ตู้พระไตรปิฎก มรดกประณีตศิลป์
ลวดลายอันอ่อนช้อยที่ปรากฏบนตู้พระไตรปิฎกเป็นงานศิลปะไทยของช่างศิลป์โบราณ
อันเกิดจากขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม และความเชื่อที่บ่มเพาะสืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่สมัยที่ดินแดนแหลมทองแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของอาณาจักรโบราณต่าง
ๆ
ผสานสอดแทรกกับวิถีชีวิตแห่งไทยที่ผูกพันใกล้ชิดกับธรรมชาติด้วยเป็นสังคมเกษตรกรรม
และความเชื่อมั่นศรัทธาในพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจมาช้านานจนก่อเกิดเป็นงานศิลป์ที่มีรูปแบบเฉพาะ
กลายเป็นความงามอย่างลงตัวทางสุนทรียภาพบนพื้นฐานวิถีแห่งไทย วิถีแห่งธรรม
ที่ยังความภาคภูมิใจของคนในชาติมาจนถึงปัจจุบัน
อาจกล่าวได้ว่า
ศาสนาเป็นบ่อเกิดของศิลปะอันวิจิตร ด้วยแรงรักแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนผู้ปรารถนาอุทิศตนสร้างผลงานอันวิจิตรงดงามสะท้อนผ่านพุทธศิลป์ชั้นเลิศด้วยฝีมือชั้นครูของช่างหลายแขนงสำหรับงานประณีตศิลป์บนตู้พระไตรปิฎกหรือตู้พระธรรมนั้น
เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของจิตรกรรมชั้นสูงที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนวัตถุ
ที่ปราชญ์ผู้มีฝีมือช่างแต่โบราณบรรจงจำหลักเส้นสายที่งดงามและแช่มช้อย
เพื่อบอกเล่าเรื่องราวคำสอนในพระพุทธศาสนาผ่านลวดลายต่าง ๆ เช่น ลายรดน้ำ
ลายกำมะลอ ลวดลายเหล่านี้ประดับตกแต่งส่วนต่าง ๆ ของตู้ ตั้งแต่หัวเม็ดทรงมัณฑ์
คือ ส่วนยอดด้านบนทั้งสี่มุมจรดเสาขาตู้ด้านล่างโดยพื้นที่หลักของลวดลาย คือ ด้านหน้าช่วงบานประตูซ้ายขวา
ส่วนด้านหลังตู้และภายในตู้ส่วนที่เป็นชั้นสำหรับวางคัมภีร์นั้นไม่นิยมตกแต่งลวดลาย
แต่ทาด้วยรักทึบ
ลายรดน้ำบนพื้นชาด รูปเทวดา ประกอบลายดอกพุดตานบนบานตู้พระธรรม ศิลปะล้านนา |
ลายกำมะลอตกแต่งส่วนขาตู้พระไตรปิฎก |
“ตู้ลายทอง” เป็นคำที่มักใช้เรียกตู้พระไตรปิฎกที่ตกแต่งด้วยลายรดน้ำ
ลงรักปิดทองทั้งตู้ เป็นงานศิลปะไทยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น คือ เป็นภาพที่ใช้สีเพียง
๒ สี คือ สีทองของทองคำและสีดำของยางรัก หรือบางครั้งเป็นสีทองบนพื้นหลังสีแดง
ไม่ปรากฏหลักฐานระบุแน่ชัดว่าสังคมไทยเริ่มเขียนลายรดน้ำนี้ขึ้นเมื่อใด
แต่ถ้าหากพิจารณาลวดลายจากตู้พระธรรมที่เก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร
และหอสมุดแห่งชาติ
จะเห็นความแตกต่างของรูปแบบในเชิงช่างที่โดดเด่นสามารถระบุยุคสมัยของงานศิลปะจากรูปแบบของลวดลายได้เป็น
๓ สมัย คือ สมัยอยุธยา สมัยธนบุรี และสมัยรัตนโกสินทร์
ตู้พระธรรมขาหมู ลายรดน้ำ วาดลวดลายเรื่องรามเกียรติ์ |
ลวดลายสมัยอยุธยามีความอ่อนช้อย
ปลายพลิ้วแสดงถึงความมีอิสระของช่างไทยที่แสดงฝีมือได้อย่างเต็มที่โดยไม่ถูกจำกัดด้วยรูปแบบต้นร่าง
ลวดลายและองค์ประกอบบนตู้พระไตรปิฎกจึงมีทั้งที่เป็นรูปแบบเดียวกันและแตกต่างกัน
แต่สอดคล้องลงตัวอย่างพอเหมาะงดงาม ถ้าเป็นสมัยอยุธยาตอนต้น
ครูช่างจะมีช่องไฟเว้นไว้พองาม ส่วนสมัยอยุธยาตอนปลายนั้น
ศิลปินนิยมเขียนลายเต็มพื้นที่ ความงดงามดังกล่าวบอกเล่าสะท้อนถึงสังคมที่อยู่ดีมีสุข
และจิตใจอันอ่อนโยนของผู้คนในสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี
แต่เมื่อบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะศึกสงครามยืดเยื้อยาวนานช่วงปลายกรุงศรีอยุธยา
ไฟสงครามและความพลัดพรากสูญเสียได้บั่นทอนความสุนทรีในจิตใจของผู้คน
ลวดลายศิลปะในสมัยธนบุรีจึงขาดอิสระในปลายเส้น
และความพิถีพิถันในการเขียนลายก็น้อยกว่าสมัยอยุธยา ส่วนในสมัยรัตนโกสินทร์
ช่างมักยึดติดกับต้นแบบที่ร่างไว้ ทำให้ลวดลายมักเป็นลายเดียวกันตลอดทั้งตู้
ปลายเส้นก็ดูแข็งกระด้าง ขาดอิสระไม่อ่อนช้อยพลิ้วไหวเหมือนยุคที่ผ่านมา
ถึงกระนั้นก็ยังคงความงดงามวิจิตรบรรจงได้อย่างน่าชื่นชม
ภาพสัตว์หิมพานต์ ลายรดน้ำ ตู้พระธรรมวัดเชิงหวาย ตู้พระธรรมวัดเชิงหวาย ศิลปะอยุธยา (พุทธศตวรรษที่ ๒๔) |
ลายรดน้ำผูกลายกระหนกก้านขด เรื่องรามเกียรติ์ ศิลปะรัตนโกสินทร์ |
“ตู้ลายรดน้ำฝีมือครูวัดเชิงหวาย”
ได้รับการยกย่องว่าเป็นศิลปะชั้นเอกที่เลิศล้ำวิจิตรด้วยฝีมือชั้นครูของสกุลช่างวัดเชิงหวายที่มีชื่อเสียงในสมัยอยุธยา
นอกจากลายเส้นที่คมชัดและความพลิ้วไหวของปลายลวดลายกระหนกประดุจเปลวเพลิงแล้ว
ช่างฝีมือยังได้สอดแทรกภาพสัตว์ เช่น นก กระรอก ผีเสื้อ
ที่ดูมีชีวิตเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติไว้ในลวดลายที่สอดคล้องกลมกลืนไปกับความพลิ้วไหวของลายกระหนกได้อย่างลงตัว
บ่งบอกถึงอัจฉริยภาพเชิงช่างของครูศิลป์แต่โบราณ
อีกทั้งในด้านองค์ประกอบและช่องไฟยังถือเป็นต้นแบบให้แก่งานลายรดน้ำในยุคต่อ ๆ
มาอีกด้วย ปัจจุบันตู้ลายรดน้ำฝีมือครูวัดเชิงหวายจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
จำนวน ๒ ตู้ โดยตู้แรกเป็นตู้ฐานสิงห์ตกแต่งด้วยลวดลายกระหนกเปลวเครือเถา
ส่วนตู้ที่สองตกแต่งด้วยลายกระหนกรวง
ตู้ลายรดน้ำฝีมือครูวัดเชิงหวาย สอดแทรกภาพสัตว์นานาชนิดที่เคลื่อนไหวไปตามความพลิ้วไหวของลวดลายอย่างลงตัว |
“กำมะลอ” เป็นลายประณีตศิลป์อีกแขนงหนึ่งที่ปรากฏบนตู้พระธรรม
ซึ่ง น. ณ ปากน้ำ กล่าวไว้ในพจนานุกรมศิลปะว่า “ลายกำมะลอ
คือ ลายทองรดน้ำ
แล้วเอารักผสมสีฝุ่นและชาดระบายผสมลงไปกับลายทองบนผนังที่ลงพื้นรักไว้
ทำให้เกิดภาพสวยงามมากมักนิยมทำกับตู้พระไตรปิฎกและเครื่องใช้ไม้สอยเล็ก ๆ เช่น
ตะลุ่มและพาน เป็นต้น” สันนิษฐานว่า
ลายกำมะลอมีมาตั้งแต่ครั้งปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
โดยรับอิทธิพลจากศิลปะจีน
สาเหตุที่ทำให้ลายกำมะลอเป็นที่ยอมรับอาจเป็นเพราะแต่เดิมคนไทยรู้จักเพียงลายรดน้ำที่มีเพียงสีทองบนพื้นสีดำหรือแดงแต่เพียงอย่างเดียว
จึงนำจิตรกรรมจีนที่สีสันหลากหลายแปลกตามาประยุกต์ตามอุดมคติไทย
ลวดลายประดิษฐ์ตามอย่างแบบจีนแบบเดิม เช่น ภาพเซี่ยวกางยืนบนสิงโตจีน ลายดอกโบตั๋น
ได้รับการพัฒนาผสมผสานตามอุดมคติแบบไทย อาทิ ภาพกินรา กินรี ตัวนรสิงห์
ลวดลายกระหนก เปลวหางกินรี ดังที่ปรากฏอยู่บนตู้พระธรรม เป็นต้น
ลายรดน้ำกำมะลอ เรื่องอิเหนา ศิลปะรัตนโกสินทร์ |
ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ศิลปะลายกำมะลอเริ่มมีความเด่นชัดในรูปแบบ มีความเป็นเอกลักษณ์อย่างไทยมากยิ่งขึ้น
โดยการนำเอาเรื่องราวในวรรณคดีไทยมาเขียนเล่าเรื่อง เช่น
เรื่องรามเกียรติ์บนตู้พระไตรปิฎกในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ส่วนลวดลายบนตู้พระไตรปิฎกในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
จันทรเกษม จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นเรื่องเกี่ยวกับชาดกต่าง ๆ เป็นต้น
งานประณีตศิลป์บนตู้พระไตรปิฎกนอกจากแสดงถึงเรื่องราวในพระพุทธศาสนาหรือวรรณคดีที่ช่างศิลป์ต้องการถ่ายทอดผ่านลวดลายต่าง
ๆ แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สื่อออกมาพร้อม ๆ กับความงดงามทางศิลปะก็คือ
ความรักและความศรัทธาที่มีต่อพระพุทธศาสนาของช่างศิลป์และผู้มีส่วนในการสร้างตู้พระไตรปิฎก
ลายเส้นสีทองที่พลิ้วไหวของปลายกระหนกที่ปรากฏบนตู้พระไตรปิฎก
มิได้เพียงแสดงถึงความงดงามด้านประณีตศิลป์ที่จับต้องได้เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความประณีตของจิตใจช่างฝีมือชั้นครูผู้บรรจงสร้างผลงาน
ตลอดจนจิตใจของพุทธบริษัท ๔ ในกาลก่อนที่เคารพบูชาพระพุทธศาสนาเหนือสิ่งอื่นใด
ศิลปะวิจิตรบรรจงบนตู้พระไตรปิฎกคู่ควรรองรับคัมภีร์อันสูงค่าของพระบรมครูที่บรรพบุรุษไทยพยายามบอกกล่าวลูกหลานไทยให้ดูแลพระพุทธศาสนาอย่างดีที่สุด
มรดกประณีตศิลป์คงไร้ค่าหากพระพุทธศาสนาหมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
เมื่อความงามและสุนทรียศาสตร์อันเป็นเอกลักษณ์ของสังคมไทยผูกพันแน่นแฟ้นกับพระพุทธศาสนาเช่นนี้
เราผู้เป็นพุทธศาสนิกชนจึงควรหวงแหนรักษาพระพุทธศาสนาให้คงอยู่คู่ผืนแผ่นดินของเราต่อไป
เพราะถ้าพระพุทธศาสนาสูญหายไป ก็เท่ากับเอกลักษณ์ความเป็นชาติของเราถูกทำลายไปด้วย
------------------------------------------
บุญเตือน ศรีวรพจน์.
รามเกียรติ์จากตู้ลายรดน้ำ. กรุงเทพฯ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์
กรมศิลปากร, ๒๕๕๕.
ศิลป์ พีระศรี. เรื่องตู้ลายรดน้ำ.
พระนคร : กรมศิลปากร, ๒๕๐๓.
อภิวันทน์ อดุลยพิเชฏฐ์. ลายรดน้ำ.
กรุงเทพฯ : เมืองโบราณ, ๒๕๕๕.
Cr. Tipitaka (DTP)
วารสารอยู่ในบุญ ฉบับที่ ๑๖๑ เดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๙
คลิกอ่านพระไตรปิฎก (DTP) ของวารสารอยู่ในบุญ ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
|
คลิกอ่านพระไตรปิฎก (DTP) ของวารสารอยู่ในบุญ ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ…พระไตรปิฎกของชาวไทย (ปีก่อนหน้า)
สองพระมหากษัตริย์...ร่มฉัตรปกแผ่นดิน
สองพระมหากษัตริย์...ร่มฉัตรปกแผ่นดิน
ผ้าห่อถักทอเชื่อมสายบุญ (ปีถัดไป)
ตู้พระไตรปิฎก มรดกประณีตศิลป์
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
01:38
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: