สันติภาพที่ยั่งยืน ต้องเริ่มจากสันติสุขภายใน
สันติภาพที่ยั่งยืน
ต้องเริ่มจากสันติสุขภายใน
ณ ห้องสมุดแห่งหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย หญิงคนหนึ่งกล่าวหลังจากได้นั่งสมาธิกับพระอาจารย์จากโครงการพีซเรฟโวลูชันว่า เคยฝึกสมาธิด้วยวิธีการอื่นมาก่อน เป็นวิธีที่มักจะสอนให้รู้จักตัวเอง แต่สำหรับเธอยิ่งฝึกกลับยิ่งเครียด แต่วิธีการที่ปฏิบัติในวันนี้ก็สอนให้รู้จักตัวเองเหมือนกันแต่ไม่เหมือนกัน คือ เมื่อเธอเอาใจกลับมาวางที่ศูนย์กลางกาย เธอกลับรู้สึกว่า ความเครียดที่แบกมาทั้งวันหายไปหมดเลย เธอรู้สึกถึงความสุขและความผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน และเมื่อถึงช่วงแผ่เมตตา เธอรู้สึกเบาสบาย ตัวขยายเหมือนลอยได้ ซึ่งทำให้เธอประหลาดใจมากเลยทีเดียว
เมื่อวันที่ ๒๖-๒๘
กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ ปฐมบทแห่งการสร้างสันติภาพโดยเริ่มจากสันติสุขภายใน
หรือกิจกรรมที่เรียกว่าไปโป (PIPO) ที่ประเทศออสเตรเลียได้เกิดขึ้นแล้วที่เมืองเมลเบิร์น
โดยมีทีมงานชาวท้องถิ่นซึ่งเป็นพีซเอเจนต์ชาวออสเตรเลีย ๒ คนคอยอุปัฏฐากพระอาจารย์
ได้แก่ อะดิน และคาเอลา
พวกเขาคือคนที่ติดต่อประสานงานและเตรียมการในการจัดกิจกรรมสุดพิเศษในครั้งนี้
เมื่อทั้งอะดินและคาเอลาได้พบกับความสุขภายในจากการฝึกสมาธิอย่างต่อเนื่องความรู้สึกที่อยากจะแบ่งปันความสุขนี้ให้แก่คนอื่น
ๆ ในออสเตรเลียจึงเกิดขึ้น ดังนั้นเมื่อจบการอบรมที่เมืองไทยในรุ่นที่ ๑๕
แล้วอะดินจึงพูดคุยกับคาเอลาถึงการจัดกิจกรรมที่ประเทศออสเตรเลีย
ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตัวเอง
สำหรับกิจกรรมไปโปในออสเตรเลียครั้งนี้
จัดขึ้นที่เมืองเมลเบิร์น
ที่เลือกจัดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เพราะประจวบเหมาะกับที่เมืองเมลเบิร์นมีการจัดงาน
Sustainable Living Festival หรือ
การดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนซึ่งเป็นหัวข้อที่ดังมากในกลุ่มประเทศตะวันตกในปัจจุบัน
ดังนั้นอะดินและคาเอลาจึงร่างเอกสารนำเสนอโครงการ “การพัฒนามนุษย์ด้วยสมาธิ”
และได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการในที่สุด เพราะหัวข้อการพัฒนามนุษย์นั้น
อยู่ภายใต้ร่มของ Sustainable Living Festival อยู่แล้ว
กิจกรรมครั้งนี้อะดิน กับคาเอลาวางแผนว่าจะจัด ๓ วัน คือ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์
มีรอบนั่งสมาธิ ๖ รอบ โดยได้รับการสนับสนุนทางด้านสถานที่
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นห้องสมุด และยังมีศาลากลางของเมืองเคนซิงตันอีกด้วย
แต่ในที่นี้จะขอนำมาเล่าสู่กันฟังเพียงบางรอบ
นอกจากนี้
พระอาจารย์ยังได้อธิบายเพิ่มเติมว่า การดำรงชีวิตของมนุษย์นั้นต้องพึ่งปัจจัย ๔
แต่ปัจจุบันทางมาของปัจจัย ๔ ไม่ได้เหมือนกับในอดีต
ทำให้มักจะหลงทางและไม่สนใจเป้าหมายที่แท้จริงในการดำรงชีพและหลงคิดไปว่าความเพลิดเพลินทางสัมผัสต่าง
ๆ นั้น จะทำให้เข้าถึงความสุขในชีวิตได้
แต่การที่ใจของมนุษย์มีกิเลส คือ โลภ โกรธ หลง
ทำให้มนุษย์เกิดความเห็นแก่ตัว จ้องแต่จะปกป้องความสุขของตัวเอง ทำให้ลืมไปว่าทุก
ๆ คนในโลกต่างก็หลงทางในลักษณะเดียวกัน
การที่ต่างคนต่างก็ยังทำหน้าที่ของตนเองไม่สมบูรณ์ (ซึ่งไม่มีใครทำให้สมบูรณ์ได้
๑๐๐ เปอร์เซ็นต์) ทำให้คนในสังคมต่างเพ่งโทษจับผิดกัน
แทนที่จะมีความเข้าอกเข้าใจกัน
เมื่อจบการบรรยายเสียงปรบมือก็ดังขึ้นพระอาจารย์เสริมว่า
สิ่งที่ทางพีซเรฟโวลูชันทำอยู่ก็คือ
การเผยแพร่สิ่งเหล่านี้ให้ทุกคนทั้งโลกเข้าใจตรงกัน และแถมด้วยการเปิดเพลง Change
the World ให้ฟัง
ไม่น่าเชื่อว่าเพลงนี้กับภาพประกอบเพลงที่มีคนต่างชาติต่างศาสนา
และต่างเผ่าพันธุ์หันมานั่งสมาธิสามารถเรียกน้ำตาให้คลอเบ้าของหลาย ๆ
คนที่นั่งอยู่ในห้องนั้นได้
พระอาจารย์พูดถึงการบริหารจัดการความเครียดด้วยสมาธิ
ว่าแม้สมาธิจะช่วยขจัดความเครียด แต่ถ้าอยากจะเป็นคนไม่เครียดต้องรู้จักปล่อยวาง
โดยการปล่อยวางนั้นก็ให้ดูว่า สิ่งใดเป็นหรือไม่เป็นปัญหา
ถ้าไม่เป็นปัญหาก็อย่าเก็บมาคิด
ส่วนที่เป็นปัญหาก็ให้ดูว่าเป็นปัญหาที่แก้ได้หรือไม่ ถ้าแก้ไม่ได้ก็อย่าเก็บมาคิด
แต่ถ้าแก้ได้ก็ให้แก้ด้วยปัญญา
ไอน์สไตน์ยังบอกเลยว่า
เราจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยใจที่ก่อให้เกิดปัญหานั้น ส่วนชีวิตของเรานั้น
ปัญหามันไม่หมดไปหรอก มันจะมีตั้งแต่เราเกิดจนตายนั้นแหละ แต่ถ้าเราทำใจให้สงบ
เราก็จะมีความสุขได้ แม้ปัญหาจะยังวนเวียนอยู่รอบตัวเรา
แต่ความสงบของใจก็เปรียบเสมือนกับตาของพายุที่สงบนิ่งท่ามกลางโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว
ผู้ร่วมกิจกรรมอีกหลายคนบอกว่ารู้สึกตัวเบามาก
ๆ เหมือนลอยได้ และใจเคลื่อนไปถึงจุดที่ปราศจากความคิดได้นาน
ทางเจ้าของสตูดิโอโยคะก็บอกว่าประทับใจในแนวคิดเรื่องการปล่อยวาง
ที่แม้จะฟังดูง่าย ๆ ไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่ก็ทรงพลังและสามารถใช้งานได้จริง
คลิกอ่านพีซเรฟโวลูชันของวารสารอยู่ในบุญ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
สันติภาพที่ยั่งยืน ต้องเริ่มจากสันติสุขภายใน
Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ
on
02:54
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: