจ้าจักรพรรดิเสด็จออกยาตราทัพ โดยเหล่าเทวดาได้ลงมาทางบันไดทอง มหาพรหมลงมาทางบันได้เงิน ส่วนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงทางบันไดแก้วมณี
ขณะนั้นพระองค์ทรงเปล่งรัศมีสว่างไสวเรืองรองไปทั่วโลกธาตุ ทำให้เหล่าสรรพสัตว์ที่อยู่บนโลกทั้ง 3 คือ สวรรค์ มนุษย์ นรก สามารถเห็นกันและกันในเวลาเดียวกัน ทั้งเทวดา มนุษย์ สัตว์นรก สัตว์เดียรัจฉาน อสุรกาย ต่างเห็นกันและกันด้วยตาเนื้อเป็นอัศจรรย์ด้วยพุทธานุภาพ ซึ่งเมื่อสรรพสัตว์เห็นความอัศจรรย์เช่นนี้แล้ว ก็ต่างเกิดมหาปีติ พากันตั้งความปรารถนาที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้า เพราะเห็นพุทธานุภาพนั้น อีกทั้งบางคัมภีร์ยังกล่าวไว้ว่า แม้แต่มดซึ่งเป็นสัตว์เดียรัจฉาน ยังมีความรู้สึกนึกคิดปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าด้วย...
ดังในครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ ตอนที่เสด็จไปโปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และเสด็จกลับลงมาในวันมหาปวารณา ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้พุทธานุภาพเปิดโลกทั้ง 3 ทำให้มนุษย์และเหล่าเวไนยสัตว์ทั้งหลาย สามารถมองเห็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นฟ้าที่มาส่งพระองค์ ซึ่งเป็นเหมือนกองทัพชาวสวรรค์ที่เลื่อนลอยลงมาจากนภากาศ มีความยิ่งใหญ่ประดุจพระเจ้าจักรพรรดิเสด็จออกยาตราทัพ โดยเหล่าเทวดาได้ลงมาทางบันไดทอง มหาพรหมลงมาทางบันได้เงิน ส่วนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงทางบันไดแก้วมณี
ขณะนั้นพระองค์ทรงเปล่งรัศมีสว่างไสวเรืองรองไปทั่วโลกธาตุ ทำให้เหล่าสรรพสัตว์ที่อยู่บนโลกทั้ง 3 คือ สวรรค์ มนุษย์ นรก สามารถเห็นกันและกันในเวลาเดียวกัน ทั้งเทวดา มนุษย์ สัตว์นรก สัตว์เดียรัจฉาน อสุรกาย ต่างเห็นกันและกันด้วยตาเนื้อเป็นอัศจรรย์ด้วยพุทธานุภาพ ซึ่งเมื่อสรรพสัตว์เห็นความอัศจรรย์เช่นนี้แล้ว ก็ต่างเกิดมหาปีติ พากันตั้งความปรารถนาที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้า เพราะเห็นพุทธานุภาพนั้น อีกทั้งบางคัมภีร์ยังกล่าวไว้ว่า แม้แต่มดซึ่งเป็นสัตว์เดียรัจฉาน ยังมีความรู้สึกนึกคิดปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าด้วย...
