ก้าวแรก Peace Revolution ในเยอรมัน แดนคนจริง

ก้าวแรก Peace Revolution
ในเยอรมัน แดนคนจริง
         

มีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาว่า สมัยที่พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี  (สด จนฺทสโร) หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านเคยปรารภว่า ในอนาคตอยากนำวิชชาธรรมกายไปเผยแผ่ที่ประเทศเยอรมนี เพราะท่านเล็งเห็นประโยชน์อันยิ่งใหญ่ที่จะเกิดแก่พระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย อย่างไรก็ตาม ความปรารถนาของท่านเพิ่งมาสำเร็จในยุคหลังนี้ เมื่อคณะศิษยานุศิษย์ของท่านไปสร้างวัดและศูนย์สาขาหลายแห่งที่สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

ต่อมาในเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ทีมงานพีซเรฟโวลูชัน (Peace Revolution) ก็มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการทำความปรารถนาของพระเดชพระคุณหลวงปู่ให้สำเร็จ ด้วยการไปจัดปฏิบัติธรรมในประเทศเยอรมนีเป็นครั้งแรกที่กรุงเบอร์ลิน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ และที่รัฐนอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลน

ในการเดินทางไปครั้งนี้ ทีมงานพีซเรฟโวลูชันค้นพบว่า การปักหลักจัดปฏิบัติธรรมในเมืองใหญ่ ๆ ทำให้มีโอกาสพบปะผู้คนจากประเทศต่าง ๆ ทั่วยุโรปได้ง่ายขึ้น เพราะปัจจุบัน ชาวยุโรปสามารถย้ายถิ่นฐานการทำงานได้อย่างอิสระ ในกรณีของกรุงเบอร์ลินถือว่าเจอชาวต่างชาติ (ที่ไม่ใช่ชาวเยอรมัน) ครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว ทีมงานจึงเข้าถึงผู้คนหลากเชื้อชาติได้ง่ายขึ้น และได้พีซเอเจนต์ (Peace Agent) ง่ายขึ้น ซึ่งถือเป็นลู่ทางที่จะขยายวิชชาธรรมกายให้กว้างไกลออกไปทั่วยุโรปได้สะดวกขึ้น

๑. การปฏิบัติธรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๔-๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ โดยแบ่งออกเป็น ๒ ช่วง ช่วงแรกจัดที่กรุงเบอร์ลิน โดยมีพีซเอเจนต์อังคา โยกูเลสคู (ลิตเติลอังคา) ชาวโรมาเนีย เป็นผู้ประสานงาน ช่วงที่สองจัดขึ้นที่รัฐนอร์ดไรน์เวสท์ฟาเลน มีพีซเอเจนต์ซานโตส กิริ ชาวเนปาล เป็นผู้ประสานงาน ส่วนผู้ควบคุมคุณภาพ (QC) ในการจัดงานครั้งนี้ คือ พีซเอเจนต์อังคา กลิกา ชาวโรมาเนีย ผู้ประสานงานภาคพื้นยุโรป
                       
พีซเอเจนต์ซานโตส กิริ
      
พีซเอเจนต์อังคา โยกูเลสคู (ลิตเติลอังคา)
    
 พีซเอเจนต์อังคา กลิกา (อังคา)                  
                                                                        
๒.การปฏิบัติธรรมรอบแรกจัดที่กรุงเบอร์ลินซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยวด้านประวัติศาสตร์ และเป็นที่ตั้งของกำแพงเบอร์ลินซึ่งแบ่งเยอรมนีออกเป็น ๒ ประเทศ หลังสงครามโลกครั้งที่ ๒

ปัจจุบันกรุงเบอร์ลินมีประชากร ๓.๔ ล้านคน (มีคนไทยประมาณ ๖,๐๐๐ คน) ประชากรราว ๆ ๖๐ เปอร์เซ็นต์ ประกาศตนว่าไม่มีศาสนา อีก ๒๓ เปอร์เซ็นต์ เป็นกลุ่มโปรเตสแตนต์  ๙ เปอร์เซ็นต์ เป็นโรมันคาทอลิก และอีก ๖ เปอร์เซ็นต์ เป็นมุสลิม

การเดินทางไปกรุงเบอร์ลินครั้งนี้ ทีมงานพีซเรฟโวลูชันไปพักที่วัดพระธรรมกายเบอร์ลิน
โดยมีพระอาจารย์และเจ้าภาพให้การดูแลเป็นอย่างดี

ทีมงานจัดปฏิบัติธรรมที่กรุงเบอร์ลินทั้งหมด ๗ รอบ โดยมีลิตเติลอังคาเดินทางมารับทีมงาน ไปนั่งรถไฟใต้ดินเข้าไปทำกิจกรรมในเมืองทุกวัน


๓. รอบที่ ๑ จัดปฏิบัติธรรมที่บอยส์คลับ (Boys Club) บอยส์คลับจัดตั้งโดยกลุ่มนักศึกษาต่างชาติ พวกเขาเปิดพื้นที่ในตึกสำหรับเยาวชนต่างชาติให้มาทำกิจกรรมต่าง ๆ

ความประทับใจอย่างแรกของทีมงานในการจัดปฏิบัติธรรมรอบนี้ ก็คือ ผู้ร่วมกิจกรรมต่างเดินทางมาก่อนเวลา ทำให้การปฏิบัติธรรมเริ่มได้ตรงเวลา ซึ่งถือเป็นเรื่องยากในหลาย ๆ ประเทศ

รอบนี้ นอกจากชาวเยอรมันแล้ว ผู้ร่วมกิจกรรมกว่าครึ่งมาจากประเทศอื่น ๆ เช่น ประเทศอาร์เจนตินา สเปน โคลอมเบีย อเมริกา ฝรั่งเศส ฯลฯ

หลังจากพระอาจารย์นำนั่งสมาธิไปเกือบ ๔๐ นาที เมื่อบอกให้ทุกคนลืมตา ปรากฏว่าเกือบทุกคนรู้สึกผ่อนคลายมาก บางคนรู้สึกเหมือนตัวหาย ตัวลอย บางคนเห็นแสงสว่างส่องขึ้นมา บางคนรู้สึกเหมือนตัวโยกไปมา

เมื่อต่างได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการนั่งสมาธิ พวกเขาก็เริ่มสนใจในสิ่งที่พระอาจารย์แบ่งปัน แต่ชาวยุโรปตะวันตกโดยเฉพาะคนเยอรมันยังเก็บอาการ ไม่แสดงออกทางสีหน้า แต่เห็นหน้านิ่ง ๆ แบบนี้ มีตั้ง ๑๐ กว่าคน ตามพระอาจารย์ไปนั่งสมาธิต่อในรอบอื่น ๆ


๔. รอบที่ ๒ จัดปฏิบัติธรรมที่ซูเปอร์มักต์ (Super Makt) ซึ่งเป็น Co-working Space  หรือพื้นที่ที่เปิดให้คนมาเช่าทำงานเป็นรายชั่วโมง ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในสังคมตะวันตก และเนื่องจากลิตเติลอังคาใช้บริการนี้เป็นประจำ เธอจึงมีเครือข่ายคนรู้จักในกรุงเบอร์ลินมากมาย

การจัดปฏิบัติธรรมรอบที่ ๒ นี้ เริ่มขึ้น หลังจากรอบแรก ๑ ชั่วโมง ทีมงานเดินทางไปด้วยรถไฟใต้ดิน รอบนี้มีหลายคนจากรอบที่แล้ว ตามมาด้วย เมื่อไปถึงซูเปอร์มักต์ก็พบว่ามีคน ๔๐ กว่าคนนั่งรออยู่แล้ว ทำให้เริ่มนั่งสมาธิได้ตรงเวลา

บรรยากาศขณะปฏิบัติธรรมเงียบสงบดี ไม่มีแม้เสียงกระแอม ไอ หรือจาม หลาย ๆ คนรู้สึกสบายมาก บางคนก็ตัวหาย ตัวขยาย บอกว่านั่งแล้วรู้สึกดี มีความสุขมาก แต่หลาย ๆ คนไม่ค่อยเล่าประสบการณ์ โดยเฉพาะคนเยอรมันซึ่งไม่ชอบแสดงออก


. ในการจัดปฏิบัติธรรมรอบที่ ๓, , ๕ นั้น เนื่องจากลิตเติลอังคากว้างขวางใน Co-working Space หลายแห่ง เธอจึงสามารถขอใช้สถานที่ชื่อเบตาเฮาส์ (Beta Haus) ได้ฟรี ๆ ทั้ง ๓ รอบ

การปฏิบัติธรรม ๓ รอบนี้ ลิตเติลอังคาใช้เฟซบุ๊กประชาสัมพันธ์กิจกรรม ประกอบกับ ผู้ที่มาปฏิบัติธรรมตั้งแต่รอบแรกมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี และพระอาจารย์ก็อธิบายเรื่องสมาธิเชื่อมโยงกับเนื้อหาที่แตกต่างกันในแต่ละรอบ หลายคนจึงสนใจตามมาร่วมกิจกรรมอีก ทำให้มีคนมานั่งสมาธิเกือบเต็มห้องทั้ง ๓ รอบ

สมาชิกของเว็บไซต์พีซเรฟโวลูชันชาวสเปนคนหนึ่ง ซื้อตั๋วเครื่องบินมานั่งสมาธิตั้งแต่รอบแรก และเข้าร่วมกิจกรรมทุกวัน เขาบอกว่า ฉันมีความสุขมากๆ ตัวฉันขยายออกไปทุกทิศทางอีกคนหนึ่งมาจากตุรกี เขาบอกว่า ฉันทำสมาธิกับพีซเรฟโวลูชันอยู่แล้ว วันนี้นั่งแล้วมีความสุขมาก ฉันจะทำบันทึกความดีออนไลน์ให้จบ เพื่อที่จะไปร่วมการอบรมที่เมืองไทยให้ได้ส่วนบางคนนั่งสมาธิแล้วเห็นแสงสว่าง บางคนบอกว่า ตอนแรกนึกนิมิตเป็นพระจันทร์ ต่อมาพระจันทร์กลายเป็นพระอาทิตย์ส่องสว่าง

ในแต่ละรอบเมื่อพระอาจารย์ถามว่า    นั่งกันเป็นอย่างไรบ้าง คนที่ตอบมักไม่ใช่ชาวเยอรมัน มีชาวเยอรมันคนหนึ่งเป็นเพื่อน ของลิตเติลอังคา เขาทำหน้าเฉย ๆ ตั้งแต่    ก่อนนั่ง กำลังนั่ง และหลังจากนั่งแล้ว ตอนหลังเขามาบอกลิตเติลอังคาว่า รู้สึกประทับใจมาก  พระอาจารย์อธิบายดีมาก ไม่เคยคิดว่าสมาธิจะดีอย่างนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่รู้สึกว่าสุดยอดมาก นั่งไปก็เห็นเป็นดวงลอยอยู่ตรงหน้า กลมใสสว่างมากทีมงานฟังแล้วก็คิดว่า คนแบบนี้น่าจะเป็นประเภท รักนะแต่ไม่แสดงออก

หลังจากเสร็จสิ้นรอบการปฏิบัติธรรม พวกเขาปรบมือให้พระอาจารย์และทีมงาน แล้วเดินมาขอบคุณ เหมือนจะบอกให้ชื่นใจว่า ชอบนะ แต่ขอแสดงออกแค่นี้แหละ


๖. รอบที่ ๖ ปฏิบัติธรรมที่เรนเมคกิงลอฟต์ บูตแคมป์ (Rainmaking Loft Boot Camp)    ซึ่งเป็นศูนย์รวมของบริษัทขนาดเล็กที่เปิดใหม่ หรือ Start-up Company

ภาพที่พระภิกษุไปสอนสมาธิในกลุ่ม Start-up คงไม่ชินตา ทำให้มีพนักงานที่นั่น    ขอมานั่งสมาธิด้วย และเนื่องจากคนส่วนใหญ่ทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พระอาจารย์จึงอธิบายเปรียบเทียบคอมพิวเตอร์กับใจว่า ร่างกายของคนเราประกอบด้วยใจ เหมือนกับคอมพิวเตอร์ที่ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ถ้าซอฟต์แวร์ติดไวรัสก็ยากที่จะรีดประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ออกมาได้สูงสุด ใจของคนเราก็เช่นกัน จะต้องทำความสะอาดให้ปราศจากไวรัส คือ ความโลภ โกรธ หลง  จึงจะทำให้ใจมีพลัง ซึ่งดูเหมือนว่า การเปรียบเทียบอย่างนี้ช่วยดึงดูดความสนใจของมนุษย์คอมพิวเตอร์พวกนี้ได้เป็นอย่างดี

รอบนี้ พระอาจารย์นำนั่งสมาธิ ๔๐ นาที แต่ทุกคนรู้สึกเหมือน ๒๐ นาทีเท่านั้น หลาย ๆ คนบอกว่า ความเครียดที่มีมาเมื่อสักครู่หายไปจนหมดสิ้น บางคนเห็นแสงสว่าง บางคนตกศูนย์และรู้สึกตกใจ มาถามว่าเกิดอะไรขึ้น นอกจากนี้ หลาย ๆ คนยังสนใจการนั่งสมาธิออนไลน์ และบอกลิตเติลอังคาว่า คงจะวิเศษไม่น้อยถ้าจะมีการนั่งสมาธิออนไลน์กันที่นี่เป็นประจำ

๗. รอบที่ ๗ จัดปฏิบัติธรรมกับกลุ่มทุดกูด (Tut gut) รอบนี้เป็นรอบสุดท้ายในกรุงเบอร์ลิน กลุ่มคนเหล่านี้มีความสนใจด้านสุขภาพและ  จิตวิญญาณเป็นพิเศษ

รอบนี้มีผู้ร่วมปฏิบัติธรรมกว่า ๓๐ คน ซึ่งล้วนมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี คนหนึ่งกล่าว      ว่า รู้สึกง่วงในตอนแรก แต่เมื่อนั่งไป ๆ ตัวก็เบาเหมือนลอยได้ จนกระทั่งตัวหายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับบรรยากาศ อีกคนหนึ่งบอกว่า เขาไม่เข้าใจว่าศูนย์กลางกายอยู่ตรงไหน แต่เมื่อ   ใจนิ่ง ภาพแอปเปิลที่เขานึกอยู่ก็เปลี่ยนเป็นสิ่งกลม ๆ ที่ส่องสว่าง และเป็นประกายมันวาวคล้าย ๆ กระจกส่องหน้า (เขาใช้คำว่า Metal Ball) แล้วศูนย์กลางกายก็ปรากฏขึ้นเองอย่างชัดเจน ทำให้รู้สึกสงบและปราศจากความกังวล อีกคนเดินมาขอบคุณพระอาจารย์ บอกว่านั่งสมาธิมาเกือบ ๒๐ ปีแล้ว ไม่เคยรู้สึกดีอย่างนี้ มาก่อนเลย

๘. เมื่อเสร็จภารกิจที่กรุงเบอร์ลินแล้ว ทีมงานไปจัดปฏิบัติธรรมต่อที่รัฐนอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลน พักค้างที่วัดพุทธนอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลน และได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากพระอาจารย์และโยมอุปัฏฐาก

การจัดปฏิบัติธรรมที่นี่มีพีซเอเจนต์     ซานโตส กิริ นักศึกษามหาวิทยาลัย Rhein-Waal,  Nordrhein-Westfalen เป็นผู้ประสานงาน

ซานโตสทำประชาสัมพันธ์ในมหาวิทยาลัยที่เขาเรียนอยู่ ทำให้มีผู้มาร่วมปฏิบัติธรรมกว่า ๒๐ คน รอบนี้นักศึกษาหญิงชาวเยอรมันคนหนึ่งบอกว่า เธอไม่เคยเชื่อมาก่อนว่า เธอจะสามารถหยุดความคิดได้ หลังจากนั่งสมาธิแล้ว เธอกลับประหลาดใจว่า เมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้น ตัวเธอหายไปไหน สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะไปร่วมปฏิบัติธรรมสุดสัปดาห์ ๓ วันด้วย

เพื่อนของซานโตสคนหนึ่งรู้สึกประทับใจที่ซานโตสมีความสุขในการแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับสันติสุขภายในให้ผู้อื่น ซึ่งกลายเป็น   แรงบันดาลใจให้เขาสนใจเรื่องสมาธิและมา   ช่วยจัดกิจกรรม เมื่อเขาลองนั่งสมาธิดู เขาบอกว่า ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นยากจะอธิบาย เขารู้สึก   ว่ามีพลังบางอย่างแผ่ขยายออกมาจากบริเวณ   หน้าผาก (พระอาจารย์แนะนำว่าสบายตรงไหน      ให้วางใจตรงนั้นไปก่อน) จนกระทั่งความรู้สึก     แผ่ซ่านครอบคลุมหลอมร่างกายให้หายไป ทุกสิ่ง ทุกอย่างดูโล่งไปหมด และความรู้สึกนี้ค่อย ๆ เคลื่อนลงสู่บริเวณกลางท้อง ทำให้รู้สึกสบาย ผ่อนคลาย และหายเครียด


๙. หลังจากนี้ ทีมงานไปจัดปฏิบัติธรรมสุดสัปดาห์ ๓ วัน ที่เมืองเคฟเวลาห์ในรัฐ นอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลน สถานที่จัดปฏิบัติธรรมครั้งนี้ชื่อ World House

เนื่องจากช่วงที่จัดปฏิบัติธรรมเป็นช่วงที่ตรงกับเทศกาลอีสเตอร์ ทำให้นักศึกษาหลายคนต้องกลับบ้าน มาร่วมกิจกรรมไม่ได้ ซานโตสจึงต้องทำงานหนัก ทั้งทำโปสเตอร์ ติดต่อโฆษณาในหนังสือพิมพ์ แต่ก็มีผู้ลงทะเบียนมาเพียง ๑๖ คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย

ในครั้งนี้     ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องรับผิดชอบเรื่องค่าที่พักและอาหารเอง แต่นักศึกษาจากมหาวิทยาลัย Rhein-Waal สามารถเบิกงบสวัสดิการจากมหาวิทยาลัยได้ ซึ่งถือว่าซานโตสไม่ธรรมดาเลยที่สามารถดึงมหาวิทยาลัยให้มาร่วมด้วยช่วยกันได้

ในรอบนี้ ผู้เข้าร่วมปฏิบัติธรรมต่างบอกว่าไม่เคยคิดว่าสมาธิจะเป็นเรื่องง่าย และไม่เคยนั่งสมาธิมากขนาดนี้มาก่อน นอกจากนี้ยัง     ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีผลการปฏิบัติธรรมดีขนาดนี้ ยิ่งนั่งก็ยิ่งดีขึ้นเรื่อย ๆ บางคนบอกว่า เมื่อสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก็รู้สึกเหมือนลมหายใจช้าลง หัวใจก็เต้นช้าลง บางคนบอกว่าเหมือนฝันไป เห็นภาพนิมิตค่อนข้างชัด บางครั้งมี ความสุขมาก ไม่อยากจะลืมตาเลย แต่ที่ทีมงานสังเกตเห็นก็คือ หลายคนดูยิ้มง่ายและมีความสุขมากขึ้น

นอกจากสมาธิ สิ่งที่ทุกคนสนใจมากก็คือ หลักอริยมรรคมีองค์ ๘ ซึ่งเมื่ออธิบายควบคู่กับสมาธิ และหลัก
ในการสร้างนิสัยดี ๆ ผ่านบทฝึก ๕ ห้องชีวิต เนรมิตนิสัย และความดีสากลของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโวแล้ว หลายคนถึงกับพูดว่า สิ่งนี้เหมือนจะเป็นกุญแจที่ไข  ความลี้ลับแห่งการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนเลยทีเดียว


๑๐. ตราบจนถึงวันนี้ หลายคนก็คงยังไม่ทราบว่า พระเดชพระคุณหลวงปู่เล็งเห็นอะไรเกี่ยวกับคนเยอรมันหรือประเทศเยอรมนี แต่ที่แน่ ๆ ปัจจุบันเยอรมนีมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิงที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก ๔ ปีซ้อน (จากนิตยสาร Forbes) และที่สำคัญคนเยอรมันมีคุณสมบัติพิเศษ    อย่างหนึ่งที่ห่างไกลจากคำว่า ไอ้ขี้ไต้” (คำที่หลวงปู่ใช้เรียกคนที่ไม่มีความตั้งใจจริงและ   ไม่มีความสม่ำเสมอในการปฏิบัติธรรม) เพราะคนเยอรมันเป็นคนทำอะไรทำจริง และมีระบบระเบียบในชีวิตมาก หากสนใจการปฏิบัติธรรมก็จะทำจริงและสม่ำเสมอ ดังจะเห็นได้จากเว็บไซต์พีซเรฟโวลูชันที่มีสมาชิกชาวเยอรมันมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่า อีกไม่นานแสงแห่งธรรมจะส่องสว่างกลางใจชาวดอยช์ (Deutsch) อย่างแน่นอน..

อ้างอิง : ทีมงานพีซเรฟโวลูชัน
Cr. อยู่ในบุญ เดือนกันยายน 2557 สำนักสื่อธรรมะ









คลิกอ่านพีซเรฟโวลูชันของวารสารอยู่ในบุญ ตามลิงก์ด้านล่างนี้
จุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมสันติภาพสากล
พลังสมาธิ พลังที่นุ่มนวลที่สุด
Peace Revolution กับพันธกิจพิเศษ ตอน รหัสลับอเล็กซานเดรีย
เมื่อดวงตะวันแห่งอินคาสว่างที่กลางใจชาวเปรู
อริยมรรค..เส้นทางที่รอคอยการค้นพบ
จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนโลกในปี พ.ศ. ๒๕๕๕
พีซเรฟโวลูชัน Peace Revolution ตอนเกาะกลางกาย
ภารกิจสร้างสันติภาพ ในแอฟริกาตะวันออก
ภารกิจสร้างสันติภาพในแอฟริกาตะวันตก
ปฏิบัติการก่อการดี ที่บัลแกเรีย
เยาวชนในแอฟริกา ร่วมกันค้นหา “สันติสุขภายใน”
อีกครั้งในแอฟริกา กับการแสวงหา “สันติสุขภายใน”
ตำรับยารักษาใจ
Peace Architect กับภารกิจออกแบบสันติภาพโลก
การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกในเม็กซิโก ดินแดนที่ผู้คนชอบขอพรพระ
ตามไปดู.. ชาวเปรูนั่งสมาธิกัน
สมาธิกับรอยยิ้มบนใบหน้า ที่เย็นชาของชาวรัสเซีย
จอร์เจีย กับสะพานแห่งสันติภาพ
เอกวาดอร์ ดินแดนบนเส้นศูนย์สูตร กับเส้นทางสู่ศูนย์กลางกาย
เมื่อสันติสุขจากโลกออนไลน์ กลายมาเป็นสันติภาพในโลกแห่งความจริง
“ พีซอาร์คิเทค ” ผู้ออกแบบแผนปฏิบัติการเพื่อสรรค์สร้างสันติภาพโลก
หลับตาและหยุดใจ.. สันติภาพที่แท้จริงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
สันติภาพที่ยั่งยืน ต้องเริ่มจากสันติสุขภายใน
ชีวิตคือสิ่งสวยงาม
ความหวังใหม่ ณ ทุ่งหญ้าและผืนทะเลทรายอันกว้างใหญ่แห่งแอฟริกา
อยู่ไกลเหมือนอยู่ใกล้ หากใจเกาะอยู่ที่ศูนย์กลางกาย
ความสุข ณ ศูนย์กลางกาย กลางทวีปอเมริกา
ก้าวแรก Peace Revolution ในเยอรมัน แดนคนจริง ก้าวแรก Peace Revolution ในเยอรมัน แดนคนจริง Reviewed by สำนักสื่อธรรมะ on 02:58 Rating: 5

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.