สมาธิ... พลังสู่ความสำเร็จ


๓ นักธุรกิจกับเคล็ดลับสู่ความสำเร็จด้วยสมาธิ
ความสําเร็จเป็นสิ่งที่ทุกคนล้วนปรารถนา แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า เบื้องหลังของความสําเร็จนั้น ความเก่งอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ ต้องมีความเฮงเข้ามาช่วยด้วย ดังที่คนส่วนใหญ่มักเชื่อกันว่า เวลาจะทําอะไรก็ตาม ถ้าเก่งบวกเฮงรับรองไปโลดแน่! แต่แท้ที่จริงแล้ว ความเฮงนั้นแหละคือบุญที่คอยค้ำจุนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งหนึ่งในวิธีการเติมบุญ หรือเติมความเฮงให้กับตนเองที่สําคัญมากๆ คือ การนั่งสมาธิ นั่นเอง...

ฉบับนี้ ขอพาท่านผู้อ่านไปสัมผัสกับมุมมองของ ๓ นักธุรกิจจากชมรมคหบดีสัมพันธ์ ที่แต่ละท่านต่างก็ประสบความสําเร็จในชีวิตและธุรกิจ ด้วยการนั่งสมาธิ จากการที่ทั้ง ๓ ท่าน ได้มาพูดแบ่งปันประสบการณ์ ในการจัดกิจกรรมเปิดใจคนใหม่ที่บ้าน ซึ่งกิจกรรมนี้ได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวาง และสามารถเปิดใจให้ผู้มาใหม่หลายท่านได้เห็นความสําคัญของการนั่งสมาธิ และเดินทางไปปฏิบัติธรรม ๗ วัน ที่สวนพนาวัฒน์ และการปฏิบัติธรรม ๓ วัน ที่โรงแรมโฆษิตฮิลล์ ได้อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนเป็นต้นมา

สําหรับมุมมองของทั้ง ๓ ท่านจะเป็นอย่างไรนั้น ขอเชิญทุกท่านติดตามอ่านกันได้เลย...

วิไลวัลย์ วัชสิริเสรี
กรรมการผู้จัดการ บริษัทบางกอกคริสต์มาสฯ จำกัด
"สมาธิช่วยให้บริหารงานได้ดีขึ้น"

ดิฉันมีอาชีพทําพวกต้นสน ต้นคริสต์มาส พวกสายรุ้งปีใหม่ และก็สินค้าที่ใช้ประดับวันตรุษจีน แต่ก็เป็นชาวพุทธพันเปอร์เซนต์นะคะ จริงๆ แล้วอาชีพที่ทํามันก็มีปัญหาค่ะ แต่ว่าใจจะอยู่ในบุญตลอด ทําให้ทุกปัญหาที่เกิดขึ้นหมดไป

ก่อนที่จะรู้จักการปฏิบัติธรรม ชีวิตอยู่ในความประมาท เวลาส่วนใหญ่จะหมดไปกับการดูทีวีบ้าง หากเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ พวกลูกน้องเขาก็จะมาชวนกันทำอาหารทาน ทานเสร็จแล้วก็เล่นไพ่ เล่นตั้งแต่วันเสาร์ตอนเย็นจนถึงวันอาทิตย์ตอนเย็นนะค่ะ เห็นแล้วมันก็แปลกนะค่ะ เวลาเล่นแล้วก็อยากจะได้ ความโลภก็เกิดขึ้น แต่พอมีโอกาสเข้ามาปฏิบัติธรรมแล้ว ชีวิตก็จะเปลี่ยนไป เพราะเมื่อนั่งสมาธิ จิตก็จะเกิดสติและปัญญาขึ้น สามารถเอามาใช้กับการบริหารงานของเราได้

ปกติแล้ว ในแต่ละวันก็จะมีงานต่างๆ เข้ามามากมาย ถ้าหากว่าเรามีสติและปัญญาแล้ว เราก็จะสามารถทํางานแต่ละอย่างให้เสร็จไปได้อย่างราบรื่น โดยที่จิตของเราก็จะจดจ่ออยู่กับงานทุกงานที่ทำ จึงอยากจะบอกกับทุกท่านว่า จิตคนเราที่ฝึกดีแล้ว จะต้องนำสุขมาให้ค่ะ เพราะหลังจากที่เราได้เข้าวัดฟังธรรมะ และปฏิบัติธรรมแล้ว เราก็มาดูตัวเองว่า ยังผิดอะไรอยู่บ้าง ก็จะค่อยๆ แก้ไป เช่น มีสิบข้อ เราแก้ไปข้อหนึ่ง พอวันต่อไปเราฟังธรรม นั่งสมาธิอีก จิตก็จะบอกว่า ตรงนั้นไม่ดีนะ ก็จะค่อยๆ แก้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสิ่งที่ไม่ดีในตัวเราค่อยๆ หลุดออกไปเหมือนอย่างที่เราขัดคราบสกปรกของขันทองเหลือง ส่งผลให้ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ

นอกจากนี้ การนั่งสมาธิยังเป็นการสั่งสมบุญที่ดีที่สุดอีกด้วย เมื่อบุญเรามาก ก็จะดึงดูดแต่สิ่งดีๆ เข้ามา จะทําอะไรก็สําเร็จ อุปสรรคก็จะถอยห่างออกไป เช่น คู่แข่งเขาจะมาตัดราคาเรา หรือว่าจะมาทําอะไรเราก็ตาม แต่ลูกค้าของเราเขาก็ยังคงสนับสนุนเราเต็มที่เลยค่ะ เพราะฉะนั้นขอให้พวกเราผู้มีบุญทุกคนนะค่ะ ได้ไปลองนั่งสมาธิที่พนาวัฒน์สัก ๑ อาทิตย์ รับรองว่าถ้าได้ไปสัมผัสแล้ว คุณก็คงได้สัมผัสกับความรู้สึกเหมือนกับตัวดิฉันเองเคยรู้สึกมาก่อน แล้วเราจะได้เป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญค้ำจุนพระศาสนาด้วยกันค่ะ ...

สมเดช สุประดิษฐ์อาภรณ์
กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอส.เอ็น.สปอร์ตแวร์ จำกัด
"ลงตัวทั้งธุรกิจและจิตใจ"

แต่ก่อนผมก็เป็นเหมือนนักธุรกิจทั่วไป คือ จะเครียดกับงานตลอดเวลา พอดีเมื่อปี ๒๕๔๐ มีเพื่อนที่ประตูน้ำบอกว่า อาทิตย์หนึ่งเรามาชาร์ตแบตเตอรี่สักวันหนึ่งนะ คือ เขาชวนให้ผมมานั่งสมาธินะครับ เราก็เลยลองดู นั่งครั้งแรกรู้สึกมันโล่งโปร่งไปตั้งครึ่งชั่วโมง เราไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน ไม่เคยได้พักผ่อนทั้งกายและใจแบบนี้ ปกติเราเหนื่อยก็นอนพักผ่อนธรรมดา แต่ว่าหลังจากนั่งสมาธิครึ่งชั่วโมง เวลาพักผ่อน เพียง ๔-๕ ชั่วโมง ก็เพียงพอแล้ว

ส่วนมากผมชอบทํางานเยอะๆ สมองเราก็จําไม่ค่อยได้ แต่พอนั่งสมาธิแล้ว รู้สึกความจําเราจะดี แล้วที่สําคัญคือ เราสบายใจ ไม่เครียดอะไรมาก ผมชอบก็เลยนั่งมาเรื่อยๆ มันเหมือนกับว่าร่างกายเรามีเวลาพักผ่อน แต่ไม่ได้คิดว่าจะต้องเห็นอะไร หรือว่าถึงจุดไหนนะครับ ถือว่าเราได้พักผ่อน ก็โอเคแล้ว

ผลดีของสมาธิอีกอย่างหนึ่งก็คือ การค้าของผมก่อนช่วง IMF เราว่าดีแล้วนะครับ แต่มันก็แปลกหลังจากนั่งสมาธิแล้ว ในยุค IMF งานกลับดีกว่าเสียอีก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แปลก ผมก็บอกเพื่อนหลายคน เขาก็ไปทดลองนั่งสมาธิดู หลายคนก็มาขอบคุณผมที่แนะนําเขานะครับ มันแปลก บางทีมันเป็นเรื่องที่มองไม่เห็น แต่มันได้กับตัวเอง

ยิ่งหลังจากที่ได้ไปนั่งสมาธิที่พนาวัฒน์กลับมา รู้สึกว่าเรามีสติมากขึ้น คือมีใจอยากที่จะนั่งมากขึ้น สมาธินี่ดีอยู่อย่างหนึ่ง ไม่ต้องไปซื้อไปหามา เมื่ออยากนั่งเราก็ทําได้เลย ปกติผมจะขับรถเอง บางทีก็ให้คนขับรถขับ แล้วผมก็ไปนั่งสมาธิข้างหลัง มีโอกาสทําตลอด ๕ นาที ๑๐ นาที หรือ ๒๐ นาที ก็ทําได้ มันทําได้ตลอดเวลา ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร เพียงแต่ให้เรารู้หลักเท่านั้นเอง ให้เฉยๆ สบายๆ เท่านั้นเอง พอเรานั่งสมาธิไปนานๆ เหมือนใจเรามีบุญอยู่ เวลามีปัญหาหรือเจออะไรเราพยายามนึกถึงบุญที่เราได้นั่งสมาธิ มันก็ผ่านพ้นไปได้

ผมมีตัวอย่างอยากจะเล่าให้ฟังว่า ปกติแล้วผมจะผลิตเสื้อยืดได้ประมาณห้าหมื่น หรืออย่างมากก็ไม่เกินแสนตัวครับ แต่มาพักหลังๆ ผมก็ลองนั่งสมาธิแล้วอธิษฐานจิต ปรากฏว่า เมื่อเดือนที่แล้ว ผมได้ออร์เดอร์ ทําเสื้อของสินค้ายี่ห้อหนึ่ง ต้องส่งให้เขาอาทิตย์ละสามหมื่นตัว ตอนแรกก็คิดว่า ไม่รู้จะทําทันหรือเปล่า แต่พอนั่งสมาธิให้บุญมาหล่อเลี้ยง แล้วนึกอธิษฐาน มันก็ทําได้จริงๆ ครับ ๒ แสนกว่าตัวภายในเวลาไม่ถึงสองเดือน โดยที่เราก็ยังรับงานปกติควบคู่ไปด้วยครับ

มันก็แปลกนะเรื่องพวกนี้ ต้องลองดูอย่าเพิ่งเชื่อผม ลองดูเถอะครับ มันไม่มีอะไรเสียหาย เราไม่ต้องไปเสียค่าแป๊ะเจี๊ยะ ในการมานั่งสมาธิ เพียงแต่เรามีเวลาว่าง ๕ นาที ๑๐ นาที ก็ทําได้ ตัวผมเองทําแล้ว หน้าที่การงานรู้สึกราบรื่นขึ้นจริงๆ แล้วก็พอมีกําไร กำไรมันเหลือนะครับ ออร์เดอร์ของผมดีกว่าก่อน IMF เสียอีก ถ้ามีโอกาสไปนั่งสมาธิที่พนาวัฒน์ก็จะดีมาก น่าลองไปดู อยู่ที่นั่นผมปิดโทรศัพท์มือถือเลย จะได้นั่งสมาธิอย่างเต็มที่ ไม่ต้องห่วงกังวลอะไร ลองดูเถอะครับ นั่งสมาธิไม่มีค่าลิขสิทธิ์ แล้วชีวิตคุณจะมีแต่ความสุขแน่นอนครับ...

พ.ต.ธนพงษ์ จันทร์ทอง
กรรมการผู้จัดการ บริษัทสำเร็จดอทคอม จำกัด
"สำเร็จได้ด้วยสมาธิ"

ช่วงหนึ่งก่อนที่จะเข้าวัด ผมเจอปัญหาชีวิตที่หนักหน่วง ซึ่งผมเข้าใจเลยว่า เวลาเกิดวิกฤต ถ้าคิดไม่ออกคนเราถึงกับฆ่าตัวตาย แล้วผมเข้าใจนะคนที่ฆ่าตัวตาย เขาคิดอย่างไร เพราะว่ามันเป็นทางสองแพร่งมาก ก็คือสมบูรณ์หมดทุกอย่างทําบริษัทก็ร่ำรวย แล้วมันเปรี้ยง หมดเลยทุกอย่าง ก็งงว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่โชคดีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ผมเคารพมาก ท่านให้ข้อคิดทํานองว่า บุญเราคงหมดนะ งงมากเลย เพราะผมไม่เคยเชื่อว่าบุญมีจริง เรามั่นใจว่าเราเป็นคนดีคนหนึ่งไม่เคยรังแกใคร ไม่ได้เบียดเบียนใคร แต่พอเจอวิกฤตเข้ามันไม่มีทางเลือก

จากจุดนั้นแหละที่ผมเริ่มศึกษา แล้วผมก็ไปนั่งสมาธิ ๗ วัน ที่พนาวัฒน์ แต่ผมถูกส่งไปโดยไม่ได้เต็มใจไป เอาผมไปฝึกทหารเดือนหนึ่งผมยังไม่ว่า แต่เอาผมไปนั่งเฉยๆ ๗ วัน มันทรมานสําหรับคนที่ไม่ได้มีพื้นมาก่อนเลยมันเหมือนกับยังไม่ศรัทธาแล้วถูกส่งไปนั่ง ซึ่งจริงๆ การคิดกับการหยุดคิด คุณว่าอะไรง่าย ลองช่วยตอบนิดหนึ่ง คิดกับหยุดคิดอะไรง่าย หยุดคิดยากกว่าถูกไหม เพราะชีวิตคนเราคิดกันจนชิน คิดกันจนเพลิน คิดกันจนเคย ฉะนั้นพออยู่ๆ ต้องหยุดคิดเนี่ย ต้องฝึกกันจริงๆ ครับ นั่นแหละคือจุดเริ่มต้น ของผม

สิ่งหนึ่งที่ผมได้ก็คือ หลังจากที่ผมได้ข้อคิดบางอย่างกับชีวิต เขาบอกว่าถ้าบุญหมดก็เติมบุญได้ ถ้าบุญเก่ามีบุญใหม่ก็น่าจะสร้างได้ แล้วผมก็ได้เรียนรู้มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนดื้อๆ อย่างผมกล้าซักถามครับ แล้วที่ตรงนั้น ๗ วัน มันมากพอที่ผมจะซักถามได้ทุกวันครับ แต่ที่แปลกก็คือ พระที่วัดนี้ท่านให้ข้อคิดได้จริงๆ พอตรงนี้มันเคลียร์มันทําให้ผมยอมรับนะว่าทุกอย่างมันเป็นเรื่องของบุญ แต่ว่าถ้าจะเติมบุญทําอย่างไร เขาก็ให้หลักมา ๓ ข้อ ทาน ศีล สมาธิ คุ้นไหมครับ ๓ คํานี้

แล้วเขาก็บอกว่าบุญที่มากที่สุดก็คือ การฝึกสมาธินะครับ ผมอยากจะจบลงด้วยเรื่องหนึ่งก็คือ เสียงกับแสงอะไรไวกว่ากัน? แสงไวกว่าครับ แสงอยู่บนอากาศ มันไม่มีพลัง แต่ถ้าคุณเอาแว่นขยายไปส่อง แล้วโฟกัสดีๆ มันก็มีพลังนะ เวลามันรวมกัน ณ จุดที่เหมาะสมมันจะเกิดพลังแสงขึ้น แสงว่าเร็วกว่าเสียงแล้ว แต่แสงกับจิต อะไรเร็วกว่าครับ? จิตเร็วกว่าครับ คุณลองนึกถึงพระอาทิตย์ครับ แป๊บเดียวเอง

อานุภาพจิตของเราเร็วมาก และมีพลัง ที่หลายคนพูดถึงว่านั่งสมาธิแล้วเกิดความสําเร็จ ผมไม่แปลกใจเลย หลังจากที่ผมพิสูจน์และทดลองแล้ว จิตคนเรามีพลังนะแต่มันไม่เคยถูกการรวมที่ดี เราไม่เคยถูกฝึกเลย แต่คุณไป ๗ วัน คุณจะรู้หลักในการฝึกเมื่อคุณรวมพลังจิตได้ ทุกอย่างอยู่ที่คุณกําหนดจิต คุณจะทํางานอะไรก็ได้นะครับ

วันหนึ่ง ผมคิดชื่อเว็บไซต์เพื่อจะใช้เป็นชื่อบริษัท ผมนึกไม่ออก ก็เลยนั่งสมาธิ นั่งไปนั่งมาไม่รู้มันคิดได้ยังไง ผมอยากได้พวกทัศนคติดอทคอม, บีลีฟดอทคอม, ดรีม, ความฝันดอทคอม แต่มันมีชื่อพวกนี้ไปหมดแล้ว ล่ะแล้ววันหนึ่งผมก็นึกได้ด้วยการนั่งสมาธิ ผมก็ได้คําว่า “สําเร็จดอทคอม" เพราะไหมครับชื่ออย่างนี้ คุณว่าจะดังหรือไม่ในอนาคต วันหนึ่งมันจะเป็นเว็บไซต์ที่ใหญ่มากเลย ใครที่มีปัญหาชีวิต ใครที่ไม่สําเร็จเข้าสําเร็จดอทคอมจะสําเร็จหมด นี่คือคอนเซ็ปต์ แล้วผมก็ทำรายการวิทยุ รายการโทรทัศน์ แล้วล่าสุด ก็กล้าทําหนังสือพิมพ์ กลัวไหม กลัวจริงๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนไม่กล้า แต่พอนึกกลัวก็นั่งสมาธิแล้วก็จะนิ่งขึ้นนิดหนึ่ง แล้วก็จะคิดออก ขอให้เชื่อมั่นในบุญนะครับ และก็บุญที่ดีที่สุด ก็คือสมาธิ ๗ วัน คุณเคยให้อะไรกับชีวิตมากมายกับคนอื่น ปีหนึ่งๆ ทํางานให้คนอื่นมากมาย ผมอยากจะบอกว่า ลองให้อะไร เป็นรางวัลกับชีวิตคุณบ้าง แล้วพบกันที่พนาวัฒน์นะครับ

วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๙ ประจำเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖

***สามารถนำไปเผยแพร่ได้ แต่ขอให้ใส่ Cr. ผู้เขียนด้วย***

คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญ ในรูปแบบของ PDF

https://drive.google.com/file/d/1-GH37LtVWV9JrKJ74Brr0UuJgVWg1W_d/view

คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญ ในรูปแบบของ E-book
http://dhammamedia.org/YNB%202546/09YNB_4607/09YNB_4607.html

คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๙ ประจำเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้ที่นี่







สมาธิ... พลังสู่ความสำเร็จ สมาธิ... พลังสู่ความสำเร็จ Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 22:09 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.