Cr. ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์ สำนักสื่อธรรมะ
|
ทำไม...ศิษยานุศิษย์จำนวนมหาศาลถึงเคารพรักและศรัทธาท่าน
สยบกองทัพงู ณ วัดปากน้ำ
ขนาดลูกศิษย์รุ่นจิ๋วของหลวงปู่ยังทรงอภิญญา
การตรวจดูดวงบุญ
3 ศูนย์ (0) ปริศนา
ท่านศักดิ์สิทธิ์เกินไป
สั่งการปัดระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
เขาเห็น..ตอนปัดระเบิด
ดับเดือน..ดับดาว
ทำจันทรคราส (จันทรุปราคา)
แปลงร่างเป็นยักษ์กับเรียนวิชชาแปลงเพศ
ยิ่งกว่าหมอเทวดา
วิชชาชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นขึ้นมาใหม่
ตามเทวดา..มาเป็นลูก
สยบ..กองทัพหนูทำลายนาข้าว
แก้ฝนแล้ง-แก้น้ำท่วม
มะม่วง..ทองคำ
แตงโม..ออกลูกพึ่บพั่บอัศจรรย์
ฝรั่งและผัก..งอกฉับพลันกะทันหัน
หลวงปู่หยั่งรู้..อนาคต
หลวงปู่รู้อนาคตล่วงหน้าว่า..ใครจะเป็นพระสังฆราชองค์ที่ 17
พยากรณ์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำองค์ปัจจุบัน
สยบ..ไสยเวท
ตายแล้ว..ไปอยู่ที่ไหน
ตกนรก..ขึ้นสวรรค์
ช่วยผู้ตาย..ขึ้นมาจากนรก
รู้ความประพฤติลูกศิษย์..ด้วยญาณทัสสนะ
ทำไม..พระของขวัญ (พระผงวัดปากน้ำ) ถึงศักดิ์สิทธิ์ และมีอานุภาพมาก
ปาฏิหาริย์จีวรหลวงปู่
เห็นบ้านเมืองในอนาคต
ข้าวหลวงปู่..ทำให้อิ่มทิพย์
บอกเวลามรณภาพ
พระตาย..จะเลี้ยงพระเป็น
ชื่อรอด..แต่ไม่รอด
เรื่องไม่ลับ แต่คนรุ่นหลังไม่รู้ (ที่น้าองุ่นคุยกับปู่ผง)
สยบกองทัพงู ณ วัดปากน้ำ
ขนาดลูกศิษย์รุ่นจิ๋วของหลวงปู่ยังทรงอภิญญา
การตรวจดูดวงบุญ
3 ศูนย์ (0) ปริศนา
ท่านศักดิ์สิทธิ์เกินไป
สั่งการปัดระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
เขาเห็น..ตอนปัดระเบิด
ดับเดือน..ดับดาว
ทำจันทรคราส (จันทรุปราคา)
แปลงร่างเป็นยักษ์กับเรียนวิชชาแปลงเพศ
ยิ่งกว่าหมอเทวดา
วิชชาชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นขึ้นมาใหม่
ตามเทวดา..มาเป็นลูก
สยบ..กองทัพหนูทำลายนาข้าว
แก้ฝนแล้ง-แก้น้ำท่วม
มะม่วง..ทองคำ
แตงโม..ออกลูกพึ่บพั่บอัศจรรย์
ฝรั่งและผัก..งอกฉับพลันกะทันหัน
หลวงปู่หยั่งรู้..อนาคต
หลวงปู่รู้อนาคตล่วงหน้าว่า..ใครจะเป็นพระสังฆราชองค์ที่ 17
พยากรณ์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำองค์ปัจจุบัน
สยบ..ไสยเวท
ตายแล้ว..ไปอยู่ที่ไหน
ตกนรก..ขึ้นสวรรค์
ช่วยผู้ตาย..ขึ้นมาจากนรก
รู้ความประพฤติลูกศิษย์..ด้วยญาณทัสสนะ
ทำไม..พระของขวัญ (พระผงวัดปากน้ำ) ถึงศักดิ์สิทธิ์ และมีอานุภาพมาก
ปาฏิหาริย์จีวรหลวงปู่
เห็นบ้านเมืองในอนาคต
ข้าวหลวงปู่..ทำให้อิ่มทิพย์
บอกเวลามรณภาพ
พระตาย..จะเลี้ยงพระเป็น
ชื่อรอด..แต่ไม่รอด
เรื่องไม่ลับ แต่คนรุ่นหลังไม่รู้ (ที่น้าองุ่นคุยกับปู่ผง)
เห็นพระธรรมกายด้วยตาเนื้อ ณ น่านฟ้าวัดปากน้ำ
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
01:03
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: