เลิกบุหรี่ สุราเมรัย คือความภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ


หยุด..สิ่งที่ทําให้เสียใจที่สุดในชีวิต
การตายของพ่อ ผู้รับภาระทุกสิ่งทุกอย่างของบ้าน ทําให้คุณแม่ของผมเสียสติ อย่างกระทันหัน หลังจากที่รับรู้ว่า พ่อขับรถชนผู้หญิงท้อง แล้วเสียหลักพุ่งเข้าชนเสาไฟฟ้า แล้วเสียชีวิตทันที เพราะเมาในขณะขับรถ... (..สิ่งเสียใจที่สุด ของลูกชายวัย ๑๕ ขวบ)

ผมไม่ได้อยากติดยา หรืออยากทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาหรอกครับ ใครมันจะอยากเป็นเด็กมีปัญหา แต่พ่อกับแม่ผมตีกันทุกวัน หลังจากที่ดื่มเหล้า ครอบครัวผมไม่เคยมีความสุขเลย... ( ..สิ่งเสียใจที่สุด ของเอก ผู้กําลังอยู่ในสถานที่เลิกและบําบัดยาเสพติดแห่งหนึ่ง)

นึกแล้ว เสียใจมากที่พลาดไปในวันนั้น รุ่นพี่มหาวิทยาลัยพาเราไปรับน้อง แล้วก็พาไปต่อ.. คือตอนนั้นเราเมาแล้วไม่รู้สึกตัว แล้วไม่นานต่อมาก็พบว่าตัวเองท้อง... (..สิ่งเสียใจที่สุดของนักศึกษาหญิง ที่หมดอนาคตในการศึกษา เพราะต้องออกมาเลี้ยงลูกที่ฝ่ายพ่อของเด็กไม่รับผิดชอบ)

...ขณะที่ตัวหนังสือกําลังทยอยผ่านสายตาคุณไปขณะนี้ กำลังมี..สิ่งที่เสียใจที่สุดของมนุษย์ ต่างเรียงคิวกันเกิดขึ้นทุกชั่วขณะ เพราะผลจากสุรา และของมึนเมา แต่จะน่าเสียใจเป็นที่สุด ถ้าคิวต่อไปเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวที่เรารักที่สุด หรืออาจเป็นตัวเราเอง

ดังนั้นเรื่องสุราที่นํามาเสนอในคอลัมน์นี้ เป็นมุมคิดอีกด้านหนึ่ง เพื่อเราจะได้ไม่ต้องกล่าวคำว่า ผมเสียใจ..ดิฉันเสียใจ โดยไม่มีโอกาสแก้ตัว ในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้อีกเลย...

ซึ่งบางที มุมคิดนี้ อาจเป็นตัวเลือก หรือคําตอบที่ทําให้ชีวิตคุณ พบสิ่งที่ดีที่สุดก็ได้

ผมว่า..ถ้าไม่ดื่มเหล้า ก็เข้าสังคมไม่ได้ กลัวเพื่อนไม่คบด้วย
อีกความคิด เพื่อชีวิตที่ดีกว่า : ถ้ามาดูกันจริงๆ แล้ว การที่คนๆ หนึ่งจะตัดสินใจเลือกคบค้าสมาคมกับใครนั้น เขาเลือกกันที่นิสัยใจคอของคนๆ นั้นมากกว่า ไม่ได้เลือกว่า ถ้าเราไม่ดื่มเหล้าแล้วจะเลิกคบ หรือคงเคยเห็นตัวอย่างคนที่เข้าสังคมเก่งกินแต่เหล้า พอขาดสติก็ก่อความเดือดร้อน งานการก็ทําไม่ได้เรื่อง อย่างนี้มีคนเลิกคบไปกันมากต่อมากแล้ว หรือถ้าลองย้อนถามตัวเราเองว่าถ้าจะเลือกคบใครจริงๆ เราดูจากอะไร ..เราก็ต้องดูที่นิสัยใจคอ ความมีน้ำใจ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เอาเปรียบคน ช่วยเหลือเราได้ แต่ถ้าคุณเกิดมีเพื่อนที่เขาคิดจะเลิกคบกับคุณจริงๆ เพราะคุณไม่ดื่มเหล้ากับเขา คือถือว่าเหล้าดีกว่าเพื่อนดีๆ อย่างคุณ คุณจะยอมเฉยๆ กับเพื่อนคนนั้นไปแค่คนเดียวก็ไม่แปลก เพียงขอให้คุณยืนหยัดในความดีของคุณไว้ ซึ่งเราเชื่อเสมอว่า สักวันเขาต้องคิดถึงคุณ และวันนั้น.. เราจะมีโอกาสบอกเขาว่าเรามีสิ่งที่ดีกว่าสําหรับเขา

เจ้านาย..กินเหล้า ถ้าเราไม่กิน ไม่เที่ยว ไม่สังสรรค์กับเจ้านาย กลัวเจ้านายไม่ชอบ จะมีผลต่อหน้าที่การงาน
อีกความคิด เพื่อชีวิตที่ดีกว่า : เจ้านายที่ดีที่มีวิจารณญาณ เขาย่อมดูจากคนที่ทํางานดี มีความรับผิดชอบมากกว่าการที่คุณจะไม่ไปกินเหล้ากับเขา แล้วเขาเกิดไม่ชอบคุณ ซึ่งบางทีลูกน้องที่กินเหล้าเมามายแล้วลุกมาทํางานไม่ไหว ทํางานไร้ประสิทธิภาพ ผลสุดท้ายเขาก็ไล่ออก ซึ่งในสังคมก็เห็นกันมานักต่อนักแล้ว คนที่ไปกินเหล้ากับเจ้านาย ในที่สุดก็ต้องทะเลาะกับเจ้านายสักวัน เพราะเมาจนเผลอตัว และพูดจาไม่เหมาะสม ทำกริยาไม่ควร จนต้องผิดใจกับหัวหน้า และโดนไล่ออกในที่สุด ซึ่งคนมีปัญญาส่วนใหญ่เขาก็ไม่เลือกที่จะสนิทกับเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานโดยวิธีนี้ แต่จะใช้วิธีที่แสดงออกถึงความจริงใจ ห่วงใย ช่วยเหลือ และในที่สุด ก็ประสบความสําเร็จในชีวิตการทํางานได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ดื่มไวน์นิดหน่อยเป็นผลดีต่อสุขภาพ ทําให้ไม่เป็นโรคความดัน..เป็นการดื่มเพื่อสุภาพ
อีกความคิด เพื่อชีวิตที่ดีกว่า : คุณคงเคยฟังเพลง ..ถึงเขาหลอก ก็เต็มใจให้หลอกไหม..? น่าจะเหมาะกับการตอบคําถามนี้ที่สุด แท้จริงการรักษาสุขภาพให้ดี ต้องเกิดจากการออกกําลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารให้ถูกสุขลักษณะ ทําจิตใจให้ผ่องใสมากกว่า แล้วเปลี่ยนจากการดื่มไวน์ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาเป็นยาบำรุง หรือทานยาตามหมอสั่ง น่าจะเป็นทางตรงในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้ถูกต้องมากกว่า เพราะการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด มีอันตรายต่อตับทั้งสิ้น ซึ่งไม่อยากให้หลงเชื่อเหตุผลบางอย่างที่นํามาใช้อ้างควบคู่กับการโฆษณาขายเครื่องดื่มชนิดนี้

เครียดงาน กลุ้ม อกหัก เลยต้องดื่มเหล้า.. สูบบุหรี่ ให้ลืมทุกข์ ระบายความเครียด
อีกความคิด เพื่อชีวิตที่ดีกว่า : ปัญหาที่กําลังเจอก็มากพออยู่แล้ว ทําไมต้องสร้างปัญหาเพิ่มด้วยการดื่มเหล้า คนมีปัญหาเป็นคนน่าเห็นใจ แต่ถ้าดื่มเหล้าเข้าไปจะกลายเป็นคนน่าสมเพชแทน เพราะนอกจากเหล้าจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาแล้วกลับยังเป็นจุดกําเนิดของปัญหาที่เพิ่มขึ้นอีก เพราะทําให้คนรอบข้างที่รักเราเป็นทุกข์ไปด้วย ซึ่งการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เป็นการหลอกตัวเองชั่วคราว ทําให้มึนๆ งงๆ โดนกดไว้ชั่วขณะลืมเรื่องราวได้ชั่วขณะ แต่ในที่สุดพอสร่างเมาก็ต้องเผชิญกับความจริง ซึ่งปัญหาก็ยังไม่ถูกแก้เลย แต่ถ้าเรามาศึกษาดูถึงวิธีทําให้หายเครียดอย่างถูกต้อง เราพบว่ามีอยู่หลายวิธี เช่น ออกกําลังกาย ทําจิตใจให้สงบโดยการฝึกสมาธิ เพราะเมื่อจิตสงบ เราจะพบทางออก เราจะมีปัญญาใช้แก้ปัญหาได้ และแถมยังมีกําลังใจเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งวิธีนี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย เพียงมีร่างกายกับใจแล้วก็นั่งนิ่งๆ เงินทองก็ไม่ต้องเสีย ไม่ต้องเสี่ยงกับอุบัติเหตุหรือผลพวงอื่นๆ ที่ตามมาจากการดื่มเหล้าสูบบุหรี่อีกมากมาย

ดื่มนิดหน่อย แต่ไม่ได้ขาดสติ...
อีกความคิด เพื่อชีวิตที่ดีกว่า : สติ แปลว่า ความระลึกรู้ เราก็รู้แก่ใจว่าเหล้าไม่ดี บุหรี่ไม่ดี ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ดีแล้วยังดื่ม ก็เท่ากับการขาดสติตั้งแต่เริ่มคิดดื่มไปเรียบร้อยแล้ว

ดื่มแล้วอารมณ์ดี เช่น คุณพ่อดื่มเหล้าแล้วอารมณ์ดี...
คิดอีกด้าน : อารมณ์ดี แต่จะตายดีหรือเปล่าไม่รู้ ถ้ารักคุณพ่อก็อย่าให้คุณพ่อดื่มเลย เราคงไม่อยากเห็นคนที่เรารัก ญาติสนิท เพื่อนพ้องของเราตายเพราะพิษสุราเรื้อรัง เพราะติดเหล้า พูดกันจริงๆ แล้วไม่มีใครคิดหรอกว่าตัวเองจะติดเหล้า แล้วก็ไม่อยากติดด้วย แต่พอรู้ตัวอีกทีก็ติดจนเลิกไม่ได้ แล้วที่ติดก็เพราะมีเหล้าแก้วแรก ดังนั้นอย่าส่งเสริมให้มีแก้วแรกกับตัวเรา และคนที่เรารักเลย

เพื่อนชวนเอามากๆ เลยปฏิเสธไม่ได้...
อีกความคิด เพื่อชีวิตที่ดีกว่า : ในเมื่อเขาก็ชวนดื่มได้.. เราก็ต้องกล้าชวนเขาเลิกได้ เขาว่าความเกรงใจเป็นสิ่งที่ดี แต่การชวนคนทําดี ไม่ต้องเกรงใจใคร

ต้องลองเพื่อให้รู้ จะได้รู้และมีประสบการณ์ว่ามันไม่ดีอย่างไร
อีกความคิด เพื่อชีวิตที่ดีกว่า : ความจริงคนเราไม่เห็นต้องมีประสบการณ์ในสิ่งที่รู้แล้วว่าไม่ดีไปเสียทุกอย่าง เพราะเรามีดวงปัญญาพอ ที่พอเห็นว่าไม่ดี แล้วก็ไม่ต้องไปลอง เช่น เราเห็นคนโดนงูกัดแล้วตาย เราจําเป็นต้องไปลองรีเปล่า..? หรือเห็นน้ำร้อนเดือดๆ เราต้องเอามือไปจุ่มเพื่อให้รู้ว่าโดนลวกเป็นอย่างไรไหม..? เช่นกัน ของอะไรที่รู้แล้วว่าไม่ดี ก็อย่าไปลอง เพราะผลเสียมันไม่คุ้มกัน

จาก..อีกความคิด เพื่อชีวิตที่ดีกว่านี้ เราขอยืนยันว่าเกิดจากความปรารถนาดี ห่วงใยคุณและคนรอบข้างคุณอย่างแท้จริง เพราะเราไม่อยากเห็นสิ่งที่ไม่ดีหลายๆ อย่าง เกิดขึ้นกับทุกชีวิต เพราะกระแสค่านิยม หรือความเชื่อผิดๆ และเราก็ขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมกันสร้างสรรค์สังคมด้วยการเลิกดื่มสุรา และเสพของมึนเมา ดังคำขวัญที่ว่า

“เลิกบุหรี่ สุราเมรัย คือความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ"

กำเนิดน้ำอุบาทว์
อุบาทว์... เพราะดื่มแล้ว... จากคนรวย... กลายเป็นคนเคยรวย
อุบาทว์... เพราะดื่มแล้ว... จากคนสวยคนหล่อ... กลายเป็นคนเคยสวยเคยหล่อ
อุบาทว์... เพราะดื่มแล้ว... จากคนเก่ง...กลายเป็นคนเคยเก่ง
อุบาทว์... เพราะดื่มแล้ว... จากคนที่แข็งแรง... กลายเป็นคนขี้โรคพิกลพิการ
อุบาทว์... เพราะดื่มแล้ว... จากครอบครัวที่อบอุ่น... กลายเป็นครอบครัวที่อบอ้าว

เพราะดื่มแล้ว...ทําให้ชีวิตมีแต่เสนียดขับเสน่ห์ออกจากตัวเพิ่มอัปมงคลเข้าตัวนั่นเอง น้ำผสมยาพิษดื่มแล้วมีฤทธิ์ปลิดชีวิตทันทีก็ยังมีความหายนะน้อยกว่าน้ำที่จะกล่าวถึงนี้ไม่ได้ เพราะน้ำนี้แม้จิบทีละนิดอาจจะไม่ถึงตายแต่ก็สร้างความหายนะมานับไม่ถ้วน ติดตามต้นกําเนิด และเส้นทางความหายนะดูว่ามันนําความหายนะมาสู่โลกอย่างไรบ้าง... เรื่องนี้ปรากฏในพระสัพพัญญุตญาณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดังนี้ว่า (ขุ.ชา. ติงสตินิบาต มก.๖๑/๓๑๙)

ในอดีตมีต้นไม้ต้นหนึ่ง มีโพรงที่เต็มไปด้วยน้ำสีแดง เพราะมีพืชตกลงมารวมตัวอยู่ ฝูงสัตว์กินแล้วนอนหลับ รู้สึกตัวแล้วก็จากไป พรานสุระได้ดื่มน้ำนั้นแล้วเกิดติดใจจึงชวนวรุณดาบส นำน้ำนั้นไปถวายพระราชาในปัจจันตประเทศ และได้ปรุงสุราขึ้นในพระนคร โดยเอาสูตรจากโพรงไม้นั่นเอง ทำพระนครให้ยากจนพินาศลงแล้วไปเมืองพาราณสี ทําพระนครนั้นให้พินาศเช่นเดียวกัน ต่อมาหนีไปเมืองสาวัตถี
กราบทูลพระเจ้าสัพพมิตต์กษัตริย์ครองเมืองสาวัตถีและได้ปรุงสุราใส่ตุ่ม ๕๐๐ ใบถวาย แมวได้กินสุราที่ไหลล้นลงก้นตุ่มเมาแล้วหลับไป พวกหนูมาแทะหู จมูก หนวด และหางแมว พระราชาจึงตัดศีรษะคนทั้งสองเพราะคิดว่าทํายาพิษ เมื่อแมวสร่างเมาลุกได้ พระราชาจึงคิดจะเสวยสุราบ้าง ท้าวสักกเทวราชเห็นว่าชมพูทวีปจะพินาศ จึงลงมาประทานโอวาทให้เห็นโทษของการดื่มสุราแก่พระเจ้าสัพพมิตต์ พระองค์เลยไม่ดื่มแต่สุราก็ยังมีผู้ที่ดื่มกันเรื่อยมา

นับตั้งแต่สุระพรานป่า จับมือกับวรุณดาบสนําน้ำสุรามาสู่เมือง ความหายนะก็ได้เกิดแก่มนุษย์นับตั้งแต่นั้นมาไม่ว่าจะเป็นสุขภาพกายที่ทรุดโทรม สภาพใจที่อ่อนแอลังแต่จะสร้างปัญหาให้กับครอบครัวและสังคม หรือโทษอย่างเบาที่สุดที่พุทธองค์ทรงชี้ไว้คือ เกิดมาเป็นคนบ้าเสียสติ ผู้ที่ดื่มสุราคือผู้ที่นําพาตน และคนรอบข้างเข้าสู่ความหายนะกันเห็นๆ ในชาตินี้ ดังตัวอย่างของสุระพรานป่าและวรุณดาบสที่ถูกตัดหัวเพราะกรรมที่ทําแท้ๆ เชียว...





 สุราเมรัย น้ำเปลี่ยนนิสัย ให้ไปอบาย 
เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาหลวงพ่อธัมมชโย 
เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๖

นี่คือยอดนักรบ วีรบุรุษวีรสตรีกองทัพธรรม เป็นบุคคลสําคัญของโลก
โลกไม่ได้รู้เลยว่า โทษของน้ำอุบาทว์ มากมายมหาศาลขนาดไหน จึงได้ผลิตขึ้นมาจำหน่ายและดื่ม หรือมอบเป็นของขวัญกัน เขาไม่รู้เลยว่า มีโทษมาก ทั้งต่อตนเอง ต่อครอบครัว ต่อสังคม ต่อประเทศชาติ และต่อโลก

มีทุกข์ในปัจจุบัน ทั้งเสียเงินเสียทอง เสียเวลา เสียอวัยวะ เสียชีวิต เสียผู้เสียคน เสียโอกาสที่จะได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ตายไปแล้วยังไปทุกข์ทรมานในอบาย ไปตกนรกอีกยาวนาน มาจากมหานรกขุม ๕ ไปขุมบริวาร และพอได้ดื่มแล้วก็พลาดพลั้งผิดศีลข้ออื่นไปอีก ซึ่งไปล่วงละเมิดกฎแห่งกรรมเข้า ต้องวนเวียน ท่องอยู่ในมหานรก แล้วไปขุมบริวารบ้าง มายมโลก มาเป็นเปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน เมื่อเป็นมนุษย์ก็ปัญญาอ่อน เป็นบ้า จิตวิปลาสบ้าง อะไรต่างๆ สารพัด กรรมอื่นก็มาส่งผลอีกเยอะแยะ

ชาวโลกไม่ได้รู้เลย เพียงเห็นว่า ขวดสวยๆ ก็เอามาตั้งโชว์ในบ้านด้วยความไม่รู้ ด้วยความภูมิใจว่า ได้มีเหมือนกับเขา และก็เอามาโชว์ เพราะว่าเขาดีไซน์ขวดให้พอทนดูได้ ก็ทนๆ ดูไปอย่างนั้น แล้วสิ่งเหล่านี้ก็เลยเป็นแบบอย่างกันไปเรื่อย ทัศนคติของโลกจึงเปลี่ยนแปลงไปจากสว่างมาเป็นมืด

เพราะฉะนั้นผู้ที่จะเป็นบุคคลสําคัญของโลกได้ ก็เพราะเขากําลังพลิกความเห็นผิดของชาวโลก หรือทัศนคติที่ผิดๆ หันกลับมาเป็นสัมมาทิฐิ มีความเห็นที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นต้นทางของมรรค ๘ ของการบรรลุหนทางอันเป็นเกษม คือบรรลุมรรคผลนิพพาน อย่างกล้าหาญ ด้วยอาการที่ร่าเริงเบิกบาน มีปีติ มีความสดชื่นทีเดียว เพราะฉะนั้น บุคคลเช่นนี้ ต้องยกย่องว่า เป็นบุคคลสําคัญของโลก เป็นวีรบุรุษวีรสตรีกองทัพธรรมอย่างแท้จริง

ควันบุหรี่ทำลายสุขภาพของมนุษย์ มนุษย์ควรจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เพื่อจะได้เอาความแข็งแรงนี้ มาสร้างความดี มาทําพระนิพพานให้แจ้ง แล้วก็จะได้ไปเผยแผ่ธรรม นำคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปยังชาวโลก แต่ว่าเรามาตกเป็นทาสของควันเล็กๆ น้อยๆ ของบุหรี่ หรือตกเป็นทาสของสุราก็ดี พอเสพติดแล้วมันก็ตกเป็นทาส เราถูกริบสิ่งที่ดีงามไปหมดเลย

ภาพที่ลูกๆ ได้เทเหล้าเผาบุหรี่ในวันนี้ จะเป็นต้นบุญต้นแบบแก่โลก เป็นแบบอย่างที่ดีของเราที่จะเป็นมรดกโลกต่อไป นี่คือสัญลักษณ์ของผู้ที่มีชัยชนะ อย่างนี้เขาเรียกว่า ชนะมาร หลวงพ่อก็อนุโมทนาด้วย ขอให้สมความปรารถนาในทุกสิ่งนะลูกนะ

เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาหลวงพ่อธัมมชโย
เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖

ดื่มเหล้าก็เหมือนกับดื่มยาพิษนั่นแหละ แม้ว่าถูกกฎหมาย แต่ผิดกฎแห่งกรรม ถือว่าไม่รับผิดชอบต่อสังคม ถ้าใครค้าก็รวยชาติเดียว ตายแล้วไปอบาย เมื่อหมดกรรมในอบาย เกิดมาเป็นมนุษย์ ก็จะเป็นมนุษย์ที่ยากจนในวัฏฏะอีกยาวนาน และเดื่อดร้อน ทั้งจนทรัพย์ อวัยวะก็พิกลพิการ มีโรคภัยไข้เจ็บร้ายแรงเยอะแยะ ถูกคนดีดูหมิ่นเหยียดหยามสารพัด อายุก็ไม่ยืน

เพราะฉะนั้นน้ำอย่างนี้ ใครใส่ขวดเอาไว้ตั้งโชว์ที่บ้าน เพราะเห็นว่าเป็นของสวยๆ งามๆ ช่วยยกฐานะขึ้นมาเป็นผู้มีรสนิยมสูง แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโวท่านบอกว่า นั่นเป็นน้ำเสนียด ถ้าอยากให้เป็นบ้านเสน่ห์ก็ต้องเอาเสนียดออกจากบ้าน อย่าไปให้ใครเลย เทน้ำทิ้ง ขวดก็ทุบทิ้งเสีย เอาเสนียดออกจากบ้าน แล้วความมีเสน่ห์ ความเป็นสิริมงคล จะเกิดขึ้นภายในบ้าน แล้วจะเป็นที่มาแห่งโภคทรัพย์

เพราะฉะนั้น ใครมีน้ำอย่างนี้ มีภาพอย่างนี้ มีปฏิทิน หรืออะไรก็แล้วแต่ ให้เอาออกจากบ้านเรานะลูกนะ แล้วถ้าเจอใครละก็ ไปแนะนํากันต่อๆ ไป ให้เขาเลิกเสีย ยิ่งเป็นบรรพชิต เป็นนักบวชยิ่งเป็นหน้าที่โดยตรงเลย ไม่ต้องไปเกรงใจใคร เป็นหน้าที่ของนักบวชก็จะต้องสอนกันไป เราต้องสงสาร กลัวเขาจะมีทุกข์ในอบาย และในสังสารวัฏอีกยาวนาน เราต้องช่วยกันรับผิดชอบต่อสังคม และต่อโลก


เมื่อเจ้าของร้านเหล้าใหญ่ ในอเมริกา... หักดิบ
ผมชื่ออานนท์ สุวรรณวิจิตร (โจ) ภรรยาชื่อสมศรี สุวรรณวิจิตร (แต๋ว) เป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ได้มาสร้างบุญที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมวอชิงตัน (ซีแอตเติ้ล) ตั้งแต่ ปี ๒๕๔๑

ผมมาอยู่อเมริกา ๒๙ ปีแล้ว เมื่อ ๒๖ ปีที่แล้วผมเริ่มเข้าสู่วงการอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีประสบการณ์ในหลายๆ รัฐของอเมริกา เคยเป็นตั้งแต่บาร์เทนเดอร์ ในเพลย์บอยคลับ จนถึงตําแห่ง Food & Beverage Director (ผู้จัดการแผนกอาหารและเครื่องดื่ม) ที่โรงแรม Sheraton Boston Hotel & Tower (เชอราตัน บอสตัน โฮเต็ล แอนด์ ทาวเออร์) รัฐแมสซาชูเซส ขณะนั้นมีลูกน้องประมาณ ๒๐๐ คน เป็นกฏที่ว่า ทุกโรงแรมต้องมีร้านอาหารและเหล้าเสริฟ สิ่งนี้ ทําให้ผมรู้และเชี่ยวชาญในเรื่องการผลิต การเก็บรักษา การเสริฟ เหล้า เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ จนมาถึงเป็นผู้จัดการร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ติดมหาวิทยาลัย U.C.L.A. (ยู ซี แอล เอ) (มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมาก Top Ten ของอเมริกา) เวลานั้นถือเป็นร้านอาหารที่ประสบความสําเร็จและมีชื่อมาก ตอนนั้นผมคิดอย่างเดียวว่า จะทําทุกวิถีทางเพื่อดึงนักศึกษาที่นี่ออกมากินเหล้าให้มากที่สุด

ปัจจุบันผมเปิดร้านอาหารที่เมือง Bremerton (เบรมเมอร์ตัน) ใกล้ซีแอตเติ้ล ได้รับใบอนุญาตให้ขายเหล้า จนเมื่อเราได้มาศูนย์ปฏิบัติธรรมวอชิงตัน (ซีแอตเติ้ล) ได้มาฟังคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เรื่องโทษและผลที่จะได้รับจากการดื่ม ขาย ตลอดจนผลที่เป็นผู้สนับสนุนเรื่องสุราทั้งหมด ทําให้ผมตัดสินใจ เลิกขายเครื่องดื่มแอลกฮอล์ทุกชนิดอย่างเด็ดขาด! ถือว่าเป็นการตัดสินใจครั้งสําคัญในชีวิต เพราะสิ่งเหล่านี้ เป็นรายได้หลักของร้าน เหล้า เบียร์ ไวน์

วันจันทร์ที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๖ ผมและภรรยา นําเหล้า ไวน์ เบียร์ บรั่นดี คอนญัคส์ ราคาแพงเหล่านั้น ที่มีอยู่ในบ้าน และที่ร้านอาหาร ทั้งหมด ๑๐๐ กว่าขวด ขวดที่แพงที่สุดเป็นขวดที่ผมรักที่สุด ซึ่งผมจะใช้จิบในวันงานสําคัญ เช่นฉลองเวลาทําธุรกิจประสบความสําเร็จเท่านั้น นํามาเททิ้ง แล้วทุบขวดทั้งหมดด้วย “สาก” เรามีความสุขมาก รู้สึกเย็นกายเย็นใจ ไม่เสียดายเลย ดีใจที่เรากล้าทําแล้วก็สําเร็จ เราเปิดร้านอาหารใหม่ที่ไม่ขาย “เครื่องดื่มอุบาทว์" เหล่านี้อีก เพราะเมื่อร้านเราปราศจาก “ของไม่ดี” ก็เท่ากับเป็นการคัด “คนดีๆ” ให้มาเข้าร้านเราด้วย ตอนนี้ร้านใหม่ของเราขายดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ไม่ขายเหล้า กราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ผู้ชี้ทางสว่างให้กับครอบครัวลูก ทําให้ลูกได้รับความสุขที่เงินมิอาจซื้อได้

ใครดื่มสุราเมรัย ขัดใจผู้พัน
กระผมพันโทกล้าณรงค์ ไพรีพ่ายฤทธิเดช เป็นทหารแห่งกองทัพไทย และกองทัพธรรม ส่วนตัวไม่เคยดื่มสุราเลย เพราะไม่ชอบ และรู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรต่อสุขภาพ และยังเสียเงินอีก เหมือนเรื่องราวในพระไตรปิฎกที่หลวงพ่อนํามาสอนอยู่ในช่วงนี้ แต่ในหน้าที่การงานที่ดูแลทหารทั้งกองพันที่มีการดื่มสุรากันอยู่ กำลังจะหาวิธีให้เขาเลิกสุรากันอย่างไร เพราะทหารกับสุราเป็นของคู่กัน “เมียทหารนั่งนับขวด”

พอได้ฟังหลวงพ่อเล่า ตรงใจเลยจะได้นำไปสอนทหารต่อ และเกิดแรงบันดาลใจ ที่จะเทเหล้าทิ้งต่อหน้านายทหารทั้งกองพัน ปีใหม่ที่ผ่านมา พ.ศ.๒๕๔๖ เทไป ๑๐๐ กว่าขวด ที่หน้าบ้าน

ล่าสุดได้มีคนนําสุรามาให้อีก ๑ ลัง จึงเป็นโอกาสอันดีในวันนี้ วันจันทร์ที่ ๒ มิ.ย. พ.ศ.๒๕๔๖ เวลา ๐๘.๐๐ น. ที่จะได้ทําการเทสุราต่อหน้านายทหารทั้งกองพันประมาณ ๗๐๐ กว่านาย ให้รับทราบนโยบาย "ใครดื่มสุราเมรัยขัดใจผู้พัน” และมีความมั่นใจว่า การกระทําในครั้งนี้จะส่งผลให้มีการเปลี่ยน แปลงที่ดีขึ้น คงจะเล่ากันไปปากต่อปากและคงจะไม่ได้รับเหล้าเป็นของฝากอีกต่อไป

ห้างฯ นี้ ไม่ขายเหล้า
ลูกเพียรใจ โรจนสินวิไล ..ครอบครัวของลูกทําธุรกิจค้าปลีก ทั้งห้างสรรพสินค้าและสาขาย่อย โดยเฉพาะแผนกซุปเปอร์มาร์เกต จะมีสินค้าหลากหลายชนิด รวมถึง เหล้า เบียร์ อย่างที่ทุกแห่งมี ต่อมา ได้ฟังคําสอนของคุณครูไม่ใหญ่ ทําให้กล้าตัดสินใจเลิกขายเหล้า เบียร์

ท่ามกลางเสียงทักท้วงของลูกน้องที่เกรงว่า จะเสียลูกค้าไป เพราะสินค้าไม่ครบถ้วน แต่พี่ชายและพี่สะใภ้ก็ยังยืนยันว่า ต้องเลิกและเชื่อมั่นว่า เลิกแล้วต้องดี พร้อมทั้งสั่งติดป้ายขนาดใหญ่ เป็นการชูจุดเด่นของห้าง ให้ลูกค้าได้ทราบว่า “ทวีกิจไม่ขายเหล้า เบียร์ บุหรี่ เพราะเราห่วงใยคุณและทุกคนในครอบครัว” ช่วงแรกๆ ก็มีลูกค้าบางรายบ่นว่า “เป็นห้างได้ยังไงไม่มีเหล้า เบียร์” บางรายก็แกล้งว่า “จะเจ๊งรึไง ของถึงไม่ครบ” แต่ผลก็คือ เมื่อเลิกขายเหล้า เบียร์แล้ว ยอดขายในแผนกซุปเปอร์มาเก็ตแทนที่จะลดลงกลับเพิ่มขึ้น โดยบางเดือนเพิ่มขึ้นถึง ๒๐% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนๆ


หักดิบได้... เพื่อให้หลานรักเป็นคนดี
ลูกหยกฟ้า มโนสุดประสิทธิ์ เป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา มาได้เดือนเศษค่ะ ปกติเลิกงานจะต้องไปงานเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนๆ

ก่อนเข้าวัดลูกมักจะดื่มเบียร์ และไวน์ เป็นประจํา เวลาออกงานสังคมสังสรรค์กับเพื่อนฝูง หรือรับรองแขกที่บ้าน จึงต้องซื้อเหล้า เบียร์ ไวน์ เข้าบ้านและในบางครั้งจะมีผู้นํามาฝากจากต่างประเทศ ถึงขนาดคิดจะซื้อตู้แช่ราคาหลายหมื่น พอได้มาวัดความคิดก็เปลี่ยนไป จากเคยดื่ม ก็หยุดดื่ม แต่ยังไม่คิดจะเลิก

แต่เมื่อได้ฟังคุณครูไม่ใหญ่พูดในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา เกี่ยวกับโทษของสุราเมรัย ไม่ว่าจะดู ดม โดน และดื่มก็เป็นอัปมงคล ลูกก็เห็นด้วยกับหลวงพ่อทุกประการ และคิดว่าเรามานั่งสมาธิปฏิบัติธรรม แต่มีสุราอยู่ในบ้านมันแปลกๆ จึงตัดสินใจหักดิบเลิกดื่มอย่างเด็ดขาด เพื่อเป็นต้นแบบที่ดีให้กับหลานในการทําสิ่งที่ดีงามและถูกต้อง และในวันที่ ๓ มิ.ย. ที่ผ่านมา ลูกได้นำเหล้า เบียร์ต่างๆ (น้ำอุบาทว์ข้ามชาติ) ทั้งหมดที่มีอยู่ในบ้าน ซึ่งเก็บสะสมไว้นานนับ ๑๐ ปี เทใส่ถังดำ ๒ ถัง แล้วนําไปเททิ้งท่อระบายน้ำข้างบ้าน

ลูกตั้งใจจะชวนเพื่อนๆ ให้เลิกดื่ม เหมือนกับลูกเจ้าค่ะ และจะไปบอกพี่สาวให้เลิกไหว้บรรพบุรุษด้วยเหล้า (ลูกเป็นคนจีน) จะให้ใช้น้ำหวานหรือน้ำชาแทนค่ะ

คนเมืองเบียร์... ก็เทเบียร์ (เหล้าและไวน์) แล้วครับ
ลูกกัลฯสมศักดิ์ - เฉลิมศรี หัสเดชะ นักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา มาอยู่ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่ต้นปีพ.ศ.๒๕๔๕ จนหลวงพ่อได้เมตตาเปิดโรงเรียนและถ่ายทอดไปทั่วโลก ทําให้ลูกๆ ได้มีโอกาสเรียนเรื่องกฎแห่งกรรม

ตามธรรมเนียมแล้วเวลามีงานเลี้ยงสังสรรค์ เพื่อนๆ ที่มาในงานจะต้องนําเหล้า ไวน์ เบียร์ มาเป็นของกำนัล เพราะในเยอรมนี ถือว่าการให้สิ่งเหล่านี้เป็นของขวัญที่ดีที่สุด

แต่ลูกกลับคิดว่าใครที่จะมางานเลี้ยงที่บ้านของลูก ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือเยอรมัน ก็ให้เขาดื่มเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ก็ได้ ลูกจึงบอกเพื่อนๆ ให้บอกกับสามีชาวเยอรมันเรื่องโทษของเหล้า เบียร์ โดยไม่ต้องเกรงใจ แล้วชวนไปเทเหล้า แม้ว่าชาวเยอรมันส่วนใหญ่ดื่มเบียร์แทนน้ำก็ตาม ผลปรากฏว่าทุกคนตื่นตัวตื่นเต้นที่จะทําหน้าที่นี้ นี่คือจุดเริ่มต้นของการจุดประกายให้กับชาวไทยและชาวเยอรมันอื่นๆ ได้เห็นและทําตาม พวกเราจึงทําพิธีเทเหล้ากันที่เมืองมิวนิค ในวันจันทร์ที่ ๙ มิ.ย. เวลา ๑๑.๐๐ น.

กัลฯจันทิรา แอลิช.. ลูกและสามี (คุณคริสเตียน แอลิช) ขับรถจากเมืองเดกเกนดอร์ฟ มา ๑๐๐ กิโลเมตร เพื่อร่วมพิธีนี้ ปกติแล้วลูกและสามีจะไม่ดื่ม (แต่หากไปงานสามีจะจิบบ้างเล็กน้อย) เมื่อลูกบอกคุณแม่ของคริสเตียนว่าจะมาเทเหล้า คุณแม่บอกว่า “ดีมากที่พวกเธอจะไปเทเหล้าทิ้ง ฉันเห็นด้วย”

กัลฯทรัพย์ อิงคะติงเง่อะ.. แม้สามี ลูก (คุณออนเบริด อิงคะติงเง่อะ) จะติดภารกิจ แต่ก็อนุญาตให้ลูกนำเหล้าที่เก็บไว้ในบ้าน มาร่วมทําพิธีเทเหล้า

กัลฯโยฮัน ไลท์ล ผมเป็นชาวเยอรมันอายุ ๕๐ ปี ผมดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ ๑๔ ปี จนเมื่ออายุ ๓๙ ปี ผมก็สูบบุหรี่ถึงวันละ ๕๐ มวน จนเจ็บหัวใจ หมอให้เลิกสูบบุหรี่ และลดจํานวนการดื่มเหล้าแต่กระนั้นผมก็ยังเลิกดื่มเหล้าไม่ได้

ต่อมาผมได้เข้าใจพระพุทธศาสนามากขึ้น เมื่อภรรยาพามาที่วัดพุทธเอ้าสบวร์ก ผมประทับใจคําสอนของหลวงพ่อ ที่สอนให้รักเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง ไม่ยินดีในรายได้เล็กน้อย จากการเอาสิ่งไม่ดีหยิบยื่นให้เพื่อนมนุษย์

ผมกับภรรยาก็ตัดสินใจเดินทางจากเมืองอาเชา มาที่ มิวนิค (ประมาณ ๖๐ กิโลเมตร) เพื่อนำเหล้า เบียร์ทั้งหมดไปทําพิธีเททิ้งด้วยตัวเอง ผมรู้สึกดีมากแล้วยังได้ไปเล่าให้เพื่อนที่บริษัทฟังด้วยและพยายามพูดชักชวนเพื่อนให้เลิก ผมอยากให้รัฐบาลเยอรมัน มีมาตรการกับการผลิตเหล้า เบียร์ บุหรี่ให้เด็ดขาด

มหกรรมรวมใจเทเหล้า เผาบุหรี่ เพื่อความอยู่ดี กินดี ของสังคม
ระดับจังหวัด ครั้งแรกของโลก จ.ชลบุรี
วันจันทร์ที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ หมู่บ้านปัญญารีสอร์ท จ.ชลบุรี

ชาวชลบุรีรวมใจกันสร้างความภูมิใจ เป็นแบบอย่างของคนทั้งโลกอีกครั้ง ซึ่งมีสโลแกนว่า “ลูกพระราชฯ ลด ละ เลิกอบายมุข เพื่อพ้นทุกข์ในอบาย” และได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณพระเทพกิตติปัญญาคุณ มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และยังมีคณะสงฆ์ในจังหวัดชลบุรีอีกหลายรูป ซึ่งล้วนแต่เป็นพระผู้ใหญ่ในจังหวัด ทั้งรองเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอําเภอเมือง เจ้าคณะอําเภอศรีราชา รองเจ้าคณะอำเภอบางละมุง เจ้าคณะตำบลศรีราชา และเจ้าอาวาสอีกหลายวัด รวม ๒๒ รูป และยังได้รับความร่วมมือจากคุณบรรจบ รุ่งโรจน์ นายอำเมือง จ.ชลบุรี มาร่วมเป็นสักขีพยานในการทําความดี จากนั้นก็เชิญตัวอย่างของยอดนักสร้างบารมีที่ตั้งใจเลิกเหล้า และเลิกขายเหล้า มาพูดเปิดใจด้วยหลายท่านคือ

กัลฯนนทวัฒน์ สืบสุข ที่เก็บเหล้าไว้นานถึง ๓๐ ปี จนได้โอกาสดีนี้นํามาเทร่วมกัน

กัลฯประยูร สุวรรณฆะนะ ที่เก็บเหล้าไว้ถึง ๓๐ กว่าขวด นานหลายสิบปี และยังเลิกขายเหล้าอย่างเด็ดขาดด้วย

กัลฯSusan Yee weeHar (ซูซาน ยีวีฮาร์ เป็นชาวมาเลเซีย) เป็นเจ้าของบาร์เบียร์ถึง ๑๕ สาขา แต่เลิกกิจการได้ตั้งแต่เป็นลูกพระราชฯ และเทเหล้าที่เก็บไว้ตั้งแต่ก่อนจะมีกิจกรรมนี้แล้วค่ะ

กัลฯจารุวรรณ ธิมาภรณ์ ขายเหล้ามา ๑๐ กว่าปี มาวันนี้ตั้งใจเลิกขายเด็ดขาด

กัลฯสายชล รอดถนอม ที่เป็นต้นบุญให้หมู่คณะ ยอมเทเหล้าดีกว่าเอาไปให้เพื่อน เพราะอยากอยู่บนวิมานดีๆ สบายๆ ใกล้หลวงพ่อดีกว่าที่จะไปกรอกน้ำกรดให้กับเพื่อนในอบาย

กัลฯบุณย์ธนิสร์-สรีระเพ็ญ โอทกานนท์ และครอบครัว เป็นต้นบุญและเจ้าของสถานที่ที่สนับสนุนให้มีการรวมเทเหล้าในครั้งนี้

ต่อจากนั้นพระเดชพระคุณพระเทพกิตติปัญญาคุณท่านก็เมตตามอบโอวาทให้กับพวกเราเกี่ยวกับบุญกุศลที่เราเป็นต้นแบบของคนทั้งโลกที่เราทําในครั้งนี้

จากนั้นท่านนายอําเภอท่านก็ได้กล่าวชื่นชมกับกิจกรรมนี้และจะขยายกิจกรรมนี้ไปสู่ระดับของตําบล อำเภอ และจังหวัดต่อไป

วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๙ ประจำเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖



***สามารถนำไปเผยแพร่ได้ แต่ขอให้ใส่ Cr. ผู้เขียนด้วย***

คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญ ในรูปแบบของ PDF

https://drive.google.com/file/d/1-GH37LtVWV9JrKJ74Brr0UuJgVWg1W_d/view

คลิกอ่านวารสารอยู่ในบุญ ในรูปแบบของ E-book
http://dhammamedia.org/YNB%202546/09YNB_4607/09YNB_4607.html

คลิกอ่านแต่ละบทความของวารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๙ ประจำเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้ที่นี่

เลิกบุหรี่ สุราเมรัย คือความภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ เลิกบุหรี่ สุราเมรัย คือความภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 02:27 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.