ท่าทีต่อสงฆ์ในยุคปัจจุบัน
ในปัจจุบัน มีการเสนอข่าวในแง่ลบเกี่ยวกับพระภิกษุสงฆ์ในสังคมไทยอยู่บ่อย
ๆ เกิดเป็นกระแสความคิดว่า พระสงฆ์เป็นปัญหาสังคม
ทำให้ชาวพุทธเสื่อมศรัทธาไม่อยากทำบุญ และเริ่มหนักขึ้นจนกลายเป็นการจ้องจับผิดพระ
ถึงขนาดด่าว่าพระอย่างเสียหาย พระสงฆ์ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นที่พึ่งทางจิตใจของญาติโยม
มีบทบาทและมีความสำคัญต่อพระพุทธศาสนา ถูกล่วงเกินและลดบทบาทลงอย่างเห็นได้ชัด
" พระภิกษุตามวัดต่าง
ๆ มีอยู่เป็นจำนวนมาก
ที่ตั้งใจรักษาศีล
ปฏิบัติธรรม ฝึกจิต
ยินดีในความมักน้อย
สันโดษ แต่สื่อไม่ได้นำข่าว
ในด้านดีของพระมาเสนอต่อสาธารณชน
ผู้คนในสังคมจึงพากันเข้าใจว่าพระดี
ๆ หาไม่ได้แล้ว"
แนวคิดสำคัญของชาวพุทธที่ดีที่พึงปฏิบัติต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็คือ
การใช้ปัญญาพิจารณาแยกแยะตามความเป็นจริง ถ้าหากเราทำความเข้าใจโดยแยกแยะให้ดี
ก็จะพบว่า พระภิกษุสามเณรในประเทศไทยมีอยู่ถึง ๓๐๐,๐๐๐
กว่ารูป จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีผู้ประพฤติผิดพระธรรมวินัยบ้าง
เพราะคนในโลกนี้มีทั้งคนดีและไม่ดี จึงเป็นไปได้ที่คนไม่ดีจะหลุดเข้ามาบวช
แม้ในสมัยพุทธกาลก็มีพระภิกษุจำนวนไม่น้อยที่ทำผิดศีลจนขาดจากความเป็นพระ
แต่ขณะเดียวกันพระภิกษุที่ตั้งใจออกบวช ฝึกตนจนเป็นพระอริยสงฆ์ ก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก
สำหรับในปัจจุบัน
พระภิกษุที่ตั้งใจศึกษาและปฏิบัติธรรมก็ยังมีอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย ดังเช่น
พระภิกษุในโครงการบวชแสนรูป ที่มีการฝึกตน ทนหิว บำเพ็ญตบะ เพื่อเป็นพระแท้
และยังมีการเดินธุดงค์ไปพัฒนาวัดร้างทั่วประเทศ รวมทั้งพระภิกษุตามวัดต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากที่ตั้งใจรักษาศีลปฏิบัติธรรม
ฝึกจิต ยินดีในความมักน้อยสันโดษ
แต่สื่อไม่ได้นำข่าวในด้านดีของพระมาเสนอต่อสาธารณชน
ผู้คนในสังคมจึงพากันเข้าใจว่าพระดี ๆ หาไม่ได้แล้ว
ถ้าหากเราพิจารณาให้ดีก็จะพบว่าวัฒนธรรมการเสนอข่าวของทุกวันนี้ คือ เน้นการนำเสนอข่าวลบหรือข่าวร้าย บางข่าวก็ไม่ตรงกับความเป็นจริง มีคำกล่าวหนึ่ง ที่สะท้อนภาพของสื่อได้ชัดเจน คือ “ข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีเสียตังค์” และถ้าหากเราลองไปสำรวจข่าวที่พาดหัวอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน ก็จะพบว่า ข่าวส่วนใหญ่เป็นข่าวฆาตกรรม ข่าวคนฆ่าตัวตาย ข่าวคนทำผิดกฎหมาย ข่าวด้านลบเรื่องส่วนตัวของดารา เป็นต้น
ดังนั้น สิ่งที่เราควรจะช่วยกันทำก็คือทำหน้าที่ของการเป็นชาวพุทธที่ดี ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสถึงบทบาทของอุบาสกในพระพุทธศาสนาไว้ใน หานิสูตร อังคุตตรนิกายสัตตกนิบาตว่า “ธรรม ๗ ประการ เป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมของอุบาสก คือ อุบาสกไม่ขาดการเยี่ยมเยียนภิกษุ ๑ ไม่ละเลยการฟังธรรม๑ ศึกษาในอธิศีล ๑ มากด้วยความเลื่อมใสในภิกษุทั้งที่เป็นเถระ ทั้งเป็นผู้ใหม่ ทั้งปานกลาง ๑ ไม่ตั้งจิตติเตียน ไม่คอยเพ่งโทษ ๑ ไม่แสวงหาเขตบุญภายนอก ๑ กระทำสักการะก่อนในเขตบุญในศาสนานี้ ๑” นั่นคือ ชาวพุทธที่ดีควรเข้าวัดปฏิบัติธรรม และช่วยกันดูแลพระพุทธศาสนา อุปัฏฐากพระภิกษุสามเณรให้ดี ให้ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยอย่างเต็มที่ พระภิกษุสามาเณรรูปใดที่ปฏิบัติชอบ ก็ช่วยส่งเสริมยกย่องให้เป็นต้นแบบของสังคม ผู้ที่มาภายหลังจะได้เจริญรอยตาม แต่ถ้าพบพระภิกษุสามเณรรูปใดปฏิบัติตนไม่เหมาะสม ก็ช่วยกันจัดการแก้ไข ไม่นิ่งดูดาย แต่ไม่ควรนำมาประจานให้หมู่สงฆ์เสียหาย ดังที่ปรากฏในหน้าสื่อในปัจจุบัน ควรแก้ไขด้วยการแจ้งผู้ปกครองสงฆ์ หรือถวายความรู้ท่านบ้างด้วยจิตปรารถนาดี หากท่านไม่ได้ทำความผิดร้ายแรงและสามารถกลับตัวกลับใจได้ ก็จะเป็นกำลังของพระศาสนาต่อไป หากชาวพุทธมีท่าทีที่ถูกต้องกับข่าวที่ปรากฏ และปฏิบัติต่อพระสงฆ์ได้เหมาะสมกับฐานะของตนเช่นนี้ พระสงฆ์ก็จะเป็นกำลังที่เข้มแข็งในการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญต่อไปอีกยาวนาน
ถ้าหากเราพิจารณาให้ดีก็จะพบว่าวัฒนธรรมการเสนอข่าวของทุกวันนี้ คือ เน้นการนำเสนอข่าวลบหรือข่าวร้าย บางข่าวก็ไม่ตรงกับความเป็นจริง มีคำกล่าวหนึ่ง ที่สะท้อนภาพของสื่อได้ชัดเจน คือ “ข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีเสียตังค์” และถ้าหากเราลองไปสำรวจข่าวที่พาดหัวอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน ก็จะพบว่า ข่าวส่วนใหญ่เป็นข่าวฆาตกรรม ข่าวคนฆ่าตัวตาย ข่าวคนทำผิดกฎหมาย ข่าวด้านลบเรื่องส่วนตัวของดารา เป็นต้น
ดังนั้น สิ่งที่เราควรจะช่วยกันทำก็คือทำหน้าที่ของการเป็นชาวพุทธที่ดี ดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสถึงบทบาทของอุบาสกในพระพุทธศาสนาไว้ใน หานิสูตร อังคุตตรนิกายสัตตกนิบาตว่า “ธรรม ๗ ประการ เป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมของอุบาสก คือ อุบาสกไม่ขาดการเยี่ยมเยียนภิกษุ ๑ ไม่ละเลยการฟังธรรม๑ ศึกษาในอธิศีล ๑ มากด้วยความเลื่อมใสในภิกษุทั้งที่เป็นเถระ ทั้งเป็นผู้ใหม่ ทั้งปานกลาง ๑ ไม่ตั้งจิตติเตียน ไม่คอยเพ่งโทษ ๑ ไม่แสวงหาเขตบุญภายนอก ๑ กระทำสักการะก่อนในเขตบุญในศาสนานี้ ๑” นั่นคือ ชาวพุทธที่ดีควรเข้าวัดปฏิบัติธรรม และช่วยกันดูแลพระพุทธศาสนา อุปัฏฐากพระภิกษุสามเณรให้ดี ให้ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยอย่างเต็มที่ พระภิกษุสามาเณรรูปใดที่ปฏิบัติชอบ ก็ช่วยส่งเสริมยกย่องให้เป็นต้นแบบของสังคม ผู้ที่มาภายหลังจะได้เจริญรอยตาม แต่ถ้าพบพระภิกษุสามเณรรูปใดปฏิบัติตนไม่เหมาะสม ก็ช่วยกันจัดการแก้ไข ไม่นิ่งดูดาย แต่ไม่ควรนำมาประจานให้หมู่สงฆ์เสียหาย ดังที่ปรากฏในหน้าสื่อในปัจจุบัน ควรแก้ไขด้วยการแจ้งผู้ปกครองสงฆ์ หรือถวายความรู้ท่านบ้างด้วยจิตปรารถนาดี หากท่านไม่ได้ทำความผิดร้ายแรงและสามารถกลับตัวกลับใจได้ ก็จะเป็นกำลังของพระศาสนาต่อไป หากชาวพุทธมีท่าทีที่ถูกต้องกับข่าวที่ปรากฏ และปฏิบัติต่อพระสงฆ์ได้เหมาะสมกับฐานะของตนเช่นนี้ พระสงฆ์ก็จะเป็นกำลังที่เข้มแข็งในการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญต่อไปอีกยาวนาน
Cr. พระมหาวุฒิชัย วุฑฺฒิชโย ป.ธ.๙
จากหนังสือ ความรู้พื้นฐานทางพระพุทธศาสนา GB 101
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๖๑ เดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
แนวคิดในการสร้างวัดพระธรรมกาย (ปีก่อนหน้า)
การเป็นนักสร้างบุญบารมีความจน-ความรวยในพระพุทธศาสนา
การปฏิบัติเพื่อฝึกใจตามเส้นทางสายกลาง
การบูชามหาปูชนียาจารย์..บุคคลผู้ควรบูชา
แม่บทแห่งธรรม ธัมมจักกัปปวัตตสูตร
การเดินทางไปสู่ปรโลก
จิตเกษมในยุคชาวศิวิไลซ์ (ปีถัดไป)
ท่าทีต่อสงฆ์ในยุคปัจจุบัน
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
21:26
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: